บท
ตั้งค่า

ตอนที่5 หานเพ่ยจี

พระราชพิธีพระศพของไทเฮาผ่านพ้นไปแล้วจนสิ้น

หากแต่ลี่เหยาถิงยังคงเศร้าสลดไม่เจือจาง นางยังคงโหยหาท่านยายทุกวัน ครั้นนึกขึ้นได้ว่าชีวิตมิได้มีเพียงเท่านี้ นางจึงพาร่างของตนเองมายืนทอดอารมณ์คิดคำนึงถึงบุคคลสำคัญในชีวิตยังเชิงเขาชายป่านอกเมือง ที่ซึ่งนางมักจะแอบหนีมาเล่นซน จนท่านยายทนไม่ไหวต้องลอบเสด็จตามมาเที่ยวด้วยกัน

หลายปีมาแล้วที่เชิงเขาแห่งนี้ยังงดงามไม่เปลี่ยนแปลง แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือตัวบุคคลที่โรยราตามวัย

ส่วนตัวนางที่เคยเป็นเพียงเด็กน้อย ก็เติบใหญ่เป็นสาวงามสะพรั่ง

ประโยคนี้ล้วนเป็นท่านยายที่พูดให้นางฟัง

ท่านยายบอกว่า ยามที่นางยังเป็นเด็ก นางมีส่วนคล้ายท่านพ่อ แต่เมื่อโตขึ้นจนอายุสิบห้านางกลับเหมือนท่านแม่

ความงดงามที่ล้ำเลิศนี้ ทำบุรุษมากหน้าต่างหมายปอง แต่ทว่าด้วยใจที่ยึดติดไม่ต่างจากผู้ให้กำเนิด จึงทำให้นางเฝ้ารอเหอหย่งหมิงมาโดยตลอด

ลี่เหยาถิงไม่เคยคิดว่าตนเองทำผิด ที่นางปักใจรักใคร่ชายผู้นี้

ตั้งแต่นางจำความได้และรับรู้เรื่องราวของลุงเหอผ่านท่านยายที่เล่าให้ฟัง นางก็ฝังใจมาโดยตลอดว่าเหอหย่งหมิงย่อมเหมือนกับลุงเหอผู้เป็นบิดาของเขา

แม้จะยังไม่เคยพบหน้าแต่ทว่านางก็ยังรอคอยที่จะได้มีโอกาสพบเจอเขาอย่างมีความหวัง

และยิ่งได้พบหน้ากันครานั้น นางก็มั่นใจแล้วหลายส่วนว่าต้องเป็นเขา

ทว่าหลายปีผันผ่าน เขาเติบใหญ่เป็นชายกล้ากลางสนามรบ นางเติบโตเป็นหญิงงามในห้องหอ

มีเพียงนางที่จำเขาได้ฝ่ายเดียว ในขณะที่เขาไม่เคยเหลียวหลังมามองนางเลยสักครา

กระทั่งเวลานี้ ที่เราสองได้แต่งงานกันแล้ว

ย้อนคิดกลับไปเมื่อยามที่พระราชพิธีเคลื่อนขบวนพระศพของไทเฮาจากวังหลวงไปยังสุสานหลวง เหอหย่งหมิงได้กลับมาจากค่ายทหารเพื่อยืนเคียงข้างนางในตำแหน่งสามี

แต่ทว่าความเฉยชาบนใบหน้าหล่อเหลาที่นางได้เห็น ช่างตอกย้ำชัดเจนเหลือเกินถึงความห่างเหินที่มีให้กัน

ทั้งๆ ที่นางชอบเขาถึงเพียงนี้

ชอบมานานปีตั้งแต่จำความได้

ลี่เหยาถิงยังคงยืนเดียวดายเงียบงันที่เชิงเขาแห่งนี้เนิ่นนาน สองสายตาเรียวสวยดั่งหงส์ ทอดมองไปยังทิวทัศน์งดงามสุดลูกหูลูกตา ทว่ากลับตกอยู่ในภวังค์มืดมน

ชั่วจังหวะที่ลี่เหยาถิงกำลังจมดิ่งในห้วงคำนึงแห่งตน จู่ๆ นางก็รู้สึกเสียดหน้าท้องขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

หลายวันมาแล้วที่นางรู้สึกเจ็บท้องเช่นนี้ แต่ทว่าด้วยจิตใจที่ยังหมกมุ่นเกี่ยวกับท่านยาย นางจึงลืมว่าตนเองไม่สบาย

เรียวคิ้วโก่งดั่งใบหลิวพลันขมวดกันแน่นอีกครา เมื่อรู้สึกได้ว่าท้องน้อยของตนกำลังเจ็บยิ่งกว่าเดิม

ลี่เหยาถิงเพียงหลับตา รอเวลาที่จะรับรู้ได้ว่าความเจ็บนี้ค่อยๆ เจือจางไป

เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเพราะความเครียดสะสมที่มีมาอย่างต่อเนื่องช่วงหลายวันมานี้ นางกินอะไรก็ไม่รู้รสด้วยซ้ำจึงมิใช่เรื่องแปลกที่จะเจ็บท้อง

ชั่วจังหวะที่หญิงสาวกำลังจัดการกับความรู้สึกของตนเอง เสียงอ่อนหวานคุ้นหูพลันดังขึ้นทางด้านหลัง

“คิดเอาไว้แล้วเชียวว่าเจ้าต้องมาที่นี่”

สิ้นเสียงนั้น ลี่เหยาถิงก็หาได้นำพาอันใด ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมองผู้พูดเสียด้วยซ้ำ ทว่าผู้มาเยือนก็ยังคงพร่ำไม่หยุด

“มีความสุขหรือไม่? ที่ได้แต่งงานกับชายที่รัก แล้วมีความสุขหรือไม่ ที่มายืนอยู่ตรงนี้อย่างเดียวดาย”

ดวงเนตรงามล้ำพลันหรี่เล็กลง ความเศร้าซึมและความเจ็บปวดบนหน้ามลายหายไปจนสิ้น คงเหลือเพียงความเกลียดชังที่เข้ามาแทนที่ ไม่บอกก็รู้ว่า บุคคลที่เดินเข้ามาพร้อมประโยคเช่นนี้เป็นใคร

ลี่เหยาถิงหันหน้าไปแล้วยกมือสะบัดขึ้นตบหน้าผู้พูดพร่ำฉาดใหญ่

เพี๊ยะ

เสียงฝ่ามือกระทบผิวแก้มดังเสียจนสาวใช้ของลี่เหยาถิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจำต้องถอยล่นไปอีกหลายก้าว

ผู้ถูกตบถึงกับถลึงตาจ้องมองอย่างเดือดดาล ยกฝ่ามือขึ้นกุมแก้มนวลที่แดงก่ำเป็นรูปฝ่ามืออย่างแค้นเคือง

ทั้งสองยืนนิ่งจ้องหน้ากันเนิ่นนาน

ชั่วครู่ต่อมา ผู้ถูกตบเพียงลูบแก้มตนเบาๆ ก่อนจะแสยะยิ้มตรงมุมปาก แล้วเอ่ยเสียงหวานอีกครา

“หย่งหมิงไม่กลับไปหาที่จวนก็เลยมาพาลเอากับคนรักของเขาหรือไร?”

ลี่เหยาถิงแค่นเสียงเย็นชาต่อปากว่า “คนรักจอมปลอมเช่นเจ้า เขาก็มิได้ติดต่อเจ้ามิใช่หรือไร?”

ประโยคนั้นทำดวงตากลมใสของเพ่ยจีพลันไหวระริกราวกับมีเพลิงโหมรุนแรงขึ้นมาวูบหนึ่ง

ทว่าเพียงพริบตาก็กลับมาเป็นปกติ นางสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดียิ่งกว่ามากนัก

เพราะนางรู้ดีถึงนิสัยใจร้อนของอีกฝ่าย นอกจากจะดื้อรั้นเอาแต่ใจแล้วยังอารมณ์ร้อนคิดน้อยมาแต่ไหนแต่ไร

อย่างนี้ล่ะ! สนุกยิ่ง!

เพ่ยจีปรับสีหน้าให้อ่อนหวานเช่นเดิม กิริยาอ่อนโยนเช่นเดิม แล้วโปรยยิ้มงดงามส่งให้ลี่เหยาถิง ก่อนเอ่ยอีกครั้งอย่างตั้งใจยั่วโทสะ

“ในเมื่อเจ้ารักหย่งหมิงถึงเพียงนี้ ลงทุนใช้ตัวเองปกป้องเขาถึงเพียงนี้...คนยึดติดในรักเช่นเจ้า ข้าจะแกล้งอันใดให้สาสมกับความโง่งมดี อืม...” หญิงสาวทำท่าคิดหนักยามเอ่ยด้วยถ้อยวาจานุ่มละมุนน่าฟัง

ลี่เหยาถิงพลันหรี่ตา นางรู้ดีถึงบุคลิกน่ารักน่าเอ็นดูของอีกฝ่าย ซึ่งสวนทางกับประโยคที่เอื้อนเอ่ยโดยสิ้นเชิง หญิงสาวจึงเอ่ยเสียงลอดไรฟัน ดวงตาลุกโชนด้วยไฟแห่งโทสะ

“ใช่! ข้ารักเขา และข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้าใช้เขาเป็นสะพานในการแก้แค้น เพื่อสนองต่อความพ่ายแพ้ของตัวเจ้าเอง”

เพ่ยจีได้ฟังก็แค่นยิ้มเย้ยหยันใส่หน้าลี่เหยาถิง

“อ้อ...เช่นนั้นหรือ แล้วเหตุใดเขาถึงไม่เชื่อเจ้าเล่า!”

คำพูดนี้ทำลี่เหยาถิงพลันชะงักนิ่งไป

เป็นความจริงที่ว่า นางเคยบอกกล่าวแก่เหอหย่งหมิงแล้ว ว่าเพ่ยจีร้ายกาจปานใด เป็นนางปีศาจที่ชั่วช้าแค่ไหน

แต่ทว่า นอกจากเหอหย่งหมิงไม่เชื่อนางแล้ว ยังคิดว่านางทำไปด้วยหลงใหลในตัวเขาจนเห็นผิดเป็นชอบจึงทำทุกทางอย่างเอาแต่ใจเหมือนคุณหนูคนอื่นๆ ที่พยายามเข้าหาเขา

ให้ตายเถิด! เป็นชายแกร่งรูปงามแล้วอย่างไร ไยไม่ฟังคนงามเช่นนางบ้างเลย…

สตรีทั้งสองจึงยืนจ้องหน้ากันอีกครา

เนิ่นนานยิ่งกว่าเดิม…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel