บทย่อ
ทุกคำรักที่บอกแค่หลอกให้เธอตายใจแม้กระทั่งยามนอนกกกอดครามก็มองดาวเหนือเป็นแค่เงาและตัวแทนของเมียเก่าเท่านั้น เรื่องย่อ คราม..หลังจากที่เขาสูญเสียภรรยาสุดที่รักไปนานกว่าสองปี เขาใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนไร้วิญญาณ ความเศร้าโศกกัดกินหัวใจจนเขาไม่อาจกลับมาเป็นชายหนุ่มคนเดิมได้อีก จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่ง….การปรากฏตัวของ ดาวเหนือ ทำให้เขากลับมามีความหวังและกลับมาอยากใช้ชีวิตอีกครั้ง สาวสวยตรงหน้าที่หัวใจบอบช้ำไม่ต่างจากเขากำลังนั่งคร่ำครวญเมามายอยู่มุมหนึ่งของบาร์ และเธอไม่ได้มีอะไรกระตุกใจเขาได้เลย ถ้าหากว่าเธอไม่ได้บังเอิญมีใบหน้าคล้ายกับภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้วของเขา ความสัมพันธ์ฉาบฉวยเริ่มขึ้นหลังจากบทสนทนาไม่กี่ประโยค….และทั้งคู่ก็ไปจบกันที่เตียงของโรงแรม เซ็—กส์น่าจะเป็นเรื่องเดียวที่ดูจะมีเหตุผลที่สุดที่รั้งทั้งคู่เอาไว้… แต่ทว่า…สำหรับครามแล้ว เขาต้องการมันมากกว่านั้น แผนการเข้าหาเพื่อครอบครองเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว…และมันเกิดขึ้นอย่างตั้งใจ โดยไม่ได้มีความรักเกี่ยวข้องเลย ในขณะที่ดาวเหนือหวั่นไหวจนตกหลุมรักเขาในที่สุด กว่าจะรู้ว่าเขาไม่เคยรัก กว่าจะรู้ว่าสายตาอ่อนโยนที่เขาทอดมองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเพียงเพราะเขาเห็นใครอีกคนในร่างของเธอ ก็เป็นวันที่เธอถลำลึกจนยากจะถอนได้แล้ว…..
บทนำ…แด่..รินรดา
บทนำ…แด่..รินรดา
แสงแดดที่สาดส่องผ่านฟิล์มกระจกรถยนต์เข้ามา พาให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านในต้องดึงม่านกันแสงออกมาเพื่อช่วยบดบังไอร้อนและรังสียูวี ขณะที่ชายหนุ่มที่นั่งฝั่งคนขับก็เอื้อมมือหนาลูบไปที่เส้นผมสีน้ำตาลของเธออย่างอ่อนโยน
“รินอยากไปเที่ยวที่ไหนคะวันนี้” เสียงนุ่มหวานเอ่ยถามออกมาจากเจ้าของริมฝีปากสีเรื่อ เขาพูดพลางจับพวงมาลัย ก่อนจะสตาร์ทรถมุ่งหน้าออกไป
“พี่ครามมีที่ที่อยากไปมั้ยคะ รินอยากไปทะเล แต่ก็กลัวพี่จะเบื่อ”
“ไปสิคะ ถ้ารินชอบพี่จะพาไปทุกที่เลย แค่มีรินที่ไหนก็ไม่เบื่อ”
หญิงสาวนั่งยิ้มหวาน เธอรู้สึกโชคดีที่ได้ผู้ชายตรงหน้ามาเป็นสามี เขาทำทุกอย่างดีเกินกว่าที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้มาก
รถยนต์สีขาวแล่นไปตามเส้นทางอย่างระมัดระวัง จู่ ๆ กระจกที่อยู่บนมือของหญิงสาว ที่เธอกำลังใช้ยกเพื่อส่องขณะแต่งเติมสีบนริมฝีปาก ก็แตกคามือจนเกิดบาดแผล ปรากฏเลือดซึมให้เห็น
ครามรีบจอดรถเข้าไหล่ทาง เขาคว้าข้อมือของหญิงสาวขึ้นมาดูก่อนใช้ทิชชูซับเลือดจนหมด และยกนิ้วเรียวขึ้นมาเป่าปลอบ
“พี่คราม รินไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ พอได้แล้ว” เธอรีบชักมือกลับคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้เขา ก่อนจะพยายามก้มเก็บเศษกระจกที่หล่นกระจัดกระจาย
“เดี๋ยวพี่ทำให้ รินลงจากรถมาก่อนเถอะ เดี๋ยวจะบาดมืออีก” เขารีบห้ามเธอเอาไว้ ก่อนที่จะลงจากรถ แล้วเดินไปยังที่นั่งฝั่งข้างคนขับและจัดการทั้งหมดอย่างที่เอ่ยบอกเมื่อครู่
รถหรูกลับมาแล่นบนถนนอีกครั้ง รินรดานั่งมองดูสามีผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอ เฉกเช่นเดียวกับคราม รินรดาหญิงสาวน่ารักผู้นี้ก็เป็นรักแรกและจะเป็นรักสุดท้ายของเขาเช่นกัน…
