ตอนที่ 2 อยากชิดใกล้ แต่อุปสรรคคือพอลี่ 1
ชายหนุ่มพาหญิงสาวกลับมาอยู่ยังคฤหาสน์เวย์เลอร์ด้วยกัน ต่อไปนี้คฤหาสน์จะไม่เงียบเหงาอีกแล้ว เมื่อมีหนูน้อยพอลี่มาอยู่ด้วย สาวใช้ในบ้านต่างดีใจเมื่อเห็นนายหญิงกลับมาอยู่บ้านด้วย หลังจากที่ไปอยู่เมืองนอกมาตั้ง 5 ปี พอลให้คนรับใช้นำกระเป๋าของรัตนาและลูกสาวไปไว้ที่ห้องนอนของตนที่เคยเป็นของเขาและหญิงสาว เวลานี้เจ้าของห้องได้กลับมาอยู่แล้ว
“พอลไปไหนมาคะ”
เสียงแหลมดังออกมาเมื่อได้ยินเสียงรถของเจ้าของบ้านเข้ามาจอด
รัตนาและพอลี่มองตามเสียงแหลมที่วิ่งเข้ามาสวมกอดชายหนุ่มที่หล่อนเรียก
พอลพยายามแกะมือปลาหมึกของหล่อนออก แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่ออก จนเขาต้องปล่อยให้เลยตามเลย แต่พอหันมามองทางรัตนา เขากลับเห็นน้ำตาของหญิงสาวไหลออกมา ชายหนุ่มจึงผลักคนที่วิ่งมากอดตัวเองออก
‘บอกว่าปรับตัวเอง แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร โกหกทั้งเพ’ รัตนาเอ่ยว่าชายที่รักในใจ
“เอมมี่...คุณมาทำอะไรที่บ้านผม และกรุณาอย่าตามตื๊อผม ลูกเมียผมกลับมาแล้ว อีกอย่างเราจบกันนานแล้ว ไม่มีอะไรต้องพูดคุยกันอีก ผมไม่ได้รักคุณ คนที่ผมรักคือน้องต่อและลูกของผมเท่านั้น สิงห์ส่งแขก และถ้าเจอผู้หญิงคนนี้หน้าบ้านให้ไล่ไปเลย ไม่ต้องให้เข้ามาในบ้านอีก”
พอลเอ่ยอย่างชัดถอยชัดคำ ว่าเวลานี้ตัวเองนั้นมีใครอยู่ข้างกาย และไม่ต้องการผู้หญิงคนไหนอีก โดยไม่สนใจเลยว่าเอมมี่จะโกรธแค้นเพียงไร
“กรี๊ด!...พอล...คุณจำไว้ว่าวันนี้คุณพูดอะไรกับเอมมี่ ไม่ต้องมาจับ ฉันไปเองได้” หล่อนเอ่ยเตือนก่อนจะเดินออกไปจากบ้านหลังใหญ่ด้วยความเจ็บใจ ‘หึๆ เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ หรอก อย่าหวังว่าจะได้มีความสุขกัน’ หล่อนเอ่ยหมายมาดในใจ ก็เธอถูกผู้มีพระคุณสั่งมา ถึงไม่อยากทำ แต่เวลาทำแล้วหล่อนตีบทแตกกระจุยกระจายเลยทีเดียว
รัตนาปาดน้ำตาอุ้มลูกเดินขึ้นไปบนบ้านอย่างไม่สนใจว่าชายหนุ่มจะเอ่ยแก้ตัวยังไง ก็ตอนที่ชายหนุ่มเอ่ยก่อนหน้านี้หญิงสาวได้ยินชัดทุกถ้อยคำว่าเขารักเธอกับลูก ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นลูกของตัวเอง ยิ่งได้ยินพอลพูดออกมาแบบนี้ยิ่งเจ็บปวด น้ำใสๆ ก็หลั่งไหลออกมาไม่มีหยุด
