บท
ตั้งค่า

๘ คืนอิสระ (๓)

มีเพียงปีแสงที่พร่ำขอโทษอยู่อย่างเดียว โดยที่คนฟังไม่ได้รับรู้ด้วยเลย เธอยังคงนั่งเฉยพร้อมมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก ไม่หวังความรักจากเขาอีกต่อไป ต้องการเพียงเอาตัวเองออกมาจากความเจ็บปวด

น้ำตาค่อยไหลอย่างเชื่องช้าโดยที่เจ้าตัวก็ปล่อยให้มันหล่นลงบนไหล่แกร่ง ก่อนขยายเป็นวงกว้างบนเสื้อของเขา เสียใจจนกลายเป็นเฉยชา ร้องไห้ทั้งที่แทบไม่หลงเหลือน้ำตา ความเจ็บปวดทั้งหมดมันเกิดพอที่จะรับไหวแล้ว

เช่นนั้น...หล่อนจะทนอยู่ต่อไปทำไม

“ในเมื่อไม่มีลูกแล้ว เรื่องของเราก็ควรจบลงสักที” คนที่กำลังกอดภรรยาถึงกับชะงัก ปล่อยเธอแล้วผละมามองใบหน้าหวาน ไม่อยากเข้าใจในคำที่เธอกำลังสื่อว่าเรื่องของเราต่อจากนี้จะเป็นไปในทิศทางใด

ความโสดที่เขาโหยหา ผู้หญิงที่เขาไม่ได้ต้องการแต่แรก คิดว่าเมื่อเธอคลอดลูกแล้วจะหย่า เมื่อถึงวันที่ต้องจากลากันจริง...ชายหนุ่มกลับไม่ต้องการ

“หมายความว่ายังไง”

“เราหย่ากันเถอะค่ะ” ปากอวบอิ่มยกยิ้มราวกับปลดเปลื้องพันธนาการทุกอย่างออกจากหัวใจจนหมดสิ้น ไม่หลงเหลือความรู้สึกอื่นใดไว้ให้เขาเลย กระทั่งความเป็นพี่น้องก็ตาม แววตาคมสั่นไหวพร้อมริมฝีปากที่สั่นจนต้องเม้มเอาไว้แน่น ไม่อยากเชื่อหูตัวเองด้วยซ้ำว่ามันคือความจริง

แต่ก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยคือการขอหย่า

ลมหายใจสะดุดพร้อมคำตอบก้องดังในหัวว่าไม่ยินยอม ส่ายหน้าอย่างเชื่องช้าพร้อมพึมพำเรียกหล่อนเสียงเบา พอจะจับมือก็ถูกเธอชักมือหลบ ดวงตายังคงสบกันนิ่งเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือความอาลัยอาวรณ์ไม่มีในแววตาของหล่อน

ทำไมล่ะ...ความรักของเธอมันหมดอายุได้รวดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ

ทั้งที่เขาเพิ่งเริ่มรักแต่หล่อนกลับหมดใจ ปีแสงไม่เชื่อและไม่ยินยอมให้มันเป็นเช่นนั้นเด็ดขาด อยากอ้อนวอนขอร้องกลับไม่มีเสียงใดหลุดออกมา มีเพียงการเรียกชื่อของหล่อนอย่างแผ่วเบา

“เน่...”

“ที่พี่ยอมแต่งงานกับเน่ก็เพราะเน่ท้องไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ไม่มีเด็กแล้วพี่ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีกแล้ว เน่คืนอิสระให้พี่ค่ะ” เรื่องของเราเดินทางมาไกลกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก เธอกอดหน้าท้องตัวเองอย่างหวงแหน

ไม่อยากได้แล้วความรักที่เหลือจากคนอื่น เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวที่เขาให้เธอ ไม่มีวันจะได้ใจของชายหนุ่มเต็มดวง

ถ้าเป็นเช่นนั้น...หล่อนไม่ขอรับมันมาเลยดีกว่า

“พี่ไม่ได้ต้องการ”

เขาไม่อยากได้อิสระ...แต่ต้องการมีดรุณีในชีวิตต่างหาก

คำถามของลันตาทำให้เขารู้ว่าถึงหล่อนไม่ได้เข้ามาในชีวิตก็ไม่มีทางเลือกกลับไปหาลันตาอย่างแน่นอน และการที่มีดรุณีข้างกายมันดีมากเพียงใด ยิ่งย้อนกลับมาคิดถึงก็นึกโหยหาความสุขในช่วงเวลานั้นจนไม่อยากเสียคนตรงหน้าไป เป็นครั้งแรกที่ใจเขาปวดร้าวจนอยากร้องไห้ต่อหน้าคนอายุน้อยกว่า

