บทที่ 10 เด็กป่วย
ตลอดเวลาที่ราวน์วอร์ดผู้ป่วย ในหัวของหมอลิปดามีแต่น้ำเสียงและใบหน้าของเด็กสาวเข้ามาวนเวียน เขายิ้มแล้วยิ้มอีก จนคนรอบข้างพากันแปลกใจ เพราะโดยปกติแล้วช่างยากเหลือเกินที่จะได้เห็นรอยยิ้มของเขา และเมื่อถึงเวลาเลิกงาน ร่างสูงก็ไม่รอช้า เขารีบบึ่งออกจากโรงพยาบาลและไม่ลืมที่จะแวะซื้อของกินอร่อยๆ กลับไปให้ยัยเด็กกินจุ
แต่เมื่อกลับบ้านถึงคอนโดสุดหรู เขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อห้องทั้งห้องนั้นมืดสนิท จริงใจไม่ได้อยู่ที่หน้าโทรทัศน์อย่างที่ควรจะเป็น หมอลิปดาวางถึงอาหารลงบนโต๊ะ แล้วเดินหาว่าเด็กสาวนั้นไปเล่นซนอยู่ที่ไหน
....ในห้องนอนก็ไม่มี...
เขาชั่งใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเปิดเข้าไปในห้องน้ำ แล้วสิ่งที่พบก็คือร่างบางเปลือยเปล่านั้นกำลังนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ
“จริงใจ?!” คุณหมอหนุ่มเรียกชื่อเธอด้วยความแปลกใจ แต่พอได้เห็นร่างบางนั้นสั่นเครือ แถมยังมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้าลำตัว เขาเลยใช้หลังมือแตะลงที่หน้าผาก
“ตัวร้อนจี๋” สิ้นคำนั้น คุณหมอหนุ่มก็เข้าไปช้อนร่างบางขึ้นอุ้มแล้วพาไปวางลงบนเตียง คราวนี้เด็กสาวจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
“คุณหมอ?” น้ำเสียงแห้งผาก มือเล็กส่งมากำแขนเสื้อของเขาแน่น
“ป่วยแล้วทำไมไม่บอก?!” เขาดุเธอ
“จะบอกยังไงคะ?” นั่นสิ เธอจะบอกเขายังไง ในเมื่อไม่มีอะไรที่จะติดต่อเขาได้เลย
“แล้วไปนอนแก้ผ้าในห้องน้ำทำไม?!” เหมือนว่าการดุเธอเป็นสิ่งเดียวที่เขาทำเป็น
“ก็หนูร้อน...เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว พอเปิดแอร์ก็หนาวเข้ากระดูก หนูเลย...” เธอพยายามบอกเหตุผลเขา
“พอๆ นอนซะ! เดี๋ยวฉันจะเช็ดตัวให้ แล้วนี่กินยาไปหรือยัง?”
คำตอบจากเด็กสาวเป็นเพียงการส่ายหน้า คุณหมอจึงได้แต่ถอนหายใจ แล้วลุกออกไปจากห้องนอน ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับถ้วยใส่น้ำและกล่องยา
คุณหมอลิปดาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง เริ่มใช้ผ้าชุบน้ำแล้งบิดหมาดๆ มาเช็ดตัวให้เด็กสาว เขาเริ่มจากใบหน้าแดงก่ำ ยามที่จ้องมองเธอที่สลึมสลือมองเขามันทำให้ภาพ
นั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง...
ภาพที่เขาพรมจูบไปทั่วใบหน้า ใช้ลิ้นกับปากของเธอย่างรุนแรง...
พอมือหนาเคลื่อนมือมาเช็ดที่ลำคอจนถึงหน้าอกน้าใจอวบอิ่มนั้น หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรง...ยิ่งเห็นมันชัดเท่าเท่าไหร่เขาก็ยิ่งกระวนกระวายอยากจะดูดมันอีกซ้ำๆ เป็นสิบเป็นร้อยครั้ง
“อื้อ!” และขณะที่เขาให้ผ้าเช็ดวนไปวนมาตรงสองเต้า เด็กสาวก็ร้องครางออกมาเสียอย่างนั้น
หมอลิปดารีบหน้าหนีทันที ทั้งใบหน้าสุดเคลิ้มและเสียงครางของเธอมันทำให้เขาอยากจะบ้าขึ้นมา เขาจัดการผ้าไปชุบน้ำแล้วนำกลับมาวางลงบนหน้าท้องแบนราบ ล่างลงไปนั้น...มันคือเนินเนื้อของโปรดเขา ขนรำไรนั้นช่างน่ารักและทำให้เขาใจเต้นแรงหนักกว่าเดิม ในใจนั้นพลันคิดว่าอย่าให้เขาต้องกระทำคนป่วยเลย...ที่เธอป่วยแบบนี้ไม่พ้นเป็นความผิดเขาที่กระทำเธออย่างหนักหน่วงจนถึงเช้า...
“คุณหมอ...” เด็กสาวเอื้อมมือมารั้งมือหนาเอาไว้
“อะไร?”
“หนูเจ็บตรงนั้น...เจ็บมากๆ เลย” เธอบอกเขาขณะที่เคลื่อนมือเล็กไปวางตรงร่องกุหลาบที่ปิดสนิทสีแดงสด...แดงจนเหมือนจะช้ำเพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“เดี๋ยวก็หาย...กินยาแล้วนอนซะ” เขาไม่กล้าที่จะจ้องไปตามที่เธอบอกด้วยซ้ำ
“แต่หนูเจ็บ เพราะคุณหมอนั่นแหละ...คุณหมอทำหนูเจ็บ แต่ไม่คิดจะพูดถึงมันด้วยซ้ำ คุณหมอใจร้าย...ฮึก!” แล้วน้ำใสๆ ก็ไหลออกจากหางตาของเด็กป่วยที่ยังคงงอนเขาอยู่
“แล้วเธออยากให้ฉันทำอะไร?” เขาขมวดคิ้วถาม
“เป่า...เวลาที่หนูหกล้มแล้วมีแผล...แม่ก็จะปลอบหนู เป่าแผลให้หนู แล้วหนูจะหายเจ็บ” คำตอบอันใสซื่อของเด็กสาวทำให้คุณหมอหนุ่มนิ่งไป
...เธอทำเขาไปไม่เห็นอีกแล้ว...ขืนเขาจ่อหน้าลงไปตรงนั้น...มันคงไม่จบที่แค่เป่าแน่ๆ ...
“ฉันไม่ใช่แม่เธอ” หมอลิปดาเลยตัดบทนั้นด้วยความเย็นชา
“ใจร้ายนะคะ หนูป่วยแบบนี้ก็เพราะคุณหมอ...ทำไมถึงไม่รับผิดชอบอะไรเลย...พวกผู้ใหญ่เขาเป็นกันแบบนี้เหรอคะ?” น้ำตายังคงหลั่งไหลออกจากหางตาของเธอ
“กินยาซะ” เขาขบกรามแน่นไม่คิดจะตอบอะไรเธอทั้งนั้น ยื่นเม็ดยากับแก้วน้ำไปให้เด็กสาว
“ฮึก! ไม่กินค่ะ! ถ้าคุณหมอไม่ตอบคำถามหนู หนูก็จะไม่ทำตามที่คุณหมอสั่ง” เด็กสาวฉายแววดื้อ
“อยากป่วยตายหรือไง?! กินยาซะ! ถ้าฉันโมโหขึ้นมา...เธอจะเดือดร้อน”
“ฮึก! ไม่กิน! คุณหมอใจร้ายเกินไปแล้วนะคะ...อื้อ!” แล้วดวงตาคู่เศร้าก็เบิกค้าง เมื่อคุณหมอใช้ปากป้อนยาให้เธออย่างที่ไม่ทันตั้งตัว... ลิ้นร้อนดันเม็ดยาขมๆ เข้าไปยังปากเล็ก ก่อนที่เขาจะถอนออกมา เอาแก้วน้ำไปจ่อบังคับให้เธอกินน้ำ จริงใจก็ต้องทำตามที่เขาต้องการ...แก้มแดงขึ้นมา ไม่ใช่จากอาการป่วย แต่มันเป็นเพราะเขาทำให้เธอเขิน
“ก็แค่นี้...” ลิปดาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกจากเตียง คว้าเอาถ้วยใส่น้ำเตรียมจะออกไปจากห้องนอน
“คุณหมอชอบหนูเหรอคะ?” เป็นอีกครั้งที่เด็กสาวทำเอาร่างสูงอึ้งกิมกี่
“...” เขาไม่ตอบอะไร เพียงหันไปจ้องหน้าเธอนิ่ง
“คุณหมอจูบหนู...แถมยัง...ให้หนูกินไอติม แล้วก็...ทำเรื่องเมื่อคืน...ทั้งหมดนั้นเพราะคุณหมอเริ่มรักหนูแล้วใช่ไหมคะ?” เธอจ้องหน้าเขานิ่งอย่างตั้งใจรอคำตอบ
“ไม่” แต่แล้วคุณหมอเลือดเย็นก็ตอบออกมาสั้นๆ
“ฮึก!” เด็กสาวเบะปากจะร้องไห้ออกมา การที่เขาปฏิเสธมันทำให้เธอเสียใจ เพราะเธออยากให้เขารักเธอ เหมือนที่เธอได้เริ่มรักเขาไปแล้ว
“อย่าคาดหวังอะไรจากฉัน เพราะมันจะทำให้เธอเสียใจ และฉันก็ไม่เคยบอกให้เธอมารักด้วย แค่ต่อไปนี้...เธอจะต้องอยู่ที่นี่ไปจนกว่าฉันอนุญาตให้เธอไป...” สิ้นคำนั้นเขาก็ออกมาจากห้องทันที แล้วเสียงร้องไห้ของเด็กสาวก็ดังไล่หลัง สร้างความหนักใจให้เขาไม่น้อย
น้ำตาและคำถามของเด็กสาวจะมีผลต่อคุณหมอหนุ่มไม่น้อย การที่เขาไม่พูด มันไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่รับผิดชอบเธอ หลังจากที่ได้กระทำบทรักไปแล้ว แต่มันคือนิสัยของเขา...นิสัยแย่ๆ ที่ไม่ชอบจะพูดเรื่องที่จะทำให้ตัวเองต้องตกเป็นรองให้กับใคร ควันบุหรี่สีขาวเทาถูกพ่นออกจากปากและจมูกของคนที่กำลังครุ่นคิด...เสียงฟ้าร้องดังขึ้น บ่งบอกถึงสัญญาณฝนตก...ภาพใครอีกคนจึงเข้ามาแทนที่ใบหน้าจริงใจไปในทันที เขาจะลืมทุกคนบนโลกและจมดิ่งหาคนคนเดียวที่อยู่แสนไกลทุกครั้งที่ฝนตก
แหมะ!
ฝนเม็ดแรกจะหยดแหมะลงมา...หัวใจของเขาก็หม่นหมองลงในทันที อย่างที่เคยบอกว่าหมอลิปดาเกลียดฝนตกเหลือเกิน...ฝนตกที่พรากความสุขไปจากเขาตลอดกาล เขายังคิดถึงเธออยู่เหมือนเดิม ทุกครั้งที่ฝนตก หัวใจของเขาก็จะเจ็บปวดขึ้นมา และไม่รู้จริงๆ ว่าเขาจะผ่านพ้นมันไปได้ยังไง เขาจะกลับมามีความสุขอีกครั้งได้ยังไง ในเมื่อเธอคนนั้น...คนที่เป็นคนเดียวที่จะทำให้เขามีความสุขได้นั้น...จากโลกนี้ไปแล้วเมื่อสองปีก่อน...