“หม่ามี๊เตร่าร้องไห้ทามมาย...คะ” หนูน้อยเห็นแม่ร้องไห้ก็เอ่ยถามด้วยความสงสาร
“มี๊ดีใจที่ได้กลับมาอยู่กับแด๊ดดี้พอลี่ไงจ๊ะ” หญิงสาวปาดน้ำตาพร้อมกับเอ่ย
“ไม่เอา...แด๊ดดี้ของพอลี่ต้องเปน...ลุงเค...” หนูน้อยปฏิเสธทันควัน
“ลุงเคก็ลุงเค วันนี้มี๊เหนื่อยมาก เรานอนพักกันดีกว่า”
เมื่อมาถึงห้องที่เคยอยู่ หญิงสาวก็รีบเอ่ยเปลี่ยนเรื่องทันทีพร้อมกับปล่อยลูกสาวนั่งบนเตียง จะทำยังไงพอลี่ถึงจะยอมเรียกพ่อผู้ให้กำเนิดว่าพ่อ และถ้าชายหนุ่มรู้ว่าพอลี่คือลูกในไส้ของตนจะเป็นเช่นไรนะ
“หม่ามี๊...ลุงพอลจะมานอนกับเราด้วยเหรอคะ...” หนูน้อยเอ่ยถามเมื่อเห็นพอลกำลังเดินเข้ามาในห้อง
“ค๊าบ!...ลุงพอลจะมานอนกับพอลี่และมี๊ของหนูไงจ๊ะ”
พอลเอ่ยตัดหน้ารัตนาทันที พร้อมกับเดินเข้ามาสมทบและไม่ลืมจะส่งสายตาเศร้าสร้อยให้รัตนา เพื่อเป็นการขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“ลุงพอลจะนอนอีกห้อง ไม่ได้มานอนกับเราหรอกพอลี่” รัตนาเอ่ยเสียงเรียบ
“ใครบอก พี่จะนอนกอดน้องต่อกับลูกเองคืนนี้” คนหน้ามึนเอ่ยออกมาอย่างไม่สนใจ
“พี่ขอโทษเรื่องเมื่อกี้นะ ต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก พี่รักน้องต่อนะ”
พร้อมกับเดินมากระซิบข้างหูรัตนาให้ได้ยินกันเพียงสองคน ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างหนูน้อยพอลี่
“ม่าย...เอา...พอลี่ไม่ให้ลุงพอลกอดหม่ามี๊ ไม่ให้กอดพอลี่ด้วย พอลี่จะให้ลุงเคกอดได้คนเดียวเท่าน้าน...”
หนูน้อยเขยิบถอยไปอีกด้าน เพื่อแสดงให้พอลเห็นว่าไม่ชอบให้เข้าใกล้ตน
“ได้ยินชัดแล้วใช่ไหมคะว่าพอลี่ไม่ชอบพี่ ต่อว่าพี่ไปนอนห้องอื่นดีกว่าค่ะ” รัตนาเอ่ยเห็นด้วยกับลูกสาวตัวแสบ
“ไม่เอา พี่จะนอนในห้องนี้ พอลี่ไม่ให้ลุงกอดพอลี่กับแม่ก็ไม่เป็นไร ลุงพอลขอนอนโซฟาในห้องนี้ก็ได้นะค๊าบ...”
ยังไงก็ไม่ยอมไปนอนห้องอื่นเป็นอันขาด เขาจะนอนห้องนี้กับเธอและหนูน้อยตัวยุ่งนี้
‘หืม!...เด็กแสบ!...หวงแม่มากนักใช่ไหม เดี๋ยวเจอดีแน่ๆ หึๆ วันนี้จะยอมให้ก่อนก็แล้วกัน แต่พรุ่งนี้อย่าหวังเลย จะให้แม่นมหอมเอาไปเลี้ยง ส่วนแม่เธอเสร็จฉัน...หึๆ’ เอ่ยหมายมาดในใจ
“ก็ได้...ลุงพอลนอนในห้องนี้ด้วยก็ด้าย แต่อย่ามายุ่งกับเตียงตัวนี้ของพอลี่กับมี๊เตร่าน๊า!...”
พอลี่ลุกขึ้นยืนกางแขนกว้างบนเตียง แสดงความเป็นเจ้าของให้พอลรู้ว่าอย่ามายุ่งบริเวณนี้
“แต่ต่อไม่อยากเห็นหน้าพี่”
ถึงพอลี่จะยอม แต่รัตนาไม่ยอมให้พอลนอนห้องนี้ด้วยเด็ดขาด คนเจ้าเล่ห์อย่างพอลรึจะยอมนอนบนโซฟา
“มี๊เตร่าให้ลุงนอนด้วยเถอะค่า...มี๊ไม่ต้อง...กลัว...พอลี่จะตีลุงพอลเอง...หากลุงพอล...มายุ่งกาบ...เตียงเรา”
พูดพร้อมกับกอดอก บ่งบอกว่าเอาจริงหากพอลมายุ่งกับเตียงกว้าง
“ฮ่าๆๆ”
พอลกับรัตนาปล่อยเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เป็นใครจะไม่ขำ ก็ดูหนูน้อยพอลี่สิ ทำอย่างกับตัวเองเก่ง มีหรือจะห้ามได้หากคนอย่างพอลจะมานอนบนเตียง...หึๆ
“นอนก็นอน แต่พี่พอลต้องนอนที่โซฟาตัวนั้นนะ ห้ามมายุ่งกับเตียงนี้”
รัตนาขี้เกียจจะเถียงแล้ว วันนี้ไปข้างนอกทั้งวันเหนื่อยก็เหนื่อย อยากอาบน้ำพักผ่อนแล้ว
“ค๊าบ!...พอลี่ไปอาบน้ำกับแด๊ดดี้ไหม”
“ลุงพอลตาง...หาก...ไม่ช่าย...แด๊ดดี้...คนที่จะเปน...แด๊ดดี้พอลี่มีลุงเคเท่าน้าน...”
พอลลืมว่าสาวน้อยไม่ชอบให้ตัวเองแทนตัวเองว่าแด๊ดดี้ พอลี่ก็รีบปฏิเสธทันที เมื่อพอลเอ่ยจบ
‘ทำไมถึงรู้สึกเจ็บอย่างนี้ ทำไมแค่เด็กแสบไม่ยอมให้เป็นพ่อ เขาถึงเจ็บอกซ้ายแบบนี้ แล้วลุงเคของเด็กนี้ดีกว่าเขาตรงไหน ทำไมเขาถึงสู้ไม่ได้’ พอลเอ่ยถามตัวเองในใจ
“ลุงพอลก็ลุงพอลจ้า...” เอ่ยลากเสียงอย่างไม่พอใจ
รัตนาเห็นลูกสาวพูดแบบนี้กับชายหนุ่มถึงกับน้ำตาตกใน แต่มันก็สมควรแล้วกับการกระทำที่ผ่านมาของชายหนุ่ม พอลไม่เหมาะสมจะเป็นพ่อของพอลี่อย่างที่หนูน้อยไม่ต้องการ ความลับก็จะเป็นความลับต่อไป
ย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน หญิงสาวจำห้องนอนห้องนี้ได้ และจำผู้หญิงที่ชื่อเอมมี่ได้ว่าเป็นใคร เหตุที่หญิงสาวตัดสินใจทิ้งชายหนุ่มไปอยู่บ้านพ่อ ก็เพราะเมื่อ 5 ปีก่อน เขาพาผู้หญิงขายส่งอย่างเอมมี่มานอนเริงรักกันในห้องนอนห้องนี้ ซึ่งเป็นห้องหอ ห้องนอนของเธอกับเขาที่นอนด้วยกันทุกคืน แต่ทุกอย่างก็สกปรกแปดเปื้อนด้วยน้ำมือของชายหนุ่ม
เมื่อคิดถึงอดีต น้ำตาของรัตนาก็ไหลออกมาอีกครั้ง แต่หญิงสาวก็รีบปาดน้ำตาทิ้งแล้วเดินไปอุ้มลูกสาว เพื่อจะไปอาบน้ำด้วยกัน โดยไม่สนใจเลยว่าพอลจะเอ่ยอะไรอีก
“อาบน้ำกันค่ะพอลี่”
“ไม่กินข้าวก่อนเหรอน้องต่อ” พอลร้องไล่ตามหลังคนที่เดินหายลับเข้าไปในห้องน้ำ แต่ก็เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ “สงสัยคงกินมาจากข้างนอกกับลุงเคผู้แสนดีแล้วมั้ง ไปกินคนเดียวก็ได้เรา ฝากไว้ก่อนเถอะเด็กแสบพอลี่ ถ้าเป็นลูกจริงๆ จะตีก้นให้ลายเลย”
แล้วก็เดินออกจากห้องไป เพราะก่อนจะขึ้นมา เขาได้สั่งให้นมหอมเตรียมอาหารไว้รอแล้ว
อีกด้านหนึ่งของกรุงเทพฯ ครอบครัวสุขสันต์อีกครอบครัว เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทยได้ไม่กี่ชั่วโมง เจ้าลูกชายตัวแสบของพวกเขาก็สร้างเรื่องขึ้นให้แล้วสิ เรื่องแสบ เรื่องป่วนก็ต้องยกให้หนูน้อยคนนี้เลย ด้วยความเป็นเด็กไร้เดียงสา เปรียบเหมือนผ้าขาวบริสุทธิ์จึงมีแต่คนรักคนหลง
“มัมก๊าบ!...เมื่อตอนอยู่สานาม...บิน...แด๊ดคุยกับสาวต้วยก๊าบ!...”
หนูน้อยเอ่ยฟ้องแม่ทันทีเมื่อมาถึงบ้าน เป็นครั้งแรกที่หนุ่มน้อยมาบ้านเกิดของผู้เป็นแม่
“สวยกว่าแม่ไหมเซน” ดอกอ้อ ปาร์ค หรืออ้อ เอ่ยถามลูกชายทันที
“ม่าย!...จ๋วย...มัมจ๋วยกว่า...” หนูน้อยเอ่ย
“ฟ้องอะไรมัมอีกเซน แด๊ดร๊าก...มัมของเซนคนเดียวนะ”
ไบรอัน ปาร์ค หรือไบรอัน มาทันได้ยินลูกชายตัวแสบหาเรื่องให้พอดี
ครอบครัวของดอกอ้อนั้นอยู่ฝรั่งเศสตั้งแต่แต่งงานกัน ตอนนี้ก็เป็นเวลา 5 ปีแล้วที่ไปอยู่ที่นั่น จนตอนนี้มีตัวยุ่งอย่างเซนแสบมาป่วน ถึงไปอยู่เมืองนอก แต่ดอกอ้อและไบรอันก็สอนให้ลูกพูดไทยเสมอเวลาอยู่กันพ่อแม่ลูก
“ป่าว!...เซนม่าย...ได้ฟ้องราย...” หนูน้อยปฏิเสธเมื่อผู้เป็นพ่อจับได้
“แต่เมื่อกี้ใครนะบอกมัมว่าแด๊ดคุยกับสาว” ดอกอ้อเอ่ย อยากแกล้งลูกคืนบ้าง
หนุ่มน้อยซุกหน้าเข้าหมอนทันที เมื่อโดนผู้เป็นแม่หักลำคืน
“ไม่ต้องมาหลบเลยตัวแสบ มัมรู้นะว่าเมื่อกี้โกหก...คิกๆ”
หญิงสาวพยายามเก็บเสียงหัวเราะไว้ แต่ก็เก็บไม่อยู่ ยิ่งเห็นลูกชายซุกหน้าแบบนี้ยิ่งอยากขำ
“แสบนักนะ ไอ้ตัวแสบของแด๊ด” ไบรอันเอ่ยเย้าลูกชาย
“แฮะๆ ม่าย...แตบ...ม่าย...ช่าย...ลูก...แด๊ด...” หนูน้อยลุกขึ้นยืนพูดอย่างภาคภูมิใจในความเป็นลูกพ่อ
“ทีแบบนี้ไม่หลบนะสุดหล่อของมัม”
ดอกอ้อเอ่ย ใช่...เซนคือของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิต และเป็นตัวแทนความรักของเธอและสามี ยิ่งนับวันหญิงสาวยิ่งรักและหวงลูกชายกับสามีมากขึ้นทุกวัน หากวันใดมีใครมาแทรกตรงกลาง คนผู้นั้นไม่ได้ตายดีแน่ หญิงสาวเอ่ยบอกตัวเองในใจ
“ก็แด๊ดหล่อ...เซน...ก็หล่อ...มัมก็ตวย...”
“พูดถูกใจแด๊ดจริง...ไปอาบน้ำกับแด๊ดไหมลูก” ไบรอันชวนสุดป่วนของบ้านไปอาบน้ำด้วย
“ม่าย...แด๊ดอาบก่อนเลย เซนจาอาบกับมัม”
เอ่ยจบก็กระโดดลงจากโซฟาเข้าไปในห้องนอน โดยไม่สนใจพ่อกับแม่อีก
“แด๊ดไปอาบก่อนนะ อ้อ!...พี่เกือบลืม พรุ่งนี้เราจะนัดเตร่ากับหนูพอลี่มากินข้าวด้วยใช่ไหมจ๊ะที่รัก”
“ค่ะที่รัก พรุ่งนี้เรานัดต่อไปกินข้าวด้วยกัน เซนจะได้หายคิดถึงพอลี่ด้วยไง อีกอย่างจะคุยเรื่องโรงเรียนของลูกกับต่อด้วย”
“จ้า งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะที่รัก แต่ขาดคนถูหลัง พอมีตัวป่วนอ้อก็ไม่เคยมาอาบน้ำกับพี่เลย พี่อยากอาบน้ำพร้อมอ้อนะ จุ๊บ!...” เอ่ยพร้อมกับจุ๊บหน้าผากมนของภรรยา
“พี่ไบรอันเดี๋ยวลูกก็เห็นหรอก เดี๋ยวเซนไปโรงเรียน อ้อจะอาบน้ำให้ทุกเช้าเลยค่ะ”
“จริงๆ นะ อย่าโกหกพี่นะที่รัก”
“ไม่โกหกหรอกค่ะ พี่รีบไปอาบน้ำเถอะ พี่อาบเสร็จ อ้อก็จะบังคับตัวป่วนของเราอาบน้ำเหมือนกัน”
“จ้า” แล้วชายหนุ่มก็เดินจากไป
ดอกอ้อมองตามหลังของสามีไปด้วยความรักสุดจะบรรยาย ในโลกนี้จะมีใครโชคดีเท่าเธออีกไหมนะ หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองจะเป็นคนที่มีความสุขกว่าทุกคนบนโลกใบนี้ ตั้งแต่มีไบรอันและก็เซน ทุกอย่างในชีวิตเธอแต่ละวันเต็มไปด้วยความรัก ความสุข ไม่เคยมีวันไหนที่สองพ่อลูกทำให้เธอเสียใจ น้อยใจเลย มีแต่ทำให้เธอสุขขึ้นทุกๆ วัน
เช้าวันใหม่ที่คฤหาสน์เวย์เลอร์ ทุกคนตื่นมาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน พอลตั้งใจว่าวันนี้จะพารัตนากับพอลี่ไปทำงานด้วย เพราะเขาได้ตัดสินใจแล้วจะให้หญิงสาวไปเป็นเลขาส่วนตัวให้ แต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะว่ายังไง ชายหนุ่มไม่ต้องการความสมัครใจของหญิงสาว แต่ต้องการให้ไปช่วยงาน โดยไม่มีข้อปฏิเสธใดๆ
นมหอมยกกับข้าวเข้ามาในห้องรับประทานอาหารอย่างมากมาย หญิงชราดีใจเมื่อได้เห็นนายหญิงอีกครั้ง 5 ปีแล้วที่ภรรยาของคุณหนูนางทิ้งให้คุณพอลของเธอเจ็บปวดทรมาน แต่ในที่สุดวันนี้ครอบครัวก็กลับมาเป็นครอบครัวเสียที พร้อมกับมีคุณหนูน้อยแถมมาอีกหนึ่งคน ดูยังไงก็เหมือนพอลตอนเด็กๆ ไม่มีผิด สีของดวงตา ปาก จมูก ถอดแบบชายหนุ่มมาไม่มีผิด จะมีต่างก็แค่สีผิวขาวอมชมพูเหมือนรัตนาเท่านั้น
“นมหอมคิดถึงคุณต่อเหลือเกินค่ะ”
นมหอมเอ่ยขึ้นเมื่อจัดกับข้าวทุกอย่างบนโต๊ะเรียบร้อย พร้อมกับสั่งให้สาวใช้คนอื่นตักข้าวให้เจ้านาย ส่วนตัวนมหอมก็นั่งทานกับทุกคนด้วย นมหอมไม่ใช่คนใช้ ไม่ใช่แค่เป็นแม่นมของพอลเท่านั้น แต่เป็นญาติของชายหนุ่มอีกด้วย
“ต่อก็คิดถึงนมหอมค่ะ นมสบายดีไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถามจากใจด้วยความเป็นห่วง
“สบายดีค่ะ แต่คนที่ไม่สบายเห็นจะเป็นคุณพอลของนมหอมมากกว่า ตั้งแต่คุณ...”
