ลงโทษ
“ค่ะ ขอเอกสารฉันคืนด้วย” ดวงตาโตกลมมองเอกสารในมือคนตัวโต พร้อมกับเดินไปหวังคว้าแฟ้มมาแต่เขาเร็วกว่า ชักมือหนีจนเธอล้มไปใส่อกกว้างของเขาอย่างจัง ร่างสูงเซถลาลงไปนั่งบนโต๊ะทำงานของตนเอง
“ใจร้อนจังครับ เรื่องระหว่างเราควรค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า”
เสียงกระซิบแผ่วข้างหูบอกน้ำเสียงกวนๆ ทำหญิงสาวโกรธจัดดันเขาออกแต่เขากับใช้มืออีกข้างคว้าเอวคอดเข้ามาแนบชิด
“นี่ปล่อยนะ”
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
“เอาเอกสารคืนมาก่อน แล้วค่อยคุย” ปากหยักยกยิ้มอย่างรู้ทัน
“คงไม่ได้นี่เป็นเอกสารสำคัญของบริษัทผม” แขนยาวโยนแฟ้มไปด้านหลัง แล้วใช้มืออีกข้างโอบรอบเอวเธอไว้
“ปะ..ปล่อยฉันนะ”
เสียงอู้อี้พูดตะกุกตะกัก พร้อมกับใช้สองมือดันอกแกร่งไว้ เพราะใบหน้าอยู่ใกล้เขาเกินไปแล้ว
“..” เขาไม่ตอบได้แต่มองคนตัวเล็กที่ดิ้นในอ้อมกอดอย่างเป็นต่อ
“นี่ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง”
“ถ้าผมไม่ปล่อยคุณจะทำอะไรผม” ให้ตายเถอะผู้ชายคนนี้ร้ายกาจกว่าที่เธอคิดไว้มากขืนเป็นแบบนี้มีแต่เธอที่จะเสียเปรียบ
“ฉันจะทำอะไรผู้ชายตัวโตอย่างคุณได้ ปล่อยฉันก่อนแล้วเรามาคุยกันดีๆ”
คิ้วหนาเลิกสูงพลางยิ้มที่มุมปากที่เธอรู้จักใช้มารยาหญิงแก้สถานการณ์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ
“จะคุยอะไรกับผม พูดมาได้เลย”
“คุณก็ปล่อยเอวฉันก่อน”
“ไม่ ผมกลัวคุณทำร้ายร่างกายผม” ญารินมองบนเบะปากใส่ผู้ชายตัวโต ก่อนถอนหายใจแล้วปรับน้ำเสียงคุยกับเขาดีๆ
“ฉันต้องการยกเลิกสัญญาที่พึ่งเซ็นไป” เสียงหวานบอก
“ทำไมครับ” เสียงทุ้มเรียบตอบได้กวนประสาทมาก แถมยังโน้มหน้าลงมาใกล้จนจมูกแทบชิดแก้มนุ่มของเธอ จนต้องแอ่นตัวถอยหนี
“เพราะฉันไม่อยากเช่าที่นี่แล้ว”
“เป็นเพราะผมหรือเปล่า”
เสียงทุ้มกระซิบถาม จะกระซิบทำไมเนี่ยอยู่กันแค่สองคน แล้วรู้ทั้งรู้ยังจะตีหน้ามึนถามเธออีกเหตุการณ์ครั้งก่อนเธอยังจำได้ดียังโกรธเขาไม่หาย
“ใช่เพราะคุณนั่นแหละ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
“หน้าผมมันทำไมครับ” ใบหน้าหล่อยื่นเข้าไปถามใกล้กว่าเดิมจนหญิงสาวต้องยกมือขึ้นปิดปากเขาไว้ ไม่ให้โดนปากเธอ แต่การที่เอามือออกจากอกเขากลับทำให้หน้าอกเธอแนบชิดกับอกแกร่งอย่างจัง ความนุ่มนิ่มเบียนเป็นหนึ่งเดียว
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
หัวใจเธอเต้นแทบไม่เป็นจังหวะเมื่อแขนแข็งแรงโอบเธอเข้ามากอดแนบแน่น ญารินพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดนั้นแต่ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นเขายิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้น จังหวะที่ทั้งสองกำลังยื้อยุดพลเทพเปิดประตูพรวดพราดเข้ามา
“ไอ้เต บ่ายสามวันนี้คุณปรานีขอเลื่อนนัด อะ อะ ออกไปก่อนแล้วจะโทรมานัดใหม่” เสียงรายงานตะกุกตะกัก ดวงตาเบิกกว้างค้างอย่างไม่อยากเชื่อ มึงมันร้ายไอ้เตพลเทพคิดในใจ
“อืมรู้แล้ว มึงออกไปก่อน” เตชินบอกเสียงเรียบขณะที่ยังกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมอก พลเทพก็ไม่รอช้ารีบออกไปไม่อยากขัดจังหวะทั้งสองคนนาน
“นี่ทำไมถึงไม่ปล่อย”
“ก็แล้วทำไมผมต้องปล่อย”
“คุณทำแบบนี้คนอื่นจะเข้าใจผิดได้นะ”
“มีอะไรให้เข้าใจผิด เพราะผมคิดจะจีบคุณอยู่แล้ว” เขาบอกหน้าตาเฉย ก็ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกอยากเป็นเจ้าของเธอคนนี้ อยากปราบม้าพยศมั้ง
“จีบอะไรฉันมีแฟนแล้ว”
“คุณโกหก” เขารู้เพราะให้คนไปสืบประวัติเธอมาแล้ว โสดสนิทศิษย์ส่ายหน้า
“ไม่ได้โกหก อื้อ..”
ไม่ฟังต่อปากบางก็ถูกเขากดจูบลงมา มือเรียวทุบอกกว้างเขาระรัวเป็นการประท้วง ริมฝีปากหยักขบเม้มเรียวปากนุ่มอย่างหนักหน่วง บังคับให้หญิงสาวเผยอปากขึ้นและได้ผลปากรุ่มอ้ารับสัมผัสจูบของเขาอย่างเงอะงะ แต่ไม่ได้ล่วงล้ำเขาจูบจนพอใจก่อนผละออกพร้อมกับปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