บท
ตั้งค่า

ตอนที่6 เพราะรัก

บนเชิงเขาที่กำลังมีหญิงสาวสองคนยืนจ้องหน้ากันด้วยสายตาดุเดือดปะทะกันกลางอากาศ

หนึ่งคือสตรีรูปโฉมงดงามมั่นใจในตนเอง ท่าทางสูงส่งไม่เคยลงให้ใคร กับอีกหนึ่งเป็นเพียงสตรีรูปร่างธรรมดาแต่ท่าทางอ่อนหวานแลดูอ่อนโยนจริงใจ

ทั้งสองยืนมองกันด้วยประกายตาคล้ายมีขุมพายุโหมกระหน่ำที่บ่งบอกได้ว่าเป็นศัตรูกันมาเนิ่นนาน

เหตุที่เป็นเช่นนี้ สืบเนื่องมาจากทั้งสองเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กในพระตำหนักของไทเฮา และยิ่งสนิทสนมเมื่ออยู่นอกเขตพระราชฐาน ยามดำเนินมายังวังข้างนอกเพื่อไหว้พระ

และเชิงเขาแห่งนี้ พวกนางก็เคยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

เพ่ยจีเป็นบุตรสาวของนางกำนัลคนสนิทของไทเฮาที่พระนางทรงรักดั่งน้องสาว พระนางจึงมอบพระเมตตาให้มารดาของเพ่ยจีแต่งงานกับชายคนรักได้อย่างใจกว้างเมื่อถึงวัยเพียงยี่สิบปี

ซึ่งเดิมทีตามกฎแล้วนางกำนัลจักได้ออกไปแต่งงานได้นั้น ต้องอายุยี่สิบห้าปี

แต่กระนั้นชีวิตคู่กลับไม่ราบรื่น มารดาของเพ่ยจีถูกชายคนรักนอกใจทิ้งกันไปหลงใหลเพียงภรรยาใหม่ หลายวันที่หายหน้าเขากลับมาพร้อมหญิงแพศยา ทั้งๆ ที่สามารถรับเป็นอนุหรือภรรยารอง หากแต่นังนั่นกลับไม่พอใจ ต่อมาสามียังรวมหัวกับภรรยาใหม่คิดไม่ซื่อต่อสองแม่ลูก หมายยกฐานะขึ้นแทนที่กันในขณะที่เพ่ยจียังอยู่ในครรภ์มารดา

เมื่อความล่วงรู้ถึงไทเฮา พระนางจึงรับตัวมารดาของเพ่ยจีเข้าวังมาเป็นนางกำนัลคนสนิทดังเดิม เพ่ยจีจึงได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของไทเฮาจนกระทั่งถือกำเนิด

นางเกิดก่อนลี่เหยาถิงเพียงไม่นาน เมื่อลี่เหยาถิงได้เข้ามาอยู่ในตำหนักของไทเฮาด้วยอีกคน ทั้งสองจึงเป็นเพื่อนกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา

พวกนางเติบโตด้วยกันก็จริง แต่ทว่าลี่เหยาถิงมักจะได้ทุกสิ่งยิ่งกว่าเพ่ยจี ด้วยน้ำหนักในพระทัยของไทเฮาย่อมแตกต่าง

ถึงแม้จะมิได้มีเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์มากั้นกลางระหว่างสายสัมพันธ์เช่นมิตรสหาย ทว่าทุกคนล้วนคิดได้ว่าเพราะเหตุใด

หากแต่เพ่ยจีกลับคิดไม่ได้ด้วยมีใจริษยาซุกซ่อนอยู่ล้นใจ นางมีนิสัยอ่อนหวานกิริยาอ่อนโยนกิริยาดีงามก็จริง หากแต่ก้นบึ้งในจิตใจนั้น แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่ตระหนักว่าเลวร้ายปานใด

กระทั่งวันหนึ่ง เหวินเต๋อซึ่งเป็นบุตรชายของราชองครักษ์ส่วนพระองค์ของไทเฮา ที่มักจะได้รับอภิสิทธิ์ให้เป็นเพื่อนเล่นกับสตรีทั้งสองตั้งแต่เด็กในฐานะพี่ชายคนสนิท ในทุกครั้งที่ไทเฮาเสด็จมายังวังฤดูร้อน หรือยามที่พำนักยังอารามนอกวัง เกิดรู้ใจตนเองขึ้นมาเมื่อได้อายุสิบเจ็ดหนาว ว่าชมชอบลี่เหยาถิงในวัยสิบสามปี

เหวินเต๋อในวัยคึกคะนอง ทั้งยังมีนิสัยเปิดเผยไม่เคยเก็บข่มหรือยับยั้งชั่งใจ

จึงแสดงออกชัดเจนถึงความรักที่มีต่อลี่เหยาถิง

และนั่นจึงทำให้เพ่ยจีเปิดเผยธาตุแท้ออกมา

แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงปีศาจร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวของเพ่ยจี

นางสามารถเก็บงำเอาไว้ได้เป็นอย่างดีไร้ใครสังเกตเห็น

ทั้งสามเติบโตขึ้นมาท่ามกลางวังวนแห่งความรักฉันมิตรสหายที่เริ่มเปราะบางลงเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น...

เพ่ยจีชอบเหวินเต๋อร์ และชอบมากยากจะตัดใจ

ส่วนเหวินเต๋อร์ชอบลี่เหยาถิง เขาชอบนางมากยากจะตัดใจเช่นกัน

แต่ทว่าลี่เหยาถิงมีชายในดวงใจมาเนิ่นนานแล้ว นางจึงไม่อาจเปิดใจให้ชายใดได้อีก

หญิงสาวมีนิสัยตรงไปตรงมา เปิดเผยจริงใจ ไม่เคยปิดบังหรือหลวกลวงใคร นางจึงบอกกล่าวเหวินเต๋อร์ไปตามสัตย์ ว่าหากนางถึงวัยออกเรือนแล้ว นางจะแต่งงานกับเหอหย่งหมิงเท่านั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่นางก็จะรอเป็นภรรยาของเหอหย่งหมิงเพียงผู้เดียว ไม่มีสายตาเหลียวแลผู้ใดอีก จากนั้นก็ตัดรอนเหวินเต๋อร์เพื่อมิให้เขาหวังอันใดในตัวนางอีก

ทำให้เหวินเต๋อร์เสียใจมาก เขาดื่มเหล้าเมามายทุกวัน ไม่เป็นอันฝึกเพลงดาบ ร่ายตัวอักษรแม้ครึ่งตัว

จนกระทั่งถูกบิดาลงโทษขั้นรุนแรง โดยการขับไล่ออกจากบ้าน ให้ไปเรียนรู้ความยากลำบากในใต้หล้า ใช้ชีวิตเองเพียงลำพังจนกว่าจะตระหนักว่าสิ่งใดควรมิควร

นับแต่นั้นเหวินเต๋อร์ก็เหมือนหายสาบสูญไป

นั่นจึงทำให้เพ่ยจีที่ชอบเหวินเต๋อร์มาก ไม่อาจได้พบหน้าชายในดวงใจได้อีกเลย

หญิงสาวจึงเอาความผิดทั้งหมดมาลงที่ลี่เหยาถิง

เพ่ยจีเคือดแค้นลี่เหยาถิงเหลือจะกล่าว เพราะลี่เหยาถิงเป็นตัวการที่ทำให้นางดูด้อยกว่าทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉมหรือสิ่งของมีค่ามากมาย ทุกสิ่งล้วนเป็นของลี่เหยาถิง ไม่เคยเลยที่เพ่ยจีจะได้อาจเอื้อม

งามกว่าแล้วอย่างไร? มีคนที่รักมากกว่าแล้วอย่างไร? สูงส่งกว่าแล้วอย่างไร? ไหนเล่ายศศักดิ์ที่มี! เฮอะ!

นั่นคือคำถามท้าทายในใจของเพ่ยจีที่มีมาเนิ่นนาน

กระทั่งมารดานางยังเอ็นดูลี่เหยาถิงมากกว่านางที่เป็นลูกสาวแท้ๆ คอยพร่ำใส่หูนางเสมอมาว่านางเป็นเพียงบ่าวไพร่ ต้องคอยรับใช้ลี่เหยาถิงให้ดีตลอดไป อย่าได้ผยองถือตัวว่าเป็นสหาย

หึ! หากมารดาต่อสู้แย่งชิงบิดาจากนังแพศยาของบิดา นางก็คงไม่ต้องมาเป็นเพียงบ่าวไพร่ชั้นต่ำเช่นนี้หรอก

ทุกสิ่งเป็นเพราะมารดาของนางไม่ได้เรื่องเองแท้ๆ ยังจะกล้าสอนสั่งนางอีกรึ?

เพ่ยจีจึงเก็บงำความอิจฉาริษยาเอาไว้ภายในอกจนสุมทรวงคับแน่นไปหมด รอเพียงเวลาที่จะได้สำแดงฤทธิ์เดชออกมาให้สาแก่ใจ เพื่อระบายความน้อยเนื้อต่ำใจที่มีมาตั้งแต่เกิด

หากเป็นสตรีที่มียศศักดิ์มิอาจเทียบชั้นแน่นอนว่าเพ่ยจีย่อมไม่กล้า ทว่ากับลี่เหยาถิงที่เห็นกันมาตั้งแต่เกิด ทั้งยังเป็นเพื่อนกันไร้ซึ่งการแบ่งแยกชนชั้นด้วยอีกฝ่ายมอบความสนิทสนมให้มากกว่าใคร กลับกลายเป็นดาบสองคมอย่างไม่น่าให้อภัย

นอกจากตีตนเสมอกันยังอาจหาญมีความคิดเทียมฟ้าที่จะเหนือกว่า

เพ่ยจีจึงมีความคิดจะแย่งทุกอย่างของลี่เหยาถิงมาเป็นของตน แม้กระทั่งชายในดวงใจ...

อันที่จริงเพ่ยจีเคยได้เจอกับเหอหย่งหมิงแล้วโดยบังเอิญที่ตลาด และก็มิใช่เรื่องยากหากนางจะใช้มารยาเจอกับเขาอีกมาโดยตลอด

ในขณะที่ลี่เหยาถิงมัวแต่เก็บตัวอยู่ในห้องหอเพื่อทำตัวเป็นสตรีที่เพียบพร้อมเพื่อเขา

นางฝึกดีดพิณปักผ้าร่ายกลอนร่างภาพ หมายมั่นที่จะเป็นภรรยาที่ดีของเหอหย่งหมิงจนกว่าจะถึงวันออกเรือน

เพ่ยจีสร้างสถานการณ์ทำทีบังเอิญเจอกับเหอหย่งหมิงบ่อยๆ ใช้ความอ่อนโยนอ่อนหวานกิริยางดงามเข้ามัดใจ แม้แต่ความอ่อนแอเพื่อให้บุรุษปกป้อง นางก็นำมาใช้

ชายชาตินักรบที่มีนิสัยหยาบกระด้างเติบโตมากับค่ายทหารจนอายุยี่สิบปี ไม่เคยได้สัมผัสมารยาแห่งสตรีวังหลังอย่างเหอหย่งหมิงจึงหลงกลโดยง่าย

กระทั่งไม้ตายที่จักทำให้เขากลายเป็นคนรักนางก็สามารถทำได้ไม่ยากเย็น

เพ่ยจีทำตัวเองให้บาดเจ็บและอยู่ในภาวะอ่อนแอเพื่อให้เหอหย่งหมิงเข้าช่วยเหลือโดยบังเอิญ ก่อเกิดสัมพันธ์ที่เรียกได้ว่าคนคุ้นเคยกัน เนื่องจากบังเอิญเจอกันบ่อยเหลือเกิน

ต่อมาหญิงสาวยังว่าจ้างอันธพาลที่เห็นแก่เงินให้ติดต่อกับโจรป่าเข้ามาทำร้ายเหอหย่งหมิง ยามที่นางกับเขาได้เจอกันตรงเชิงเขาอันมีทิวทัศน์งดงาม

ในแผนนั้นนางแสร้งทำเป็นตัวถ่วงให้เขา ด้วยการกระโดดกอดขาเขา กอดแขนเขา ยามที่เขากำลังต่อสู้

จนกระทั่งเขาพลาดท่าแล้วบาดเจ็บ นางก็ดูแลเขาอย่างดี ไม่ทิ้งกันไปที่ใดจนเขาซาบซึ้งใจ นางจึงบอกรักเขาและขอคบหาเพื่อดูใจอย่างเปิดเผย

เรื่องนี้หากไม่บอกต่อก็ไม่สนุก!

เพ่ยจีจึงได้บอกกล่าวกับลี่เหยาถิงทุกเรื่องราวหลังจากที่ได้คบหากับเหอหย่งหมิงแล้วเป็นที่เรียบร้อย

เป็นความจริงที่ว่า เพ่ยจีรู้อยู่แก่ใจว่าลี่เหยาถิงปักใจต่อเหอหย่งหมิง และก็เป็นความจริงอีกเช่นกันว่าลี่เหยาถิงรู้ดีแก่ใจว่าเพ่ยจีชอบเหวินเต๋อร์มาก เพราะนั่นก็คือเหตุผลหนึ่งที่ลี่เหยาถิงต้องจัดการให้เหวินเต๋อร์ตัดใจจากนางอย่างเด็ดขาด

หากแต่ลี่เหยาถิงก็มิอาจคาดเดาใจของบุรุษได้ นางไม่คิดว่าเหวินเต๋อร์จะหายตัวไป

‘เป็นเพราะเจ้า เหวินเต๋อร์ของข้าจึงหายตัวไปไม่กลับมา’

‘ข้าจะพรากชายที่เจ้ารักไปจากเจ้าบ้าง…’

ประโยคนี้เพ่ยจีกล่าวด้วยเสียงนุ่มละมุนตามวิสัย หากแต่ริมฝีปากกลับแย้มยิ้มเย้ยหยันชัดเจน

ลี่เหยาถิงได้แต่ยืนอึ้งนิ่งนาน ด้วยไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเพ่ยจีจักมีความคิดเช่นนี้

เป็นเพื่อนกันมาหลายปีตั้งแต่จำความได้ เพ่ยจีอ่อนโยนกับนางเสมอมา อ่อนหวานไร้ที่ติ ทุกคนไว้ใจเพ่ยจีมาก ท่านยายก็เช่นกัน และนางก็ไว้ใจถึงขั้นให้เป็นเพื่อนรักไม่แบ่งแยกชนชั้น

ทว่านิสัยเช่นลี่เหยาถิงมีหรือจะยอมแพ้

นางไม่มีวันปล่อยให้ชายในดวงใจกลายเป็นเครื่องมือให้สตรีวิปลาสเช่นเพ่ยจีแน่

และยิ่งไม่ยอมปล่อยให้บุตรชายของลุงเหอถูกการกระทำของปีศาจนามว่าเพ่ยจีครอบงำ

ลี่เหยาถิงจึงเข้าหาเหอหย่งหมิง และพยายามบอกความจริงข้อนี้ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน

แน่นอนว่ามันสายเกินไปแล้ว

เหอหย่งหมิงกับเพ่ยจีสานสัมพันธ์กันจนกลายเป็นคนรักกันไปแล้ว

ทำให้ลี่เหยาถิงที่มีลักษณะจริงใจเปิดเผยกลายเป็นหญิงหยิ่งยโสเกรี้ยวกราดเอาแต่ใจอย่างเหลือร้าย

และยิ่งนางเปิดปากถึงความชั่วช้าของเพ่ยจีที่มีลักษณะนุ่มนวลอ่อนโยน เอาแต่ร่ำไห้ตัวสั่นเช่นนั้น

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ลี่เหยาถิงจักกลายเป็นตัวอันใดในสายตาของเหอหย่งหมิง

ลี่เหยาถิงพยายามแล้วที่จะทำตัวสงบเสงี่ยม พูดจาดีๆ แต่ทว่าบุคลิกของนางเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร จึงกลายเป็นประชดประชันร่ายมารยาไปเสียสิ้น

จนสุดท้าย ลี่เหยาถิงก็ใช้วิธีขั้นเด็ดขาด นั่นก็คือขอสมรสพระราชทานเสียเลย

เหตุผลนั้น นางล้วนคิดมาดีแล้วทุกสิ่ง

หนึ่งคือนางรักเขาทั้งใจ และสองเพื่อตอบแทนลุงเหอ นางต้องดูแลบุตรชายของลุงเหอให้ดี ไม่มีใครมาเปลี่ยนความคิดนี้ของนางได้

เหตุผลเหล่านี้ ไม่มีใครรู้ แต่ทว่า นางเคยใช้กล่าวอ้างให้เหวินเต๋อร์ตัดใจจากนาง

และมันก็ได้ผล ทำให้เหวินเต๋อร์ที่ชอบนางมาหลายปีไม่ตัดใจเสียที ต้องออกจากบ้านไปไม่กลับมานั่นล่ะ

ทว่ายามนี้มีเหตุผลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งประการ นั่นก็คือเพื่อดึงเหอหย่งหมิงออกจากเพ่ยจี

และแล้วเหอหย่งหมิงก็ไม่ทำให้นางผิดหวัง เมื่อเขาได้รับคำสั่งให้ออกไปกำราบชนเผ่าแห่งหนึ่งและกำชัยจากศึกนั้นได้สำเร็จในเวลาเพียงไม่นาน

ลี่เหยาถิงจึงเป็นรางวัลรอเขาอยู่ด้วยสมรสพระราชทานที่ยังไม่เปิดเผยจนกว่าเขาจะกลับเข้าวังหลวงมา

หญิงสาวมิได้สนใจเลยสักนิดว่าอีกฝ่ายจะเต็มใจรับหรือไม่ นั่นคือนิสัยของนาง

บนเชิงเขาแห่งเดิมยังคงมีหญิงสาวสองคนยืนจ้องหน้ากันด้วยสายตาดุเดือดปะทะกันกลางอากาศ

ฝ่ายหนึ่งที่มีรูปลักษณ์สะคราญโฉมมากกว่าเอื้อมมือขึ้นมาสะบัดตบหน้าอีกฝ่ายหนึ่งเสียงดัง เพี๊ยะ อีกครั้ง หลังจากที่นางได้ยินประโยคหนึ่งจากอีกฝ่ายว่า

เหอหย่งหมิงถูกข้าวางยาปลุกกำหนัดในคืนเข้าหอ ทำให้เขาต้องหลับหูหลับตาร่วมรักกับเจ้าสาวเช่นนาง หลังจากที่ไม่สมปรารถนากับหญิงคนรักของเขาในเรือนพักแห่งนั้น

ประโยคนี้ของเพ่ยจีเสียดแทงใจของลี่เหยาถิงอย่างแรง

เพราะนางคิดเพียงว่าได้ร่วมรักกับเขาตามธรรมนองคลองธรรมอันเหมาะสม ทั้งยังมั่นใจในเสน่ห์แห่งสตรีของตนเองยิ่งนัก

ใครจะไปคาดคิดว่า เขาร่วมรักกับนางก็เพราะถูกวางยา!

หญิงสาวสะบัดมือใส่หน้าอีกฝ่ายฉาดใหญ่

เพี๊ยะ

และอีกทีแรงๆ

เพี๊ยะ

ใบหน้าของเพ่ยจีสะบัดตามแรงตบอีกครั้ง และอีกครั้ง

ครานี้นางรับรู้ได้ถึงรสเค็มปร่าของเลือดในโพรงปาก หากแต่นางก็เพียงแค่แสยะยิ้มแล้วเอ่ยเสียงเย็นว่า

“วันนี้ข้านัดเจอกับหย่งหมิงที่นี่ เจ้าควรเข้ามาขัดขวางข้าเหมือนทุกครั้งด้วยล่ะ หึหึ!”

จบคำก็หันหลังเดินจากไปยังทิศทางหนึ่ง

เป็นอีกคราที่ลี่เหยาถิงได้แต่อึ้งนิ่งไป

ทุกอย่างเกินคาดการณ์ของนางทั้งสิ้น นางแค่มายืนไว้อาลัยให้ท่านยาย เพ่ยจีก็มาปรากฏตัวยั่วโทสะ อีกทั้งยังมี....

ทันใดนั้น หางตาคู่งามก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งกำลังเดินอยู่ไกลๆ ก่อนจะไปหยุดยืนยังมุมหนึ่งของเชิงเขาแห่งนี้

เหอหย่งหมิง...

เขาไม่กลับจวนมาหานาง แต่มาตามนัดเพ่ยจี...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel