บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

“อ๊ากกก... อูย”

สองมือของเจ้าสัวขยุ้มศีรษะวิไลเอาไว้แน่น แอ่นบั้นท้ายกระเด้ารับขึ้นมารับริมฝีปากครอบดูดแท่งเนื้อหนุบหนับลงมาถึงโคนพวงสวรรค์ ก่อนจะตวัดลิ้นไล้เลียลูกเงาะสองใบที่เชื่อมอยู่กับโคนแท่งเนื้อนั้นอีกครั้ง

“วันนี้ขอแตกในปากนะจ๊ะ”

เจ้าสัวหน้าบูดหน้าเบี้ยวบอกหล่อน

“เต็มที่เลยค่ะท่าน”

วิไลเหลือบตาขึ้นมองหน้าเขา จากนั้นเจ้าสัวธนาก็ส่งสัญญาณด้วยอาการกระตุกตุบของดุ้นเสียวอยู่ครู่สั้นๆ

“อ่า... ”

เสียงครวญครางถูกขับออกมา จากนั้นสองมือก็กดศีรษะของภรรยา โน้มลงมารับลำเอ็นที่กระเด้ารัว ความแข็งแกร่งเสียดสีกับกลีบปากนุ่ม เข้าๆ ออกๆ นับครั้งไม่ถ้วน เมือกคาวของความใคร่ หลั่งชุ่มเจิ่งนองอยู่ในอุ้งปากของวิไล

“อ๊าคคคค... ซี้ด”

เจ้าสัวคราง น้ำรักพวยพุ่งเข้าใส่อุ้งปากของวิไล หล่อนกลืนกินความรักสีขาวข้นราวกะทิของสามีทุกหยาดหยดอย่างไม่นึกรังเกียจ

“เธอนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ... ”

เจ้าสัวเอ่ยชม หมายถึงหล่อน ‘เก่ง’ เพราะว่าวิไลทำแบบนี้กับเจ้าสัวมาตั้งแต่ครั้งที่เริ่มใช้ชีวิตร่วมกันใหม่ๆ เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่เจ้าสัวหลั่งน้ำรักเอาไว้ในปาก... วิไลจะกลืนกินทุกหยาดหยดของเขาจนไม่เหลือ

ในเวลาต่อมา

ขณะรถของเจ้าสัวกำลังเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถที่หน้าบ้าน จู่ๆ สายตาก็พลันปะทะเข้ากับเรือนร่างสะดุดตาของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะเดินออกไปจากประตูบ้านพร้อมกับหญิงสาววัยกำดัด

เจ้าสัวย่นหน้าผากสงสัย ถ้าสังเกตจากหน้าตาสะสวยสะดุดตาซึ่งละม้ายคล้ายคลึง ก็พอจะเดาได้ว่าสองคนนี้ต้องเป็นแม่กับลูกอย่างแน่นอน

“นั่นใครน่ะ”

เจ้าสัวธนาถามลุงดำซึ่งเป็นคนขับรถประจำตัว

“อ๋อ... ผู้หญิงคนนี้มาสมัครเป็นคนรับใช้ครับนาย... แต่คุณชุลีไม่รับ”

ลุงดำกล่าวไปตามที่รู้มาจากปากของป้าชื่นผู้เป็นภรรยา

“อ้าว... ทำไมไม่รับ”

เจ้าสัวธนาสงสัย มองจนเหลียวหลัง ผู้หญิงคนนี้สวยสะดุดตาเหลือเกิน ผิวพรรณแลดูสะอาดสะอ้านเปล่งปลั่งหมดจดงดงาม

“นังชื่นเมียผมบอกว่าผู้หญิงคนนี้สวยเกินไป... ไม่เหมาะที่จะเป็นคนรับใช้ครับนาย”

ลุงดำกล่าวติดตลก เจ้าสัวพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของลุงดำ

“ใช่... สวยจริงๆ ด้วย... หยุดรถ”

เจ้าสัวพึมพำ ก่อนจะสั่งเสียงดังจนลุงดำตกใจ

“เธอ... บ้านอยู่ทางไหน... ฉันจะไปส่งให้”

เจ้าสัวลดกระจกลงมาถาม ส่งยิ้มทักทายสองแม่ลูก

“อยู่ท้ายซอยในตลาดค่ะ”

ผู้หญิงคนนี้ชื่อคนางค์ หล่อนตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ ทั้งที่รู้สึกเกรงใจคนที่อยู่บนรถหรูราคาหลายสิบล้าน แต่แสงแดดที่สาดความร้อนแรงจนแลเห็นสายเหงื่อไหลรินลงมาจากไรผมของลูกสาวหล่อน ก็ทำให้จำต้องติดรถของเจ้าสัวมาธนามาจนถึงตลาด

“เธอยังอยากทำงานมั้ย”

เจ้าสัวถามตอนที่คนางค์กำลังจะพาลูกสาวลงจากรถ

“งาน... ”

คนางค์อึกอัก

“ใช่... ก็เธอเพิ่งเข้าไปสมัครเป็นคนรับใช้ในบ้านฉัน”

“อ๋อ... ค่ะ อยากค่ะ... ”

คนางค์ตอบไม่อ้อม ทุกวันนี้ทางเลือกในชีวิตของหล่อนเหลือน้อยเต็มที่ หลังจากสามีเสียชีวิตลงด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกเพราะความเครียดเรื่องหนี้สินและโรมหัวใจรุมเร้า หล่อนกับลูกสาวก็ต้องต่อสู้ชีวิตกันมาอย่างยากลำบาก ไม่นานบ้านก็โดนยึด สุดท้ายต้องพาลูกระหกระเหินมาเช่าบ้านหลังเล็กๆ อยู่ที่ท้ายซอยในตลาด

กระทั่งคนางค์ได้เจอกับป้าชื่นในวันหนึ่ง ป้าชื่นรู้สึกสงสารคนางค์กับลูกสาว เลยชักชวนให้มาสมัครงานเป็นคนรับใช้ในบ้านของท่านเจ้าสัว

“โอเค... ถ้าเธออยากทำงาน พรุ่งนี้มาทำได้เลย”

เจ้าสัวสรุปสั้นๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสะสวยและทรวงอกอวบใหญ่ของคนางค์

“ท่านพูดจริงหรือคะ”

คนางค์ตกใจ

“จริงสิจ๊ะ... ”

เจ้าสัวตอบเสียงหวาน คนางค์รีบยกมือไหว้

“ขวัญ... ไหว้ท่านสิจ๊ะ ลูก”

คนางค์หันมาสะกิดบอกลูกสาวซึ่งมีชื่อจริงว่า ‘พลอยขวัญ’ หญิงสาวรีบยกมือไหว้ท่านเจ้าสัวธนา

“ชื่อขวัญหรือเรา... ”

เจ้าสัวยิ้มเอ็นดูสาวน้อยใบหน้าสะสวย ถอดรูปมาจากคนางค์ผู้เป็นมารดาไม่มีผิดเพี้ยน

“หนูชื่อพลอยขวัญค่ะ”

หญิงสาวตอบ จากนั้นสองแม่ลูกก็พากันก้าวลงจากรถ ยืนมองส่งจนรถเบนซ์คันหรูสีทองอร่ามวิ่งฝ่าไปท่ามกลางประกายแสงแดดของยามสาย กระทั่งลับไปจากสายตา คนางค์จึงหันมากล่าวกับลูกสาว

“หนูจะได้เรียนจนจบอย่างแน่นอน... ถ้าได้ทำงานที่บ้านเจ้าสัว แม่ก็จะมีเงินเดือนมาจ่ายค่าเทอมให้หนู”

เสียงของคนางค์มีความหวัง เอื้อมมือข้างหนึ่งมาแตะแขนของพลอยขวัญผู้เป็นลูกสาว

วันนี้โชคเข้าข้างหล่อน ใครเลยจะคิดว่าความหวังที่ริบหรี่ลงไปแล้วเมื่อครู่ หลังจากภรรยาของท่านเจ้าสัวปฏิเสธที่จะรับหล่อนเข้าทำงาน จู่ๆ ก็เหมือนมีแสงเรืองรอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel