คีย์2 คล้าย
ฐิระเชษฐ์
สวัสดีครับผมชื่อฐิระเชษฐ์หรือจะเรียกผมสั้นๆว่าคีย์ก็ได้ ทุกคนคงงงว่าผมเป็นใครทำไมถึงได้มาพูดคุยกับทุกคนในตอนนี้ เออนั้นสิ!ทำไมผมต้องมายืนแนะนำตัวหรือพูดคุยกับพวกคุยกลางห้างแบบนี้ด้วย(ใจเย็นคีย์ใจเย็นทุกคนที่แกว่าคือนักอ่านของฉัน)อ๋อหรอโทษๆๆ งั้นเอาเป็นว่าแนะนำตัวจนรู้จักกันมาพอสมควรแล้ว ต่อไปก็กลับเข้าเรื่องเลยแล้วกัน
ฐิระเชษฐ์ที่นัดแนะกับลูกค้ามาพูดคุยตกลงเกี่ยวกับสัญญากันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลาก็ได้มานั่งพูดคุยกันอยู่ที่ร้านอาหารที่นัดกันไว้ พอตกลงกันเรียบร้อยคีย์ก็ได้นั่งทานข้าวกับลูกค้าต่ออยู่พักใหญ่ๆหลังจากทานข้าวและพูดคุยกันนิดหน่อยก็ได้เอ่ยลาและแยกย้ายกันกลับ แต่แล้วคีย์ที่แยกย้ายกับลูกค้าและได้มายืนรอคนขับรถอยู่ที่จุดนัดไว้กับคุณลุงคนขับรถอยู่นานคุณลุงคนขับก็ยังไม่มาสักทีก็เริ่มรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยที่คุณลุงคนขับยังไม่มาสักที จนต้องเดินกลับเข้ามาในห้างอีกครั้งแล้วเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าพักใหญ่ๆ ก่อนที่คีย์จะหยุดเดินแล้วล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่สั่นเป็นเจ้าเข้าในกระเป๋ากางเกงของเขาออกมาดูแล้วกดรับสาย เมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือคนขับรถของตัวเองแล้วบอกจุดที่ตัวเองอยู่ในตอนนี้ให้กับคุณลุงคนขับ
ผมที่กดรับสายจากคุณลุงคนขับรถและบอกจุดที่อยู่ให้คุณลุงแกทราบเรียบร้อยก็กดวางสายไป ยืนรอได้ไม่นานคุณลุงแกก็วิ่งตรงมาหาผมอย่างเหนื่อยหอบ ก่อนที่จะอธิบายเหตุผลที่ลุงแกนั้นมารับสายให้ผมฟัง พอผมทราบเหตุผลที่แกมาสายผมก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่าผมเข้าใจและไม่ได้เอ่ยว่าหรือตำหนิอะไรแก เพราะผมรู้ว่าคุณลุงแกคงยังไม่ชินทางชินถนนของประเทศนี้เท่าไหร่
ผมไถ่ถามคุณลุงสักพักเกี่ยวกับคู่กรณีว่าเขาได้เรียกร้องอะไรมั้ย พอคุณลุงบอกว่าคู่กรณีเขาไม่ได้เอาเรื่องอะไรผมก็พยักหน้าเล็กน้อยอย่างเข้าใจอีกครั้ง ก่อนที่จะผมจะหันหลังแล้วเดินตรงไปทางทางบันไดเลื่อน ทางที่จะไปยังสถานที่ที่รถจอดอยู่พลางในใจก็คิดว่า
อ่าาาพึ่งกลับมาที่ประเทศนี้ได้ไม่กี่วันก็มีแต่เรื่องวุ่นวายเลยแฮะ
เฮ่อออป่านนี้เขาคนนั้นจะเป็นไงบ้างนะ
ผมก้าวเดินตรงไปข้างหน้าพลางในหัวก็กำลังเหม่อลอยยุ่งอยู่กับความคิดของตัวเองไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ แต่แล้วสองเท้าของผมที่เดินได้ไม่กี่ก้าวเป็นต้องหยุดชะงัก เมื่ออยู่ๆก็มีเด็กผู้ชายตัวน้อยที่ไหนก็ไม่รู้วิ่งมาเกาะที่ขาข้างหนึ่งของผมพร้อมกับเรียกผมว่า
"ปะป๊า ปะป๊าฮะ"
ดวงตาของผมเบิกกว้างอย่างตกใจทันทีที่อยู่ๆก็มีเด็กที่ไหนมาเอ่ยเรียกผมว่าปะป๊า ผมยืนสตั๊นอ้าปากเหวอแสดงสีหน้าตกใจเกือบนาทีมาได้สติอีกทีก็ตอนที่มือของเด็กตัวน้อยที่ยืนกอดขาของผมดึงขากางเกงสองสามทีพร้อมกับเอ่ยเรียกผมว่าปะป๊าและเอ่ยพูดถามเจื้อยแจ้ว
"ปะป๊า ปะป๊าฮะ ปะป๊ากลับจากทำงานแล้วหรอฮะ"เสียงเล็กเอ่ยถามผมพร้อมกับเงยหน้าจ้องผมตาแป๋วเพื่อรอเอาคำตอบจากผม
เด็กนี้เป็นใครวะเนี่ยยยย
แล้วนี่มันลูกเต้าเหล่าใครวะทำไมไม่ดูแลดีๆปล่อยให้มาวิ่งเกาะขาแล้วเรียกคนอื่นว่าพ่อแบบนี้เนี่ยยย
ผมยังคงยืนก้มหน้ามองเด็กตัวน้อยที่เอาแต่ยืนเกาะขาของผมพร้อมเอ่ยเรียกผมว่าปะป๊าไม่หยุดด้วยแววตาหงุนงง ไม่ได้เอ่ยตอบหรือเอ่ยพูดอะไรจนเด็กตัวน้อยเริ่มจะเบะปากทำท่าจะร้องไห้ ผมที่เห็นสีหน้าของเด็กตัวน้อยที่พร้อมจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อก็พลันเบิกตากว้างตกใจมากกว่าเดิมเพราะถ้าเกิดเด็กนี้แหกปากร้องไห้ขึ้นมาจริงๆล่ะก็คนที่อยู่รอบๆคงมองผมไม่ดีแน่
"เห้ยๆๆๆอย่าร้องนะโว้ย แม่หนูอยู่ไหนเนี่ยยยย"ผมอุทานออกมาอย่างตกใจพร้อมกับย่อตัวนั่งลงคุกเข่าให้อยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กน้อย ก่อนที่จะถามเด็กตัวน้อยที่รอบๆนัยน์ตากลมเริ่มมีน้ำสีใสล้อมรอบว่าคุณแม่เจ้าตัวนั้นอยู่ที่ไหน แต่แล้วผมต้องแสดงสีหน้าตกใจอีกหน เมื่อสังเกตใบหน้าของเด็กตัวน้อยดีๆแล้วพบว่าเด็กน้อยคนนี้มีใบหน้าคล้ายผมในต้องเด็กมาก
อย่างกับกูในตอนเด็กเลยแฮะ
ผมอุทานในใจพลางจ้องมองใบหน้าของเด็กคนนี้อีกครั้ง เชี่ยยยเหมือนจริงๆวะ! แถมเด็กนี้ยังเรียกผมว่าปะป๊าอีก เหี้ยแล้วไงไอ้คีย์ลูกกูจริงๆปะเนี่ย หน้าตาอย่างกับถอดแบบกันมาขนาดนี้ ผมตีกับความคิดของตัวเองอยู่สักพักพลางสะบัดใบหน้าตัวเองไปมาเพื่อไล่ความคิดในหัวตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไล่ความคิดที่ว่าเด็กคนนี้หน้าเหมือนตัวเองในตอนเด็กไม่ได้จริงๆ
แต่แล้วยังไงวะ ถึงเด็กคนนี้จะหน้าตาคล้ายผมในตอนเด็กมาก แต่ผมก็ไม่มีแฟนหรือเคยแต่งงานกับใครเลยนะแล้วผมจะไปมีลูกกับใครวะ ผมโสดมาจะหกปีแล้ว โสดตั้งแต่เลิกกับเขาคนนั้น....เอ๊ะเดี๋ยวนะหรือว่า.....
ฐิระเชษฐ์ต้องหยุดชะงักความคิดของตัวเองในทันทีเมื่อนึกมาถึงคนรักที่จบกันได้ไม่ค่อยสวยเมื่อหกปีก่อน ก่อนที่ตัวเขานั้นจะกลับไปที่ญี่ปุ่น คีย์เงยหน้าไปมองเด็กตัวน้อยตรงหน้าอีกครั้งก่อนที่จะอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อความคิดของตัวเองเท่าไหร่
"ไม่จริงน่าาา"ผมอุทานออกมาพลางจ้องมองเด็กน้อยน่ารักตรงหน้าด้วยแววตาอึ้งๆอีกครั้ง ซึ่งเด็กน้อยเองก็จ้องมองผมกลับไม่ว่างตาเช่นกัน
"ปะป๊าฮะ ปะป๊าจะกลับมาอยู่กับน้องคิรินและหม่ามี้แล้วใช่มั้ยฮะ"เด็กน้อยที่แทนตัวเองว่านน้องคิรินพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับใช้สองมือน้อยๆนั้นเขย่าที่แขนของผมไปมา
เหี้ยจริงหรอวะเนี่ย แม่งขนาดชื่อยังคล้ายกันเลย
คีย์กับชื่อของเขาคนนั้น ออกมาเป็นคิริน อย่างงั้นหรอ
ถ้าใช่จริงๆละก็ หึ ตั้งชื่อลูกน่ารักดีจัง
ในหัวของผมยังคงเกิดคำถามไม่หยุดหย่อนว่าสิ่งที่ผมคิดในตอนนี้มันคือเรื่องจริงหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยแต่ใบหน้าคงเด็กตัวน้อยนี้ก็ช่างเหมือนเขาซะเหลือเกิน แต่เขาคนนั้นล่ะตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของผมกับเขาจริงๆแล้วตอนนี้เขาคนนั้นอยู่ที่ไหนทำไมถึงปล่อยให้เด็กตัวน้อยที่ชื่อคิรินนี้ไปไหนมาไหนคนเดียวแบบนี้
"แม่เราอยู่ไหน"ผมที่หันมองรอบๆเพื่อหาร่างบางคนที่ผมนึกถึงแต่ก็ไม่พบจึงตัดสินใจเอ่ยถามถึงมารดาของเด็กน้อยคนนี้ เพื่อยืนยันให้แน่ชัดว่าสิ่งที่ผมคิดในตอนนี้นั้นมันคือเรื่องจริงใช่มั้ย แต่แล้วเมื่อเด็กตัวน้อยกำลังเอ่ยปากตอบก็มีเสียงใสของใครบางคนเอ่ยแทรกขึ้นมาซะก่อน
"คิริน....."