ไม่หย่า เขาไม่อยากหย่ากับเธอ

ต้องทำอย่างไรเพื่อรั้งหญิงสาวเอาไว้ข้างกายเหมือนเดิม ให้คุกเข่าอ้อนวอนได้หรือเปล่า หากทำเช่นนั้นหล่อนจะยอมใช่ไหม คำถามวิ่งวนในหัวก่อนที่เธอจะเอ่ยเสียงสั่นด้วยร่างกายที่สั่นเทาไม่ต่างกัน คล้ายว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นบาดแผลใหญ่ในใจของเธอไปแล้ว

ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะลบมันไปได้

การรอคอยกับสัญญาณที่เธอได้ยินแต่ไม่มีคนตอบกลับมันเป็นอย่างไรเขาคงไม่รู้ เลือดสีแดงที่ไหลตามขายังติดตา

ส่ายหน้าพลางหลับตาแน่นเพื่อให้ลืมทุกอย่าง ปล่อยน้ำตาให้ไหลพร้อมพรั่งพรูความรู้สึกทั้งหมดออกมาจนเขาต้องยืนนิ่งฟังหล่อน อยากโอบกอดปลอบปะโลมก็ทำไม่ได้เมื่อคนตรงหน้าไม่ได้ต้องการมัน

สิ่งที่ดรุณีอยากได้คือใบหย่าของเรา...

“พี่ต้องการมันค่ะ เอาคืนไปเถอะนะคะ เพราะเน่คงอยู่กับพี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว เน่คงมีแต่คำถามวนเวียนว่าทำไมพี่ไม่รับโทรศัพท์ ถ้าพี่รับลูกก็คงรอด เน่คงไม่เสียลูกไป...แล้วในสายตาเน่พี่ก็จะเป็นคนที่พรากลูกไปจากเน่ อย่าให้มันเป็นแบบนั้นเลยนะ” ไม่ใช่แค่คนฟังที่เจ็บปวด คนพูดเองก็ใจแทบขาดเช่นเดียวกัน

เธอทนอยู่กับเขาต่อไปไม่ได้แล้ว เราจะมองหน้ากันอย่างไรเมื่อทั้งคู่ก็ต่างสูญเสียเช่นเดียวกัน หล่อนต้องอยู่กับความเสียใจและหวาดระแวง สิ้นความเป็นตัวเองอย่างนั้นหรือ

ไม่ขอเป็นเช่นนั้นดีกว่า

“พี่ขอโทษ” บอกได้เพียงเท่านั้น และเธอก็ไม่ต้องการจะฟังคำนั้น

เพราะสำหรับดรุณีมันสายไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคำขอโทษหรือว่าคำบอกรักก็ตาม หล่อนไม่ต้องการฟังและไม่อยากจะฟัง

“เน่ทำทุกอย่างในส่วนของตัวเองเต็มที่แล้ว คำว่ารักก็เหมือนกัน ต่อจากนี้เน่คงเอาความรักมาให้ตัวเอง...ส่วนพี่อยากทำอะไรก็ทำเลยค่ะ” เช็ดน้ำตาออกแล้วยิ้มให้เขา

อย่างที่บอกไปว่าตนเต็มที่กับความรักครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะเขาคือรักแรกที่ไม่มีทางลืมได้ลง แค่ได้แต่งงานและบอกรักทุกวันก็ถือว่าเกิดฝันไปมากแล้ว มาถึงวันนี้ก็ต้องยอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ ไม่ว่าจะเสียใจมากแค่ไหนก็ตาม

ปีแสงจ้องเธอนิ่ง คล้ายกำลังค้นหาบางอย่างในดวงตากลม ใบหน้าคมค่อยส่ายไปมาอย่างเชื่องช้า ไม่เชื่อว่ามันคือความจริง

“เธอกำลังประชดหรือเปล่า”

หญิงสาวต้องการเรียกร้องความสนใจจากเขาใช่หรือไม่ มันต้องไม่เป็นความจริงสิ คนที่รักเขาขนาดนี้จะขอหย่าได้อย่างไร ไม่มีทางเชื่ออย่างเด็ดขาด

ทว่าเธอกลับยืนกรานคำพูดเดิมของตัวเองอย่างมุ่งมั่นแน่วแน่ ไม่ใช่เพียงอารมณ์อ่อนไหวชั่วครู่เมื่อต้องสูญเสียลูก

“เปล่าค่ะ เน่พูดความจริง...เน่ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่เราไปหย่ากันนะคะ” ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจแต่เพราะอยู่กับเขาต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาต่างหาก มีเพียงความเจ็บปวดที่เราต่างมอบให้กัน จนสุดท้ายคงไม่เหลือกระทั่งความรู้สึกดีๆ

จึงยอมปล่อยปีแสงแล้วก้าวถอยมาอยู่ในจุดเดิม...น้องสาวน่าจะเหมาะกับเธอมากที่สุดแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel