5
“แม่แกน่ะตาถึง เจาะจงพักโรงแรมนี้เลยนะ แล้วบอกคุณเฮิร์ปด้วยว่า อยากได้ห้องที่พักกันได้หมดสี่คน หวยเลยมาออกที่ห้องนี้ แม่งโคตรดี โคตรหรู ต้องอย่างนี้สิวะ ลูกเขยพ่อ” จำเริญยิ้มไม่หุบ ตื่นเต้นที่ได้อยู่ห้องพักหรูหราราคาแพง
“แหมได้ลูกเขยเป็นเศรษฐีก็ต้องอัพเกรดตัวเองหน่อยสิ จะให้อยู่โรงแรมสามดาวสี่ดาวได้ไง ไม่สมกับความรวยของคุณเฮิร์ป”
สายใจแม้การศึกษาไม่สูง อยู่ในระดับอ่านออกเขียนได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเรื่องอินเตอร์เน็ต การเข้าถึงโลกในโซเชียลที่ไม่ต้องใช้ความรู้ ใช้แค่ความจำและการเรียนรู้เท่านั้น ใช้บ่อยๆ ก็เก่งก็คล่องไปเอง การค้นหาข้อมูลเรื่องโรงแรมหรูในเมืองกรุง นางก็ค้นหาทางมือถือ จนได้รู้ว่ามีห้องพักนี้อยู่ในโรงแรมที่ขึ้นชื่อว่า หรูติดอันดับหนึ่งในห้าของเมืองไทย
“แต่อุ้มเกรงใจคุณเฮิร์ปนะแม่ เราอยู่ที่นี่อาทิตย์นึงเลยนะ ค่าห้องก็ปาเข้าไปหลายแสน ไหนจะค่ากินที่ต้องสั่งขึ้นมากินอีก อุ้มว่าเราย้ายไปอยู่ห้องที่ถูกกว่านี้ก็ได้” มีเพียงปรียาพรคนเดียวที่คิดต่าง เช่นเคยที่ค้านคนในบ้านนี้ไม่ได้เลยสักครั้ง แต่ที่พูดออกไปเพราะอยากให้จำเริญเปลี่ยนใจ
“มึงไม่ต้องมาพูดดี กูจะอยู่หรูหราอย่างผู้ดีไม่ได้หรือไง หรือว่ามึงอยากให้พวกกูอยู่ห้องแคบๆ เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงกัน ห้องนี้ออกจะกว้างขวาง จะเดินจะนั่งจะนอนก็สบาย มึงไม่ได้เป็นคนออกเงินค่าห้องซะหน่อย จะเดือดร้อนทำไม” สายใจโวยใส่ลูกนอกไส้ทันที หน้าตาบึ้งตึง “มึงเงียบไปเลยถ้าไม่อยากเจ็บตัว อยู่ดีไม่ว่าดีนะมึง เดี๋ยวกูตบให้”
“นังสาย ช่วงนี้มึงห้ามไปทำอะไรมันนะ ถ้าเนื้อตัวมันเป็นรอยทางโน้นจะสงสัยเอา ราคามันก็จะตกด้วย” จำเริญรีบห้ามเมีย
“พ่อพูออย่างนี้หมายความว่าไงคะ ที่ว่าราคาอุ้มจะตก ไหนพ่อกับแม่บอกว่าจะไม่ขายอุ้มให้ใครแล้วไงคะเพราะอีกไม่กี่วันก็จะได้ค่าสินสอดแล้วน่ะ” ปรียาพรตกใจ แต่ก็หวังลึกๆ ว่า ตนอาจตีความหมายผิดไปเอง
“กูลงลายลักษณ์อักษรไว้หรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่ได้ทำสัญญาไว้กับมึงก็เท่ากับว่า มึงก็ต้องขายตัวต่อไปจนกว่ากูจะบอกให้มึงหยุดได้เมื่อไหร่ แล้ววันนี้ตอนหนึ่งทุ่มมึงต้องไปหาแขกที่โรงแรมนี้ เขาจะรอมึงอยู่ที่นั่น และมึงต้องไปด้วย” คำสัญญาหรือวาจาของคนในบ้านหลังนี้ไม่มีมนต์ขลังเอาเสียเลย พลิกลิ้นได้ตลอดเวลา “ถือว่าเป็นงานสุดท้ายก็แล้วคน เพราะลูกค้าเจาะจงแกมา สงสัยจะติดใจ”
สายใจไม่เคยคิดสักนิดว่า เรื่องที่ตนเองทำไปนั้นผิด นางมีความคิดหนึ่งมาตลอดว่า ปรียาพรต้องตอบแทนบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เลี้ยงดูมา สี่ปีเต็มที่คอยหาลูกค้าให้ลูกเลี้ยงผ่านเจ๊รุ่งอรุณที่หักส่วนต่างไปสามสิบเปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจึงตกเป็นของสายใจที่ไม่เคยแบ่งให้ปรียาพรเลยสักบาท
“แล้วลูกค้าคนนี้เป็นใครคะ” ปรียาพรไม่ค้าน ได้แต่เก็บความเสียใจและน้อยใจไว้ในอกที่แทบจะระเบิดทุกขณะ
“คุณศุภชัย” สายใจตอบ โดยไม่รู้จักหน้าตาลูกค้าปรียาพรเลยสักคน นางเปรียบเสมือนคนกลาง อยากได้เงินเมื่อไหร่ก็โทรไปหาเจ๊รุ่งอรุณ นายหน้าหาผู้หญิงให้ผู้ชายกลัดมัน เมื่อหาได้รุ่งอรุณจะโทรศัพท์มาหาสายใจเพื่อนัดหมายสถานที่ให้ปรียาพรไปลูกค้า และโอนเงินให้สายใจหลังเสร็จงาน
“ได้ค่ะแม่ แต่เป็นงานสุดท้ายนะคะ ถ้าคุณเฮิร์ปรู้ว่าอุ้มรับงาน เขาอาจยกเลิกการแต่งงาน แล้วแม่ก็จะไม่ได้เงินตามหวัง อย่าเห็นแก่เงินไม่ถึงหมื่นแลกกับเงินหลักล้านเลยค่ะ เพราะมันไม่คุ้ม” ปรียาพรพูดอย่างมีเหตุผล เป็นคำขู่กลายๆ
“กูรู้แล้ว มึงไม่เตรียมตัวเถอะ กูจะสั่งข้าวมากินซะหน่อย เอาหรูๆ แพงๆ จะแดกให้ท้องแตกเลย” สายใจตั้งใจสั่งอาหารเต็มที่ เพราะไม่ได้เสียเงินเอง
“เอาเหล้าแพงๆ มาฉลองด้วยนะ ไวน์ก็ได้ เกิดมายังไม่เคยกินไวน์เลย” จำเริญเปรี้ยวปากขึ้นมา
“เอาอาหารญี่ปุ่นแพงๆ ด้วยนะแม่ อุ๋มอยากกินของดีๆ หรือว่าเราจะไปกินกันที่ห้องอาหารดีล่ะ ที่นี่มีห้องอาหารหรูๆ หลายแบบเลยนะแม่ เดี๋ยวอุ๋มจะลองเสิร์ซหาดูก่อน” ปรียารัตน์อยากกินของแพงเช่นกัน
“สั่งมากินบนห้องดีกว่า ไปกินที่ร้านขายหน้าเขาตาย อย่าลืมนะว่าเรายังไม่ได้อัพเกรดตัวเอง ยังไม่ได้เรียนรู้เรื่องสังคมผู้ดี กินผิดๆ ถูกๆ ถูกนินทาแย่ สั่งมากินในห้องนี่แหละดีที่สุด จะตีลังกากินยังได้เลย” สายใจบอกสามีกับลูก ซึ่งทั้งสองก็เห็นด้วย
ปรียาพรมองคนสามคนที่เห็นแก่เงิน ไม่มีความเกรงใจแล้วส่ายหน้าช้าๆ เธอพูดอะไรมากไม่ได้ เตือนก็ไม่ได้ ห้ามยิ่งห้ามไม่ได้ เธอหวังในใจว่า เงินสินสอดรวมแล้วหลักสิบล้าน จะทำให้ครอบครัวนี้รู้จักคำว่าพอ และใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ไม่บังคับให้ตนต้องทำในเรื่องที่ไม่อยากทำ ปรียาพรได้รับอิสระทำอะไรตามใจตัวเองสักที
โดยเฉพาะเรื่องที่ตนถูกบังคับให้เป็นโสเภณี ตอบแทนบุญคุณสายใจกับจำเริญ เธอค้านไม่ได้หากต้องไปรับแขก หากค้านหรือไม่ทำตามความลับที่ซุกซ่อนไว้อาจถูกเปิดเผยได้
ความลับที่มีเพียงปรียาพรกับพันลภเท่านั้นที่รู้..