๒.๓ ไม่รักไม่ต้อง
“เปล่า...เราตั้งใจชวนแกคนเดียว แกก็รู้ว่าเราชอบแก เราอยากไปไหนมาไหนกับแกสองคนบ้าง หรือว่าแกไม่อยากไปกับเรา แกคงอึดอัดใช่ป่ะ” น้ำเสียงคนพูดเจือความน้อยใจเอาไว้อย่างไม่ปิดบัง ทำให้ตระการตาต้องรีบแก้ไขความเข้าใจผิดของเขา
“เฮ้ยคิดมาก เราก็แค่ถาม”
“แล้วแกจะไปกับเรามั้ย”
“โอเค ไปก็ได้”
“งั้นเดี๋ยวเราไปรับนะ”
“อื้อ เดี๋ยวเจอกัน”
ตระการตาตกปากรับคำ เธอรู้ดีว่าปกรณ์คิดยังไงกับเธอ เพราะเขาเปิดเผยความรู้สึกของเขาให้เธอรับรู้มาสักระยะแล้ว ถามว่าปกรณ์มีข้อเสียอะไรหรือไม่ ตระการตาก็แทบหาไม่เจอ เขาเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด รูปร่างหน้าตาเขาก็จัดว่าหล่อเหลา ฐานะทางครอบครัวก็ไม่ด้อยไปกว่าเธอ ติดก็ตรงที่เธอยังไม่พร้อมจะเปิดใจรับเขาในฐานะอื่นที่นอกจากเพื่อนก็เท่านั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธออาจปิดกั้น หรือตัดความสัมพันธ์แบบไม่ต้องให้ความหวังกันไปเลย แต่ตอนนี้เธออยากจะเปิดโอกาสให้ตัวเอง เพื่อจะได้หลุดพ้นความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ในหัวใจมาแสนนาน
ร่างบางขึ้นไปเปลี่ยนชุด หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เธอเลือกใส่ชุดเดรสสั้น ซิปหลัง สีเหล้าองุ่น พิมพ์ลายกุหลาบ ผมรวบเป็นมวยสูง ปล่อยให้ปอยผมเคลียข้างแก้มและหน้าผากพอน่ารัก สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวแบบทะมัดทะแมง จากนั้นก็ลงมาชั้นล่างอีกครั้ง เพื่อรอให้ปกรณ์มารับ
“คุณตวงแต่งตัวน่ารักจังค่ะ จะไปไหนคะ” ป้าอรทักขึ้นเมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนดูน่ารักสดใสเป็นพิเศษ
“ตวงจะไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะค่ะป้าอร เดี๋ยวเพื่อนจะมารับ”
“แฟนหรือเพื่อนคะ” แม่บ้านถามอย่างล้อเลียน เพราะปกติคุณหนูไม่ค่อยจะออกไปไหนในวันหยุดแบบนี้
“ป้าอรน่ะ อย่าล้อตวงสิคะ เพื่อนจริงๆ ค่ะ แต่เป็นเพื่อนผู้ชายนะคะ”
“แล้วบอกคุณปีย์หรือยังคะ ว่าจะออกไปข้างนอก”
คำถามนั้นทำให้ใบหน้าที่สดใส แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเง้างอดทันที เธอจะบอกเขาได้ยังไง ในเมื่อเขาไม่ได้ไยดี หรือสนใจอะไรเธอเลย ถ้าเขาไยดีสักนิด ก็น่าจะโผล่มาให้เธอเห็นบ้าง แต่นี่เขากลับไม่มา ทว่าก็นั่นแหละ จะว่าไปเขากับเธอก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะฝากฝังให้เขาดูแลเธอ ในช่วงที่ท่านทั้งสองไม่อยู่ก็เถอะ
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ”
“แต่ป้าว่า...”
“ไม่ต้องแต่หรอกค่ะป้าอร ตวงไปก่อนนะคะ เพื่อนตวงน่าจะมาแล้ว” ตระการตารีบตัดบท เมื่อได้ยินเสียงแตรรถดังขึ้นที่หน้าบ้าน เธอนึกขอบคุณปกรณ์ที่มาทันเวลาพอดี ไม่อย่างนั้นป้าอรคงคะยั้นคะยอให้เธอไปบอกกล่าวอชิระอีกแน่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่คิดว่าจะทำมันได้
ร่างบางในชุดเดรสชีฟองสีองุ่น ก้าวออกมาหน้าบ้าน เพื่อจะไปหาปกรณ์ที่จอดรถรออยู่นอกประตูรั้ว แต่สายตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็นร่างสูงของ ‘ผู้ปกครองชั่วคราว’ กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านของเขา ตระการตารีบเมินหน้าหนี และแกล้งทำเป็นไม่เห็น เมื่อเขาหันมามองเธอ ตาดุๆ คู่นั้นจ้องมองกระทั่งเธอขึ้นรถของปกรณ์ไปแล้ว ทว่าตระการตาก็ยังทำเฉย
“ออกรถสิปาร์ค มองอะไร” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถ ยังชะเง้อมองไปยังรั้วบ้านข้างๆ และไม่ยอมออกรถเสียที
“นั่นอาจารย์อชิระใช่ป่ะ เห็นตวงเคยบอกว่าบ้านอาจารย์กับบ้านตวงอยู่ติดกัน แถมยังเป็นญาติกันด้วย”
“อืม” ตระการตาตอบสั้นๆ
“อาจารย์นี่หล่อมากๆ เลยเนอะ ใส่ชุดทำงานก็หล่อ ใส่ชุดลำลองแบบสบายๆ อย่างนี้ก็ดูดีไปอีกแบบ ขนาดเราเป็นผู้ชายยังอดมองไม่ได้เลย อาจารย์มีแฟนหรือยังตวง”
“เราไม่รู้เรื่องส่วนตัวของเขาหรอก” ตอบแล้วก็เจ็บแปลบๆ ในใจ ใช่สินะ เธอไม่รู้ข่าวคราวเขาเลยตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา เพราะเธอจงใจที่จะไม่รับรู้ บางที...ตอนนี้เขาอาจจะมีคนรักแล้ว
“ถามจริง ตวงไม่หวั่นไหวบ้างเหรอ” คราวนี้ปกรณ์เบนสายตากลับมามองหน้าหวานๆ ของคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เอาจริงๆ เขาก็อดหวั่นใจไม่ได้เหมือนกัน ถ้าต้องเจอคู่แข่งแบบอชิระ เขาน่าจะแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ลงสนาม
“ปาร์คอยากให้เราหวั่นไหวมั้ยล่ะ”
“ไม่สิ ใครจะไปอยาก”
“งั้นก็รีบออกรถเลย แล้วก็ห้ามถามเรื่องเขาอีก”
“เราดีใจนะ ที่ตวงไม่สนใจเขา”
“เขามีคนสนใจเยอะแล้ว เราไม่อยากยุ่งด้วยหรอก”
“ดีแล้ว ตวงจะได้สนใจเราคนเดียว”
ปกรณ์ยิ้มร่าก่อนจะออกรถ และวันนั้นทั้งวันปกรณ์กับตระการตาก็ได้เที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันตามลำพังเป็นครั้งแรก และปกรณ์ก็ถือโอกาสนี้ขอคบหญิงสาวในฐานะแฟน ทว่าตระการตาก็ยังไม่ได้ตอบตกลง แม้ใจจะอยากเปิดโอกาสแค่ไหน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอกลับยังเปิดรับผู้ชายคนไหนไม่ได้