บทนำ.๑
บทนำ
‘วาเลนไทน์ปีนี้ แกจะเอาดอกไม้ไปให้ใคร หรือรอกุหลาบจากใคร’
นั่นเป็นคำถามของเพื่อนๆ ในกลุ่ม ที่ทำให้หัวใจของสาวน้อยวัยสิบห้าว้าวุ่นอยู่ในตอนนี้ พรุ่งนี้จะเป็นวันแห่งความรัก หรือใครๆ มักเรียกว่าวันวาเลนไทน์ เธอไม่รู้ว่าสำหรับคนอื่นๆ หรือในสังคมอื่นๆ ความสำคัญของวาเลนไทน์มันมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับสังคมของโรงเรียนมัธยมที่เธอเรียนอยู่ วันวาเลนไทน์มันเป็นวันที่สำคัญมากวันหนึ่งในทุกๆ ปี โดยเฉพาะกับกลุ่มนักเรียนหญิง
ตากลมโตคู่สวยตวัดมองกุหลาบสีแดงดอกใหญ่ที่เสียบอยู่ในแจกัน พร้อมกับครุ่นคิดถึงบทสนทนาระหว่างตนกับเพื่อนๆ ต่อ
‘ว่าไงยัยตวง หรือว่าแกยังไม่มีคนที่แกชอบ’ หทัยชนกถามย้ำ เมื่อเห็นว่าตระการตายังไม่ตอบคำถามของตน ทำให้คนถูกถามรีบตอบอย่างลุกลี้ลุกลน เพราะตอนนี้สายตาของเพื่อนๆ ทั้งกลุ่มต่างจ้องมองมาที่ตนคนเดียว
‘ทำไมจะไม่มี ก็พี่ปีย์ไง’
'พี่ปีย์ม.หก คนหล่อๆ แถมเรียนเก่งที่สุดในรุ่น และอยู่กลุ่มเดียวกับพี่เตพี่ชายแกน่ะนะ’ หทัยชนกถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อ และไม่ใช่เฉพาะทหัยชนกคนเดียวเท่านั้น คนอื่นๆ ก็ทำหน้าฉงนด้วยเหมือนกัน
'อื้อ...บ้านเราอยู่ใกล้กันไง เราชอบพี่ปีย์และเราว่าพี่ปีย์ก็ชอบเรา'
'ไม่มั้งตวง พี่ปีย์เป็นศูนย์รวมความเพอร์เฟกต์เลยนะเว้ย หล่อก็หล่อ กิจกรรมก็เริด เรียนก็เก่ง แถมฮอตสุดในโรงเรียน ตั้งแต่เรามาเรียนที่นี่นะ เรายังไม่เคยเห็นพี่ปีย์ให้หรือรับดอกไม้จากผู้หญิงคนไหนเลย อีกอย่างพี่ปีย์ก็เป็นคู่จิ้นกับพี่แอนดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งของโรงเรียนอยู่ เขาจะชอบแกได้ยังไง แกโม้หรือไม่งั้นก็มโนไปเองแน่ๆ' คราวนี้คนที่ตั้งข้อสงสัยไม่ใช่หทัยชนก แต่เป็นพิชามนซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มอีกคน
'เราไม่ได้โม้ ไม่ได้มโนนะเว้ย เราสนิทกับพี่ปีย์จริงๆ' ตระการตายืนยันหนักแน่น เพราะเธอกับอชิระสนิทกันจริงๆ แม้ว่าตอนอยู่โรงเรียนเขาจะเก๊กไปบ้าง และไม่เคยแสดงออกต่อหน้าใครว่าเขากับเธอสนิทสนมกันแค่ไหนก็ตาม
'สนิทกับชอบมันคนละอย่างกันนะเว้ยตวง แกอย่าตีความหมายผิด เอาเป็นว่าถ้าพรุ่งนี้พี่ปีย์ให้หรือรับดอกไม้จากแก พวกเราจะเชื่อว่าแกกับพี่ปีย์ชอบกันจริงๆ แต่ถ้าพี่ปีย์ไม่ให้หรือไม่รับนั่นแสดงว่าแกโม้ แกมโนไปเองเหมือนที่หลายๆ คนเป็นกัน ซึ่งแกก็น่าจะรู้นะเว้ยตวงว่ากลุ่มเราไม่ชอบคนแบบนั้น'
