3
บทที่3
เมื่อสอบถามข้อมูลของเจ้าของร่าง สุดท้ายก็ยอมรับความเป็นจริงทั้งหมดและยอมรับที่จะอยู่ในร่างนี้ต่อไป ในวันที่เธอตกแม่น้ำเจ้าพระยาเธอได้ทะลุมิติมายังโลกนี้ในช่วงเวลาที่อู่เหมยนาฮวยตกสระบัว ชิงชิงเล่าว่าตอนที่ช่วยนำร่างขึ้นมานั้น เหมยตาฮวยไม่หายใจแล้ว กว่าจะดึงลมหายใจกลับมาได้ก็ช่วยกันอยู่นาน
ร่างของไพรินจมอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนวิญญาณที่แท้จริงของอู่เหมยตาฮวยป่านนี้คงเดินทางไปยังภพปรโลกแล้ว
“เฮ้อ!” ร่างบางลุกจากเตียงเดินมาทิ้งตัวที่หน้าคันฉ่องเหลืองบานใหญ่ สตรีที่อยู่เบื้องหน้าอายุเพียงยี่สิบ เท่านั้นกลับต้องมาจบชีวิตลง เธอเองก็อายุสามสิบห้า ก็ต้องตายไปทั้งแบบนั้น ช่างน่าอนาถ แต่ในเมื่อเธอได้มีโอกาสมีชีวิตกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะในอีกมิติหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย เธอก็จะขออยู่ต่อไป เพื่อตนเองและเพื่อเจ้าของร่างเดิม
“ถอนหายใจแบบนี้ไม่งามเลยเจ้าคะ” ชิงชิงที่ยืนใช้หยกสีขาวล้ำค่าสางผมให้สตรีเลอโฉมที่ส่องกระจกอยู่
“ข้าขอบคุณเจ้าที่ยอมตอบคำถามของข้าโดยที่ไม่อารมณ์เสียใส่” เธอถามชิงชิงเยอะมากๆ ความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างไม่มีเหลือมาให้เธอเลยแม้แต่นิดเดียว อยากได้ยาดมขวดเขียวดมทีสดชื่นไปถึงก้านสมอง
“คุณหนูเพียงลืมเลือนไปช่วงขณะ อีกไม่นานก็จำได้ทั้งหมดเจ้าค่ะ
ไพรินเพียงสางยิ้มบางๆ ผ่านคันฉ่องกลับไปเท่านั้น
อู่เหมยตาฮวย ชื่อนี้แปลกก็เพราะว่า ฮองเฮาองค์ปัจจุบันเป็นคนตั้งให้ เดิมพระองค์เป็นองค์หญิงจากแคว้นทุ่งหญ้าที่แสนห่างไกล เดินทางมาเพื่อนเป็นสนมของฮองเต้ มารดาของอู่เหมยตาฮวยที่เป็นขนิษฐาขอติดตามมาด้วยระหว่างทางพบรักกับรองแม่ทัพหนุ่มที่อารักขาขบวนเสด็จ จึงได้แต่งงานกับรองแม่ทัพหนุ่มคนนั้นแทนการเข้าวังไปกับพระสนมในวันที่เหมยตาฮวยเกิดฮองเฮาถึงขนาดเดินทางออกจากวังมาช่วยทำคลอดให้ที่สกุลอู่
อู่ฮูหยินบุญน้อยเหลือเกินคลอดทารกน้อยเพียงไม่กี่ชั่วยามสิ้นใจเพราะตกเลือดหลังจากคลอด ทำให้ฮองเฮาที่รักและสงสารหลานสาวคนนี้มาก ตามใจทุกอย่าง
เหมยตาฮวย หมายถึงดอกมู่ตานหรือดอกโบตั๋น เดิมเป็นเพียงดอกไม้ป่า ผู้คนเห็นว่าสวยงามจึงนำมาปลูกในบ้านเรือน ถือว่าเป็นดอกไม้ที่งดงมาที่สุด เป็นราชีนีของมวลหมู่ดอกไม้
“ดูเจ้าเข็งแรงแล้วนิคุณหนูใหญ่”
“ใคร” เหมยตาฮวยเอี้ยวหลังหันไปกระซิบตามคนสนิท
ชิงชิงรีบป้องปากกระซิบข้างใบหูเล็ก “แม่นางไป๋ชานคนรักของท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ”
“อ้อ” ดอกไม้อีกหนึ่งดอกในจวนนี้
“เสียมารยาท พวกเจ้ากระซิบกระซาบกันต่อหน้าข้าแบบนี้ ไม่คิดว่าคุณหนูตระกูลใหญ่จะทำกริยาต่ำๆ ได้ถึงเพียงนี้”
เหมยตาฮวยถึงกับห่อปากร้อง ‘ว้าว’ มาถึงก็จิกกัดกันเลย
“ข้ายอมรับว่าข้าเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่ข้ากับชิงชิงก็พักผ่อนอยู่ในเรือนกันเงียบๆ เป็นคุณหนูไป๋เสียมากกว่าที่ถือวิสาสะเข้ามาในห้องนอนของข้าโดยที่เจ้าของห้องไม่ได้อนุญาต ไม่รู้ว่าแบบใดต่ำช้ามากกว่ากัน หากข้านำเรื่องนี้ไปบอกท่านป้า ไม่รู้ว่าท่านหรือข้าที่จะอยู่จวนนี้ไม่ได้”
“เจ้า! เจ้ากล้างั้นเหรอ”
“กล้าไม่กล้าไม่รู้ คุณหนูไป๋อยากลองดูหรือไม่”
“ท่านป้าให้ข้าเอาโสมบำรุงมาให้” ไป๋ชานโยนห่อผ้าลงบนตักเหมยตาฮวย หากเหมยตาฮวยฟ้องท่านป้า นางเสียเปรียบทุกทาง ท่านป้าจางยอมลงให้อู่เหมยตาฮวยเพราะเกรงใจฮองเฮา นางซึ่งอยากแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้ต้องใจเย็น จะให้ท่านป้ารู้สึกไม่ดีกับนางไม่ได้ เพราะอย่างไรตอนนี้คนรักของนางก็ยังไม่กลับมาจากสนามรบ รอให้จางซานฟงกลับมาก่อนเถิด ข้าจะให้เฉดหัวอู่เหมยตาฮวยออกไปจากจวนสกุลจางให้ได้ ไม่ว่าต้องใช้เล่ห์กลใดก็ตาม
เหมยตาฮวยมองสตรีที่โยนข้าวของให้นางแล้วเดินตึงตังออกไป ด้วยสายตาอ่อนใจ เหตุใดสตรีจึงต้องมาแก่งแย่งบุรุษเพียงคนเดียว
“ข้าจะกลับจวนสกุลอู่”
“แต่กว่าคุณหนูจะขออนุญาตนายท่านมาอาศัยอยู่ที่นี่ก็ต้องเล่นละครไปหลายอย่างเลยนะเจ้าค่ะ จะยอมแพ้ไปแบบนี้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ”
เหมวยตาฮวยกลอกตากับความสิ้นคิดของเจ้าของร่างเดิม พอรู้ว่าคู่หมั้นคู่หมายให้คนรักมาพักอาศัยอยู่ที่จวนนางก็ถึงกับขอมาอยู่ด้วย แม้จะถูกบิดาและพี่ชายคัดค้านเรื่องความเหมาะสม แต่นางนั้นก็ไม่สนใจยืนยันว่านางเป็นถึงคู่หมั้นแม่ทัพจาง มีสตรีอื่นอยู่ในจวนนั้นเป็นสิ่งที่น่าเกลียดยิ่งนัก นางต่างหากสมควรย้ายเข้ามาอยู่ด้วยด้วยสิทธิ์อันชอบธรรม พอท่านอู่ไม่ยินยอม เหมยตาฮวยก็แบกน้ำตาไปร้องห่มร้องไห้ถึงในวังหลวง จนฮองเฮาออกคำสั่งมาด้วยองค์เองว่าหากคนรักของจางซานฟงอยู่ที่จวนสกุลจาง เหมยตาฮวยที่เป็นคู่หมั้นก็ต้องได้อยู่เช่นเดียวกัน
จางฮูหยินเป็นสตรีที่ดูแลจวนเพียงผู้เดียว สามีก็ตายในสนามรบ บุตรชายเพียงคนเดียวก็ยังสู้รบอยู่ชายแดน จำต้องรับเหมยตาฮวยเข้ามาพักอาศัยอยู่ในจวนก่อนจะมีพิธีแต่งงาน
“ข้าง่วง ขอตัวพักผ่อนก่อนแล้วกัน เรื่องอื่นค่อยว่าอีกที” เหมตตาฮวยยกมือขึ้นปิดปากหาววอดๆ แม้หลายวันที่ผ่านมาจะทำแค่เพียงนอนอยู่ในเรือนไม่ได้ออกไปไหน แต่เหมือนร่างกายยังไม่เต็มอิ่มยังอยากนอนอยู่ บุรุษที่เหมยตาฮวยให้ฮองเฮาบังคับมาให้เป็นคู่หมั้นคู่หมายนางโดยที่นางก็รู้ว่าอีกฝ่ายมีคนรักอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลไปไป๋ซาน ข้าคนนี้จะคืนคนรักให้เจ้าเอง แต่ตอนนี้ขอข้านอนสักตื่นก่อน