ความรักของทั้งคู่เริ่มต้นตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ในตอนที่เธอเข้ามาเป็นนักศึกษาใหม่ ครามเข้าหาเธอในฐานะรุ่นพี่สตาฟปกครอง ในตอนแรกเขาก็ดูน่ากลัวและคอยแกล้งขู่หรือหาเรื่องแกล้งเธอมาตลอด แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นทั้งสองก็ต่างเริ่มมีใจให้กัน จากที่คอยแกล้งเพื่อหาเรื่องใกล้ชิด ก็กลายเป็นคอยหวงคอยห่วง เทียวรับเทียวส่งอยู่เป็นเทอม จนรินรดาใจอ่อนยอมเปิดใจคบหากับคราม จนเวลาล่วงเข้าปีที่สองก่อนครามเรียนจบ รินรดา ก็ยอมย้ายมาอยู่กับชายหนุ่มเหมือนคู่รักทั่ว ๆ ไป
และทันทีที่รินรดาเรียนจบเขาก็ขอเธอแต่งงานทันที งานแต่งงานของทั้งคู่ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายเงียบ ๆ มีเพียงแค่ญาติสนิทและคนรู้จักเท่านั้นที่รับรู้เรื่องราวของคนทั้งคู่
“มองอะไรขนาดนั้นครับตัวเล็ก ? พี่เขินนะ” เสียงทุ้มหวานดึงสติให้เธอกลับมาที่ปัจจุบัน
“ขอโทษค่ะ พอดีรินคิดถึงตอนที่เราเจอกันใหม่ ๆ เลยเผลอมองหน้าพี่นานไปหน่อย”
“ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรครับ แล้วรินชอบพี่ตอนไหนมากกว่ากันละ ?”
“ก็คงต้องตอนนี้สิคะ ก็พี่ครามเป็นของรินแล้วนี่หน่า พี่คราม..รินรักพี่จัง..อยากอยู่กับพี่แบบนี้ทุกวันเลย การตื่นมาแล้วเจอพี่เป็นความสุขที่สุดของรินเลยค่ะ”
หญิงสาวใช้มือหยิกไปที่แก้มของเขาเบา ๆ ก่อนจะโน้มหน้าหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ จากนั้นก็เริ่มใช้น้ำคำหวานหูจนคนฟังยิ้มแก้มแทบปริ รินรดามักจะทำตัวน่ารัก ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ออดอ้อนราวลูกแมวน้อย ๆ กับเขาเสมอ การมีเธอเหมือนกับดักรักที่ทำให้ผู้ชายอย่างเขาไม่อยากโงหัวขึ้นมาอีกเลย ใบหน้าที่หล่อเหลายิ้มออกมาอย่างชอบอกชอบใจ โดยไม่รับรู้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น
“พี่ก็รักริน รักมากกกกที่สุด มากจนชีวิตนี้คงรักมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว การที่พี่ได้เห็นรินก่อนหลับตานอนในทุก ๆ คืน เป็นสิ่งที่พี่มีความสุขที่สุดในชีวิตเช่นกัน อยู่กันแบบนี้ไปนาน ๆ นะครับสุดที่รักของพี่”
ครามยิ้มให้รินรดาผู้เป็นภรรยาอย่างอ่อนโยน สายตาที่ทอดส่งมาหมายอย่างที่ปากพูดจริง ๆ ก่อนจะยกมือบางที่กุมไว้ขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบา
รถหรูวิ่งอยู่บนถนนที่ไร้รถขนาบข้าง แต่ทันใดนั้นเองรถบัสโดยสารคันหนึ่งเกิดเสียหลักวิ่งข้ามเลนมาจากอีกฟากพุ่งตรงเข้ามาที่รถของทั้งสองคน
ครามที่ได้เห็นแบบนั้นก็พยายามเลี้ยวรถหลบออกไป แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันการเสียแล้ว รถบัสชนประสานงาเข้ากับรถของเขาอย่างจัง
โดยส่วนของหัวรถบัสอัดกระแทกมาด้านของรินรดาอย่างจัง จนส่วนหัวของรถหรูยุบบี้ แรงอัดนั่นทำเอาแอร์แบคทำงานอัตโนมัติ และแรงอัดนั่นทำให้รินรดาเสียชีวิตคาที่ทันที ส่วนครามแรกกระแทกทำเอาร่างของเขาหลุดกระเด็นออกมาจากตัวรถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มีเพียงบาดแผลที่ศีรษะที่ดูจะน่ากังวลมากกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ครามเมื่อตั้งสติได้เขารีบลุกวิ่งเข้าหารถที่ยับบี้เพื่อหาทางช่วยเหลือภรรยาทันที เสียงร้องไห้ฟูมฟายดังลั่นไปทั่วถนน ชิ้นส่วนจากกระจกรถบาดไปทั่วทั้งแขนและขาของเขา เลือดแดงฉานไหลไม่หยุด
ชายหนุ่มไม่ลดละความพยายามเขาพยายามทุกวิธีเพื่อดึงร่างภรรยาออกมา ขณะที่ปากก็ร้องเรียกชื่อเธอไม่หยุด
‘ริน ริน ริน!!’ ในที่สุดเขาก็สามารถพาร่างของหญิงสาวออกมาได้ เลือดสดมากมายนองไปทั่วใบหน้าหวานที่ซีดเผือดและตามลำตัวของเธอ ครามพยายามปั๊มหัวใจให้เมียรัก แม้รู้อยู่เต็มอกแล้วว่ารินรดาได้จากไปแล้ว เขาทำอยู่แบบนั้นอยู่นาน ก่อนจะเข้ามาประคองร่างไร้วิญญาณและกอดร้องหาอย่างคนเสียสติ เลือดที่ไหลออกจากบาดแผลทำให้เขาเป็นลมล้มไป โดยที่ยังมีร่างของภรรยาอยู่ในอ้อมกอด
ไม่นานนักรถกู้ภัยก็มาถึง พวกเขาต่างพาช่วยปฐมพยาบาลผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และครามถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด
เมื่อเขาฟื้นคืนสติ ก็ได้รับข่าวร้ายถึงการสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รัก น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแทบเป็นสายเลือด เขากู่ก้องกรีดร้องราวคนเสียสติ อาละวาดคุ้มคลั่ง จนหมอและพยาบาลต้องเข้ามาฉีดยานอนหลับให้
ผ่านไป 7 วันแล้ว วันนี้เขาดูจะควบคุมสติได้ดีที่สุด เขาลุกลงจากเตียงพนมมือขึ้นอ้อนวอนให้หมอปล่อยเขาออกไป เพื่อไปหาและส่งภรรยาอันเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้าย
………………
ทันทีที่ครามปรากฏตัวในศาลาวัด ทุกสายตาที่ทอดมองมาต่างรู้สึกเศร้าและปวดใจไปกับเขาไม่ต่างกัน สภาพของครามตอนนี้ไม่ต่างกับศพเดินได้ น้ำตาที่ไหลอาบแก้มชายหนุ่มไม่มีทีท่าจะแห้งเหือดได้เลย
“ออกไป แกออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ แกทำให้ลูกสาวฉันตาย ลูกฉันต้องตายเพราะแก ฮือ ฮือ” เสียงแหบแห้งจากหญิงชราคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของคราม
“แม่ครับ ผมขอโทษ” เขาก้มลงกราบแทบเท้าหญิงชรา เนื้อตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความรู้สึกผิด แววตาที่เปื้อนความเศร้าโศกไม่อาจลบล้างความแค้นในใจของหญิงชราผู้นี้ได้
เพี๊ยะ !! เสียงตบฉาดใหญ่ดังลั่นศาลา ตามด้วยกำปั้นที่ทุบลงบนร่างของครามไม่ยั้ง ชายหนุ่มได้แต่นั่งคุกเข่าก้มหน้าให้หล่อนได้ระบายความเศร้า ความโกรธในใจ บนร่างของเขา
ครามเดินออกจากศาลาวัดมาเพื่อความสบายใจของแม่ยาย เขามาหยุดนั่งลงตรงข้าง ๆ พุ่มไม้หนึ่ง สองมือพนมขึ้นขณะพระสวดอภิธรรม สองแก้มเต็มไปด้วน้ำสีใสที่ไหลอาบ เมียรักจากไปแล้ว มันกะทันหันจนเขาตั้งตัวไม่ทัน เราทั้งคู่ยังเพิ่งบอกรักกัน รอยยิ้มนั่นมันไม่มีเค้าลางว่าเราจะต้องจากลากันแบบนี้ และวันนี้เขาก็ยังไม่มีแม้แต่โอกาสเข้าไปจุดธูปบอกลาเธอ
รินรดาจากไปแล้ว แต่คนที่ยังอยู่ใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้ว นาฬิกาชีวิตของครามเหมือนหยุดนิ่งลงตั้งแต่วันนั้น!!
ทุก ๆ วันเขาใช้ชีวิตราวกับว่าจะไม่ตื่นมาเจอวันพรุ่งอีก ชีวิตเขาวนลูปอยู่แบบนี้ ทันทีที่ขอบฟ้ามืดลงเขาก็พาร่างไปหยำเปที่ผับบาร์ประจำทุกค่ำคืน และแบกร่างเละเทะกลับมานอนตายในที่ที่เคยเป็นความสุขของเขากับเมียรัก ชายหนุ่มอนาคตไกลสภาพตอนนี้มีแต่ความน่าสังเวชและเวทนาเป็นที่สุด…..และมันก็ดำเนินมาอย่างนี้ ความตายกลับกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากกับเขา ….จนมันล่วงผ่านมา 2 ปีแล้ว….
แด่…รินรดา
ภรรยาอันเป็นที่รักของคราม