ตอนที่ 1 หนี
เด็กหนุ่มร่างเล็กเพรียวบางกำลังวิ่งกระหืดกระหอบอุ้มกระเป๋าใบเล็กที่มีเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเพียงไม่กี่ชิ้น ไปตามถนนลูกรังสายเล็กซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจีของหมู่บ้านห่างไกลบนดอยในจังหวัดเชียงใหม่ ตากแดดตากลมมาเกือบห้ากิโลเมตรก็ถึงที่หมาย ที่นี่คือศาลารอรถริมถนนสายหลักที่จะนำพาเขาไปสู่อิสรภาพตามที่คาดหวังไว้
‘ฮอน’ ยืนรอรถอย่างร้อนใจ มองซ้ายมองขวาด้วยความหวาดระแวง นั่นเพราะเพิ่งหนีออกมาจากบ้าน หนีจากพ่อผู้ที่ไม่เคยรักและใส่ใจ หนีจากแม่เลี้ยงใจร้ายที่เอาแต่โขกสับและใช้งานราวกับทาส และที่แย่ที่สุดก็คือเมื่อคืนนี้ ได้ยินท่านทั้งสองสนทนากันว่าจะนำตัวเขาไปขายให้กับเสี่ยใหญ่ ซึ่งมักจะแวะเวียนมาหว่านล้อมผู้ปกครองให้ยอมพาเด็กไปขายบริการในซ่องทั้งในและต่างประเทศ เขาจะไม่มีวันรอรับโชคชะตาอันเลวร้าย อย่างน้อยหากชีวิตมันจะบัดซบจริง ๆ ก็ขอเป็นคนกำหนดเส้นทางด้วยตนเอง
“ไอ้ฮอนมันอยู่นั่น!”
“พ่อ! น้าอวน”
เสียงแหลมปรี๊ดอันคุ้นหูดังมาแต่ไกล เจ้าตัวหันไปมองก็เห็นพ่อกับแม่เลี้ยงกำลังยืนจ้องมองมา ความกลัวผุดขึ้นในหัวจนสั่นไปทั้งตัว วินาทีที่กำลังตัดสินใจว่าจะอยู่รอรับชะตากรรมหรือหนี รถสองแถวคันเก่าก็แล่นมาจอดตรงหน้าพอดี เจ้าตัวรีบเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งข้างคนขับทันที
“ออกรถเลยครับลุง ออกตอนนี้เลย เร็ว ๆ”
“จะให้ออกได้ยังไง ข้าต้องจอดรอคนอื่นด้วยสิวะ เอ๊ะนั่น! มีคนกำลังวิ่งมาเห็นไหม”
“ลุงครับผมไหว้ล่ะ ออกรถทีเถอะ สองคนนั้นพ่อกับแม่เลี้ยงผมเอง พวกเขาไม่ได้จะขึ้นรถเข้าเมือง แต่จะมาจับตัวผมกลับบ้าน ถ้าผมกลับไปมีหวังถูกจับไปขายแน่นอน ลุงเห็นแก่เด็กตาดำ ๆ คนนี้เถอะนะครับ ฮือ ๆ”
ฮอนยกมือไหว้ขอร้องพร้อมทั้งปล่อยโฮอย่างร้อนใจ เห็นอย่างนั้นลุงคนขับรถก็ทำหน้าหนักใจ มองกระจกหลังก็เห็นชายหญิงวัยเลยวัยกลางคนกำลังวิ่งจวนจะมาถึงรถแล้ว
“ก็ได้วะ เฮ้อ วันนี้ข้าไม่ได้คนเข้าเมืองเลย แต่ก็ถือว่าได้ทำบุญทำทานก็แล้วกัน”
ขอบคุณครับลุง ผมจะไม่ลืมบุญคุณลุงเลยครับ ฮือ ๆ”
เจ้าตัวดีใจยิ้มไม่ยอมหุบแม้แก้มขาวทั้งสองจะเปื้อนคราบน้ำตาอยู่ก็ตามที ล้อรถเริ่มหมุนก่อนที่สองคนนั้นจะมาถึงพอดิบพอดี ทำให้ฮอนแคล้วคลาดจากการถูกนำไปส่งขายเหมือนเด็กหนุ่มสาวในหมู่บ้าน
เมื่อผ่านพ้นจากวินาทีแห่งความคับขันแล้วก็นั่งรถมาอย่างสบายใจ เอียงหน้ามองนอกหน้าต่างรถที่ขับผ่านต้นไม้สีเขียวขจีตามสองข้างทางอย่างช้า ๆ ฉากหลังคือภูเขาสูงสลับซับซ้อนหลายต่อหลายลูก เส้นทางอันคดเคี้ยวและแสนไกลไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่
“ขอบคุณมากนะครับลุง ถ้าผมได้ดีแล้วจะกลับมาตอบแทนบุญคุณลุงแน่นอน”
“โชคดีมีชัยไอ้หนุ่ม ไม่ต้องมาตอบแทนอะไรข้าหรอก ขอแค่เอ็งเอาตัวรอดข้าก็ดีใจกับเอ็งแล้ว ข้าไปแล้วโว้ย”
“ขอบคุณครับลุง ขับรถปลอดภัยนะครับ”
ฮอนร่ำลาลุงขับรถที่สถานีขนส่ง ยืนมองรถสองแถวคันเก่าขับห่างออกเรื่อย ๆ พร้อมด้วยรอยยิ้ม รู้สึกโล่งใจที่ตอนนี้ได้ออกมาจากขุมนรกที่เรียกว่าบ้าน ด้วยความยากจนข้นแค้นจึงไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ แต่เจ้าตัวยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เพราะเจียดมาแอบเก็บไว้ในระหว่างทำงานรับจ้างทั่วไปที่หมู่บ้าน มีใครจ้างเขาก็รับงานหมด หากทว่าเงินที่ได้มาถูกพ่อและแม่เลี้ยงรีดไถไปใช้อย่างสนุกสนานบานชื่น ราวกับเขาเป็นเพียงตัวทำเงินเท่านั้น
ฮอนเดินมาที่ตู้โทรศัพท์ซึ่งแทบจะหายสาบสูญไปในยุคสมัยที่ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือแทบจะทุกคนแล้ว หากทว่าด้วยความยากจนทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ท่องโลกอินเทอร์เน็ตเหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่นทั่วไป ร่างเล็กหยิบเศษเหรียญออกมาแล้วหยอดเข้าที่ช่องก่อนกดเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกเขียนในกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่ยัดใส่กระเป๋าเอาไว้เมื่อครั้งที่ ‘อิฐ’ เคยให้ไว้
“สวัสดีครับอ้ายอิฐ”
“ใครนี่”
“ผมฮอนเองครับ”
“อ้าวฮอน โทรหาอ้ายมีอะไรหรือเปล่า”
“ตอนนี้...ผมหนีออกมาจากบ้านเราแล้ว ผมอยากทำงานกับอ้ายอิฐ พอจะมีงานให้ทำไหมครับ”
“มีสิ อ้ายกำลังต้องการคนพอดีเลย ตอนนี้ฮอนอยู่ไหน”
“ผมอยู่ที่บขส.ครับ”
“เดี๋ยวอ้ายจะไปหาตอนนี้ พรุ่งนี้จะได้เดินทางเลย”
“ขอบคุณครับอ้าย ตอนนี้ผมอยู่ที่ตู้โทรศัพท์ใกล้เซเว่นครับ”
“รออยู่ตรงนั้นล่ะเดี๋ยวอ้ายไปรับ”
“ครับ”