CHAPTER 2 เพื่อนสนิท
จุมพิตอันแสนอึดอัดจบลงไปแล้ว อีธานจำใจต้องถอนริมฝีปากจากเธอ ใบหน้าของอีฟแดงก่ำ นี่ครั้งแรกหรือเปล่าที่เธอเขินเขาแบบนี้
“เธอเขินเหรออีฟ”
“...” อีฟแยกเขี้ยวใส่เขาแบบที่ทำเป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาที่อีธานชอบทำอะไรกวนประสาทเธอ
“เอาน่ายิ้มหน่อยคนสวย อย่างน้อยก็ให้พ้น ๆ งานเลี้ยงนี้ไป” อีธานมองหน้าเพื่อนสนิทสาวตัวเล็กที่แสนจะอวบอิ่ม “ยิ้มเจื่อนก็ยังดี” เขากระชับมือเธอมาคล้องแขนเขาเอาไว้
เขาพูดถูก ถึงแม้เธอจะไม่อยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ควรปั้นหน้ายิ้ม ยิ้มเจื่อน ๆ ก็ยังดี
“อืม” เธอรับคำง่าย ๆ
อีฟเห็นแขกที่มาร่วมงานหลายคนเบ้ปาก หลังจากที่เธอเดินเข้าไปหาพวกเขา ต่อหน้าก็ยิ้มแย้มปราศรัยกับเธอเป็นอย่างดี แต่แค่คล้อยหลังไปอีฟก็ได้ยินเสียงนินทา
แย่งแฟนน้องสาว อยากจับอีธานสิไม่ว่า ชุบมือเปิบ หน้าด้าน สารพัดคำด่า ยิ่งกลุ่มเพื่อนสาวของลีอาที่ไม่เคยสนิทกันด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่
อีฟเข้าใจนะ พวกเธอเป็นเพื่อนลีอา อย่างน้อยก็ตั้งใจมางานแต่งหล่อน มารับดอกไม้ของหล่อน แต่กลายเป็นว่าเป็นงานแต่งของพี่สาวเพื่อนไปเสียอย่างนั้น
ส่วนเจ้าบ่าวของหล่อนกลับยิ้มปริ่มแบบไม่สะทกสะท้านสิ่งใด อีธานเป็นแบบนี้มาตลอด เขายิ้มเก่ง ช่างกวนประสาท แถมยังเก่งรอบด้าน เป็นนักกีฬา ฉลาดและป๊อปปูล่าสุด ๆ มาตั้งแต่สมัยประถม จนกระทั่งปัจจุบัน
ดูเหมือนเป็นคนไม่คิดอะไร แต่อีฟรู้ว่าภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังยิ้มแย้มเขากำลังคิดหนัก และเครียดสุด ๆ
ว่าแต่เธอไปกลายเป็นเพื่อนสนิทเขาตั้งแต่ตอนไหนกันนะอีฟจำไม่ได้
ช่วงค่ำแขกกลับไปหมดแล้ว
“ไปเถอะกลับโรงแรมกันเถอะ” อีธานชวนเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กลายมาเป็นภรรยากลับโรงแรมพร้อมกัน
“ไม่เอาอะ นายกลับคนเดียวเถอะ ฉันจะกลับบ้าน” อีฟหอบกระโปรงเจ้าสาวยาวเฟื้อยเอาไว้ เธอเหนื่อยจะตายและเมื่อยมาก ๆ อีฟยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงคู่สวยที่ไม่ใช่ไซซ์ของเธอมาราว ๆ 6-7 ชั่วโมงได้แล้ว
“ไม่ได้ ไปที่โรงแรมก่อนวันนี้ ส่วนวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” อีธานลากเจ้าสาวของตัวเองไปที่รถ
แต่เพราะเขาตัวใหญ่ แรงก็เยอะกว่า อีฟที่ไม่ทันตั้งตัวเลยเหยียบชายกระโปรงตัวเองและล้มคว่ำ
“โอ๊ย!!!!” คนตัวเล็กลงไปนั่งโอดโอยอยู่กับพื้น
คุณนายการ์ดเนอร์ที่ได้ยินเสียงดังโวยวายของลูกสาวก็วิ่งถลันออกมาดู
“ตายแล้วอีฟ เกิดอะไรขึ้นกับลูกเนี่ย” เทเรซ่าหัวเสีย ชุดเจ้าสาวนี่สั่งตัดมาในราคาแห่งหูฉี่ ค่าซักก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ อีฟที่ไม่ใช่เจ้าของชุดควรจะระมัดระวังสักหน่อย “ระวังหน่อยสิ อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่ชุดของลูกนะ” ผู้เป็นแม่แว้ดใส่
เห้อ!! อีฟพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างเหนื่อยหน่าย
“ค่ะ รู้แล้ว หนูขอโทษ” อีฟน้อยใจ ทั้งคุณและคุณนายการ์ดเนอร์ไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ ของเธอ แต่พวกท่านก็มอบความรักให้เธอได้เท่าที่จะมอบให้ได้ ซึ่งแน่นอนมันไม่เท่ากับลีอาและเลออน ที่เป็นลูกแท้ ๆ
“พี่ มาเหอะ เข้าบ้านไปถอดชุดฟู ๆ นี่ออกก่อน” เลออนวิ่งมาประคองคนตัวเล็กให้ลุกขึ้น เขาที่เห็นพี่สาวหน้าเจื่อนก็รีบเข้ามาเป็นตัวกลางก่อนที่แม่จะบ่นเธอจนหูชา
“อีธาน ฉันจะขอให้อีฟไปถอดชุดนี่ออกก่อนนะ แล้วจากนั้นพวกเธอค่อยไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันก็ยังไม่สาย” เทเรซ่ายิ้ม หล่อนพอใจในตัวลูกเขยคนนี้มาก ถึงขนาดตอนที่คุณเลอร์วินผู้เป็นพ่อมาทาบทามลีอาหล่อนก็รีบยกให้แบบไม่ถามเลยสักคำ
น่าเสียดายที่แม่ตัวแสบไม่ได้อยากแต่งงานกับเขา เลยกลายเป็นอีฟที่ได้แต่งแทน ซึ่งแต่งกับอีฟก็ไม่แย่นัก อีฟเป็นเด็กดีหล่อนเชื่อฟัง แม้บางครั้งจะหัวรั้นไปบ้างก็ไม่เป็นไร
“แม่คุยกับลูกเขยไปนะ ผมจะพาอีฟไปข้างบน” เลออนไม่อยากให้ผู้เป็นแม่ตามขึ้นไปบ่นพี่สาวเลยให้หล่อนยืนคุยกับสุดยอดลูกเขยแทน
อีฟเดินเตาะแตะขึ้นบันไดอย่างอยากลำบาก โชคดีที่งานแต่งถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์การ์ดเนอร์ โชคดีเหรอ คงเป็นโชคดีละมั้ง
“อีฟ ทำไมพี่ถึงไม่หนีไปแบบลีอา” เลออนบ่นขณะที่ค่อย ๆ ประคองเธอให้เดินขึ้นบันได
“ก็โดนลากมา โดนใครต่อใครจับให้มาแต่งตัว จะหนีก็หนีไม่ทันแล้ว” เธอตัดพ้อกับเลออน ซึ่งถ้ารู้เร็วกว่านี้สัก 3 ชั่วโมงเธอคงวิ่งหนีเข้าป่าไปแล้ว
“พี่ก็เป็นแบบนี้ตลอด” เลออนส่งหล่อนแค่หน้าห้อง