“เรากินข้าวกันเถอะครับนม” พอลเอ่ยตัดบททันที เมื่อเห็นว่านมหอมจะพูดอะไรออกไป
“พอลี่ทานเยอะๆ นะ ลุงพอลสั่งให้เขาทำให้พอลี่เป็นพิเศษเลยนะวันนี้” พอลหันมาเอ่ยกับหนูน้อยที่นั่งเงียบตั้งแต่ลงมา
“ม่าย...พอลี่ม่าย...กิน...พอลี่จะกินนม”
“พอลี่ต้องกินข้าวนะลูก เดี๋ยวมี๊เตร่าป้อนนะ”
รัตนาเห็นว่าลูกสาวเริ่มจะงอแงอีกแล้ว ก็เวลาทานข้าวเช้าทีไร เจ้าตัวมักไม่กินข้าว แต่จะกินนมแค่แก้วเดียวพอ หญิงสาวพยายามแล้วที่จะปรับเปลี่ยนนิสัยลูกสาว แต่ก็ทำไม่ได้
นมหอมนั่งสังเกตหนูน้อยพอลี่อยู่เงียบๆ ก็ไอ้อาการแบบนี้จะเหมือนใครกัน หากไม่ใช่ผู้เป็นพ่อ ก็พอลสมัยเด็กๆ ก็ไม่ชอบกินข้าวเหมือนกัน จะกินนมอย่างเดียว แล้วแบบนี้จะไม่ใช่ลูกของชายหนุ่มได้ไง มีหรือคนแก่อย่างนางจะเชื่อเรื่องโกหกของรัตนา ถึงจะได้ฟังจากพอลมาแล้วเมื่อวานตอนทานข้าวด้วยกันสองคนว่ารัตนานั้นมีลูกกับฝรั่งติดมาด้วย แต่ดูยังไงก็ไม่เหมือนลูกฝรั่งตาน้ำข้าวที่ไหนเลย นอกจากฝรั่งพอลคนนี้ เหมือนกันอย่างกับแกะ นิสัยก็เหมือนกัน ถึงจะเพิ่งเจอแป๊บเดียว แต่นมหอมกล้าพูดได้เต็มปากว่าพอลี่คือลูกของพอลและรัตนา
“ม่าย...เอา...พอลี่ม่ายกิน...” หนูน้อยพูดพร้อมกับสะบัดหน้าไปทางอื่น
“ไม่กินก็ไม่กิน เดี๋ยวลุงพอลให้เด็กเอานมร้อนมาให้นะ” พอลเอ่ยเอาใจบ้าง
“ลุงพอลพูดจริง...น๊า...” เมื่อได้ยินเช่นนั้น พอลี่ก็หันมายิ้มให้ชายหนุ่มทันที
“จริงสิ เดี๋ยวลุงสั่งเด็กเอามาให้” เอ่ยจบชายหนุ่มก็สั่งสาวใช้ไปนำนมร้อนมาให้หนึ่งแก้ว เอามาให้พอลี่ตัวแสบของเขา
“พี่พอลอย่าตามใจพอลี่แบบนี้สิคะ ต่อกำลังดัดนิสัยเด็กไม่ชอบกินข้าวอยู่” รัตนาเอ็ดชายหนุ่ม
“ก็พี่สงสารพอลี่ เอาเถอะน่า กินนมก็มีประโยชน์พอๆ กับข้าวนั่นแหละ”
“หนูพอลี่เหมือนคุณพอลของนมเมื่อตอนเด็กๆ เลยนะคะคุณต่อ” นมหอมเอ่ยถามรัตนาแบบลอยๆ จนทำให้หญิงสาวหน้าซีดลงถนัด
“คะ...คือ...เด็กๆ ก็เป็นแบบนี้แหละค่ะนม กินข้าวกันเถอะค่ะ” รัตนาเอ่ยเปลี่ยนเรื่องทันที
“นั่นสิ นมพูดอะไรให้งง กินข้าวกันเถอะ พอลหิวแล้ว” พอลก็เห็นด้วยกับรัตนา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่พอลี่จะใช่ลูกของตน เด็กอะไรแสบขนาดนี้ ห่วงแม่ขนาดนี้ ไม่ได้อยากได้มาเป็นลูกเลยสักนิด
‘หรือว่านมหอมจะเห็นอะไรในตัวพอลี่กันแน่ แต่พอลี่เล่นถอดแบบเขามาแบบนี้ มีหวังสักวันเขาต้องรู้ความจริงๆ แน่ๆ ว่าพอลี่คือลูกของเขา’ รัตนาถามตัวเองในใจในขณะทานข้าว
“นั่นไง นมร้อนมาพอดีเลยหนูพอลี่” นมหอมเอ่ยเมื่อเห็นเด็กถือนมเข้ามา
“เย้!...พอลี่จาได้กินนมแย้ว!...” หนูน้อยรับนมจากสาวใช้มาไว้ในมือด้วยความดีใจ
“กินให้หมดนะ วันนี้ลุงพอลจะพาไปทำงานด้วย”