'พรุ่งนี้พวกแกคอยดูก็แล้วกัน'
บทสนทนาเหล่านั้นยังตามมารบกวนจิตใจ ทำให้ตระการตาพลิกตัวไปมาจนตัวเลขบนนาฬิกาบอกว่าตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่แล้ว
สาวน้อยบอกตัวเองให้หลับซะ พรุ่งนี้เช้าค่อยไปบอกพี่ปีย์แต่เช้าก็แล้วกัน ว่าให้รับดอกไม้ของเธอหน่อย ไม่อย่างนั้นเธออาจจะขายหน้าเพื่อนๆ ทั้งกลุ่ม
แต่...เพราะการนอนดึกเกินปกติธรรมดา ทำให้เช้านี้ตระการตาต้องวิ่งกระหืดกระหอบลงมาจากชั้นบน ผ่านหน้าพ่อ แม่ พี่ชาย และบรรดาสาวใช้ที่อยู่ในห้องรับประทานอาหาร ทุกคนต่างมองดูปฏิกิริยาของเธอด้วยความงุนงง ทว่าสาวน้อยไม่มีเวลาสนใจใคร นอกจากตรงดิ่งไปยังบ้านของอชิระที่อยู่ติดกัน โดยใช้ทางเชื่อมที่อยู่ตรงกำแพงระหว่างบ้านสองหลัง และลุ้นสุดชีวิตว่าขอให้พี่ปีย์ยังไม่ไปโรงเรียน
“มีอะไรหรือเปล่าหนูตวง วิ่งหน้าตาตื่นมาเชียว” วรรณรีเองก็งงเช่นกันที่จู่ๆ สาวน้อยข้างบ้านก็วิ่งกระหืดกระหอบมาบ้านตนแต่เช้า
“พี่ปีย์อยู่ไหนคะน้าวรรณ ตวงมาหาพี่ปีย์ค่ะ” เสียงหวานใสสมวัยถามปนหอบ พลางสอดส่ายสายตาหาคนที่ตัวเองกำลังถามถึง
“ปีย์กับหนูดีไปโรงเรียนแล้วจ้ะ ไปกับรถรับส่งตั้งแต่หกโมง”
“เหรอคะ” สีหน้าของตระการตาเจื่อนลงทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองมาไม่ทัน ใช่สินะเธอลืมไปว่า อชิระและอนุรดีไปโรงเรียนด้วยรถรับส่ง ทำให้ต้องไปแต่เช้าตรู่ทุกวัน ในขณะที่เธอกับพี่ชายไปสายได้ เพราะมีคนขับรถส่วนตัวคอยไปรับไปส่งเหมือนกับลูกเศรษฐีบ้านอื่นๆ ซึ่งมันเป็นวิถีชีวิตที่ต่างกันมากพอสมควรระหว่างบ้านสองหลังที่อยู่ติดกัน
“หนูมีธุระอะไรกับพี่เค้าหรือเปล่า”
“มีนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวตวงไปคุยกับพี่ปีย์ที่โรงเรียนก็ได้ ตวงไปก่อนนะคะน้าวรรณ ขอโทษที่มารบกวนแต่เช้าค่ะ”
ตระการตายกมือเรียวเล็กขึ้นไหว้วรรณรี ก่อนจะกลับบ้าน ขึ้นชั้นบน แล้วหยิบกุหลาบใส่กระเป๋า นั่งรถหรูไปโรงเรียนกับพี่ชายเหมือนเช่นทุกวัน ต่างกันก็แค่วันนี้เธอเงียบผิดปกติจนคนเป็นพี่อย่างเตชินท์อดสงสัยไม่ได้
“เป็นอะไรหรือเปล่าตวง ทำไมวันนี้ดูแปลกๆ”
“เปล่านี่พี่เต ตวงก็ปกติดี”
“แน่ใจ”