เขายืนรอหล่อนอยู่หน้าห้อง แค่คิดว่าทำไมสาวแสนดีคนนี้จะต้องทำอะไร ๆ เพื่อคนอื่นเสมอด้วยนะ ความมีน้ำใจมันฝังเข้าไปใน DNA ของหล่อนแล้วเหรอ
อีฟถอดชุดเจ้าสาวแขวนเอาไว้ที่ราวเหมือนเดิม ชุดนั้นทั้งรัดทั้งอึดอัด ไม่พอดีและไม่เหมาะสมกับเธอเลยสักนิด หญิงสาวลูบคริสทัลที่ปักอยู่บนชุดอย่างเบามือ มันทั้งประณีตและสวยงาม
ไม่เหมาะเลย มันไม่เหมาะกับเธอเลยสักนิด
เธอใส่เสื้อยืดตัวโคร่งสีดำกับกางเกงยีนส์ขายาวสีซีด ๆ อีฟหยิบกระเป๋ากับสิ่งและของจำเป็นติดตัวออกไปนิดหน่อยแค่นั้น ตอนแรกว่าจะค้างที่นี่หลังจากงานแต่งน้อง แต่เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแล้วนี่สิ
เจ้าของเรือนผมสีทองแสนสวยเลยตั้งใจว่าจะให้อีธานขับรถไปส่งเธอที่เมโทร จากนั้นค่อยต่อรถกลับที่พักของเธอแทน
อีฟได้ยินเสียงผู้เป็นแม่พูดคุยหัวเราะกับอีธานสนุกสนาน ใบหน้าของคุณนายการ์ดเนอร์ยิ้มแจ่มใส ราวกับไม่ได้เสียใจที่ลูกสาวคนเล็กหนีการแต่งงาน
“เสร็จแล้วค่ะ ไปกันเถอะ” อีฟชวนเพื่อนสนิทที่กลายเป็นสามีกลับ
“ดูแลตัวเองนะอีฟ ถ้าน้องติดต่อมาโทรบอกแม่กับพ่อด้วยนะ” เทเรซ่าทิ้งท้าย
“ค่ะ” อีฟเหลือกตาขึ้นก่อนที่ขาเรียวเล็กของเจ้าหล่อนจะรีบก้าวฉับ ๆ ไปที่รถของอีธาน
“ไม่ ไม่ไปคันนั้นอีฟ” อีธานจับหลังคอเธอให้หันไปทางรถหรูอีกคัน ท่าทางเหมือนเขากำลังจับลูกแมวตัวเล็ก ๆ
“ตาบ้า ปล่อย” อีฟย่อตัวลงตามสัญชาตญาณหวังให้เขาปล่อย แต่เขาก็ไม่ปล่อย
“เร็ว ๆ ง่วงแล้ว”
อีธานเปิดประตูก่อนจะผลักเจ้าสาวจำเป็นของเขาขึ้นรถ เพราะเหนื่อยทั้งวันเขาเลยตั้งใจจะให้คนอื่นมาขับรถให้
“ให้ไปส่งที่ไหน” อีธานถาม เพราะรู้ว่ายังไงเธอก็คงไม่กลับไปกับเขา
“เมโทร น่าจะทันเที่ยวสุดท้าย” อีฟบอก แต่อันที่จริงไม่น่าทัน เธอพูดไปงั้นแหละ
“ดึกแล้วออกไปจากที่นี่ ยังไงก็ไปไม่ทันหรอก” อีธานดูเวลาในโทรศัพท์ “ไปโรงแรมเถอะบรูซ” อีธานสั่งคนขับรถ
“ไม่เอาไม่ไป” อีฟงอแง
“ไม่ไปได้ยังไงเล่า ดึกแล้ว ไม่สงสารลุงบรูซเหรอ”
อีฟมองหน้าลุงบรูซ ผ่านกระจกมองหลัง เธอไม่ควรต้องให้เขาลำบากขับรถไปมาสินะ เพราะแบบนั้นเธอถึงยอมไปโรงแรมกับอีธาน
รถเคลื่อนตัวออกมาได้ราว 15 นาที เทพเจ้าแห่งความฝันก็เริ่มเล่นงาน หญิงที่ต่อสู้กับชุดเจ้าสาวที่อึดอัด รองเท้าคู่เล็ก และปั้นหน้ายิ้มแย้มกับผู้คน ค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงและหลับไปในที่สุด