ตอนที่ 1 ดวงใจที่รัก
ตอนที่ 1 ดวงใจที่รัก
เกียร์ หรือ นายภาณุวัฒน์ นักศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศอเมริกา เขาถูกผู้เป็นบิดา ส่งมาเรียนที่นี่ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อที่เขาจะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่อย่างที่มีคุณภาพ และนำความรู้กลับไปบริหารงานต่อจากผู้เป็นบิดา ซึ่งตอนนี้ท่านก็อายุมากแล้ว
แพร หรือ นางสาวพรนัชชา หญิงสาวชาวไทย มาเรียนที่สถาบัน เดียวกันกับชายหนุ่ม เธอบังเอิญรู้จักกับเกียร์ ชายหนุ่มที่มีอายุเท่ากันกับเธอ เขาและเธอเรียนปีเดียวกันแต่เขาเรียนบริหารส่วนเธอเรียนดีไซเนอร์ และเธอกับเขาก็บังเอิญพักห้องติดกัน จึงทำให้ทั้งสองสนิทกัน เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน แล้วก็รู้จักกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้เขาและเธอกำลังจะเรียนจบในระดับชั้นปริญญาตรีกันแล้ว
"ฮัดชิ้ว" เสียงจามของแพรเพื่อนข้างห้องของเกียร์ดังขึ้น ขณะที่เธอทานอาหารอยู่ ที่ร้านอาหารชั้นล่างของห้องพักที่เธอและเขาพักกันอยู่ ที่เขาและเธอพักที่นี่เพราะมันอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่นั่นเอง
"ไม่สบายอีกแล้วเหรอแพร เมื่อวานฝนตกตากฝนมาใช่มั้ยเนี่ย" เกียร์เดินเข้ามานั่งข้างๆ พร้อมกับจานอาหารของตัวเอง แล้วเอ่ยถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
"นิดหน่อยน่ะแค่ละอองเอง" เธอตอบออกไป โดยที่ไม่ได้ปฏิเสธว่าเธอตากฝนมาจริงๆ แต่เธอก็รู้ดีว่าเพื่อนคงเป็นห่วง ก็เธอชอบป่วยบ่อยๆ แล้วก็มีเขานี่แหละคอยซื้อยามาให้ คอยดูแลยามที่เธอป่วย จนเธอรู้สึกดีกับเขาอยู่ไม่น้อย จึงทำให้ในบางครั้งเธอชอบอ้อนให้เขาดูแล และเขาก็ชอบให้เธออ้อนเพื่อที่เขาจะได้ดูแลเธอ เป็นแบบนี้มานานแล้ว แต่ทั้งสองก็เลือกที่จะคบกันแบบเพื่อนเพราะยังเรียนไม่จบนั่นเอง
"นั่นไง แพรก็เป็นแบบนี้ทุกที" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเอามือมาอังที่หน้าผากของเธอทันที อย่างเป็นห่วง แต่ก็ถูกแพรดึงมือเขาออกเพราะนับวันเขายิ่งมีอิทธิพลต่อหัวใจของเธอเหลือเกิน เธอกลัวว่าจะห้ามหัวใจของตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป ยิ่งเขาดีกับเธอมากขนาดไหน หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอก็ยิ่งสั่นไหว แต่เธอก็มีความสุขมากทุกครั้งที่เขามักจะแสดงความเป็นห่วงเธอแบบนี้
"โรคนี้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแพรไปแล้ว อากาศแบบนี้เดี๋ยวฝนเดี๋ยวหนาวแพรคงปรับตัวไม่ทันน่ะ" เธอบ่นมุบมิบกับสภาพอากาศของที่นี่ก็เธอแพ้อากาศเย็น เจออากาศเย็นทีไรจามแบบนี้ทุกทีกินยาแล้วนอนพักเดี๋ยวก็ดีขึ้น
“แล้วเราล่ะ ขอเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของแพรด้วยได้มั้ย” เกียร์พูดด้วยสายตาที่บ่งบอกว่า เขาพูดจริง เขาและเธอสบตากัน ความรู้สึกอบอุ่นที่เขามีให้เธอมันเพิ่มขึ้นทุกวันๆ จนหญิงสาวไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเธอก็แอบมีใจให้เขามากพอสมควร แต่ด้วยสถานะของเราสองคนที่คบกันแบบเพื่อนจึงทำให้ ทั้งสองยังไม่ได้เปิดใจคุยกัน มีแค่การกระทำเท่านั้นที่มันบอกว่าอีกฝ่ายรู้สึกดีแค่ไหน
“เกียร์...” เธออึ้งไป ไม่คิดว่าเขาจะพูดมันออกมา แต่มันก็ทำให้เธอก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อย ที่ได้ยินเขาพูดแบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเขาอาจจะหมายถึงเพื่อนก็ได้ เธอไม่อยากจะคิดไปไกลเพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็ดีอยู่แล้ว
"ทานยาหรือยัง เราเป็นห่วง" ทั้งสองเปรียบเสมือนเพื่อนกัน อายุเท่ากันเรียนปีเดียวกันรู้จักกันมาก็เกือบจะสี่ปีแล้ว ความสนิทจึงมีมากพอสมควร และดูเหมือนทั้งสองก็ใจตรงกันซะด้วย และคำว่าเป็นห่วงของเขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมาก เธอไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอเพราะเขาไม่เคยบอก ส่วนเธอก็ไม่เคยบอกความรู้สึกของตัวเองให้เขารู้เช่นกัน
"จะเป็นห่วงทำไม แพรโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ สักหน่อย" เกียร์มักจะพูดกับเธอแบบนี้เสมอ เวลาเธอป่วยเขาชอบพูดว่าเป็นห่วงอยู่บ่อยๆ เขามักจะทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนเธอไม่สามารถจะหักห้ามหัวใจของตัวเองได้
"ก็ต้องเป็นห่วงสิ เราขี้เกียจมาดูแลตอนแพรป่วยไง" เกียร์บอกปัดๆ แต่ใจจริงแล้วเขาก็อยากดูแลเธอนั่นแหละ เธอป่วยเขาก็ต้องดูแลเธออยู่แล้ว แบบเต็มใจไม่ได้ขี้เกียจอย่างที่ปากบอกหรอก
"แพรขอโทษนะเวลาแพรป่วยลำบากเกียร์ตลอดเลย" หญิงสาวทำหน้าเศร้า เมื่อชายหนุ่มพูดแบบนั้น แล้วก็รู้สึกผิดที่ทำให้เขาลำบากด้วย
"ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ มีอะไรก็ช่วยๆ ดูแลกันไปเนาะ" ชายหนุ่มบอกออกไปแต่ในใจก็รู้สึกแปลกๆ กับคำว่าเพื่อนที่ใช้พูดกับเธอ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเห็นเธอเป็นมากกว่าเพื่อนมาตลอด แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะรู้สึกกับเขาอย่างที่เขารู้สึกกับเธอหรือเปล่า
"เกียร์ลำบากหรือเปล่า ถ้าลำบาก…" เธอยังพูดไม่ทันจบเขาก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
"เราไม่ลำบากอยากคิดมาก อิ่มหรือยังเราอิ่มพอดีป่ะขึ้นห้องกัน" ห้องของเขากับเธออยู่ติดกัน ก็ไม่แปลกที่ทั้งสองคนจะเดินขึ้นห้องพร้อมกัน แต่ที่แปลกคือการกระทำของชายหนุ่มต่างหาก เพราะเขาชอบเดินจูงมือเธออยู่บ่อยๆ ตอนนี้ก็ด้วย แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาอยากจับเธอก็ให้จับ เพราะเธอก็ชอบให้เขาปฏิบัติกับเธอแบบนี้ แต่เขาก็ไม่เคยทำมากกว่าการจับมือนะ เธอจึงรู้สึกว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษมากแค่ไหน
"ฮัดชิ้ว" เสียงจามของหญิงสาว จามออกมาเป็นระยะๆ
"นั่นไง ดื้อแล้วก็เป็นแบบนี้ไง" ทุกครั้งที่แพรไม่สบาย เกียร์จะดูแลแพรเป็นอย่างดี เกียร์ไม่รู้ว่าเขาได้ทำให้อีกคนหัวใจสั่นไหวมาตลอด เพราะเขาดูอบอุ่นและเธอก็รู้จักกับเขามานานทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่แสนดีขนาดไหน แต่เสียดายที่เขาให้เธอได้แค่สถานะเพื่อน ซึ่งเธอก็ยินดีแต่ในบางครั้งหัวใจมันก็เรียกร้องอยากจะได้มากกว่าเพื่อน
"ทานยาซะ แล้วไปอาบน้ำนะครับ"