บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 บุคคลปริศนา 2

“เออ...จริงด้วย แล้วอย่างนี้แกจะทำยังไงต่อไปล่ะลี บอกตรงๆ นะฉันเป็นห่วงแก ต่อให้แกจะเคยเจอเรื่องบ้าบอมากแค่ไหน แต่ยังไงซะเรื่องนี้มันก็ไม่ชอบมาพากลอยู่ดี”

หญิงสาวมองหน้าเพื่อนรัก พร้อมกับส่งสายตาขอบคุณในความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีให้ตลอดระยะเวลายี่สิบปีที่เป็นเพื่อนกันมา

“ชอบใจนะชล แต่แกไม่ต้องกังวลไปหรอก บางที...มันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้” แน่นอนว่าคำพูดนี้นลินีกำลังใช้ปลอบใจตัวเอง

“แกไปทำงานเถอะชล ระวังตัวด้วยล่ะ” หญิงสาวเอ่ยกับเพื่อนรักเพียงคนเดียวที่มีอยู่ เมื่ออีกฝ่ายยังมองมาด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย

“อืม...ยังไงแกก็เป็นห่วงตัวเองด้วยนะลี”

นลินียิ้มรับความห่วงใยจากเพื่อนรัก ก่อนจะลุกไปอาบน้ำเตรียมตัว เมื่อเธอคิดได้ว่าเธอจะลองเผชิญหน้ากับสิ่งที่รออยู่สักตั้ง แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตาม

“เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน!”

ชุดเดรสลูกไม้แขนยาวคอเต่าสีเขียวอ่อน ความยาวเลยเข่าถูกหยิบมาสวมใส่อีกครั้ง ชุดตัวนี้ถือเป็นชุดเก่งของนลินี เพราะทุกครั้งที่หญิงสาวหยิบมันมาใส่ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็มักจะสำเร็จลุล่วงด้วยดีมาโดยตลอด เหมือนเมื่อครั้งที่เธอใส่ชุดนี้ไปสมัครงานเป็นพนักงานต้อนรับที่โรงแรมที่กำลังทำอยู่

เธอยังได้งานนี้มาด้วยความคาดไม่ถึง ทั้งๆ ที่มีคนสมัครไปตั้งหลายร้อย แต่คนที่ได้กลับเป็นคนที่มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าเกณฑ์อย่างเธอ แบบนี้แล้วจะไม่ให้เธอเรียกชุดนี้ว่าชุดนำโชคจะให้เธอเรียกมันว่าชุดอะไรได้อีก?

“ขอโทษนะคะ พอดีว่าฉันมาขอพบ...คุณธีธัชค่ะ”

“ไม่ทราบว่าคุณได้นัดท่านไว้หรือเปล่าคะ?” พนักงานสาวสวยคนหนึ่งถามกลับ

“ไม่ได้นัดเองโดยตรงค่ะ มีคนนัดให้ฉัน บอกว่าวันนี้ตอนบ่ายโมงให้มาพบคุณธีธัชที่นี่”

หญิงสาวตอบออกไปตามความจริง ก่อนจะเห็นพนักงานคนดังกล่าวทำท่ามองบนใส่แล้วยกหูโทรหาใครสักคนด้วยกิริยากระแทกกระทั้นเหมือนไม่เต็มใจ

แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็เลือกที่จะมองข้ามไป เธอยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอีกเยอะ ไม่มีเวลามาอบรมพนักงานต้อนรับ ที่บริการลูกค้าได้ยอดแย่อย่างเช่นพนักงานสาวคนนี้หรอก

“เธอชื่ออะไร?” พนักงานคนเดิมหันหน้ามาถาม หญิงสาวด้วยน้ำเสียงแข็งราวสากกะเบือตำส้มตำ

“นลินี…ค่ะ” นลินีกระแทกเสียงกลับด้วยความดังที่ไม่เบานัก ก่อนจะแกล้งหันหน้าไปมองการตกแต่งของโรงแรม ด้วยอารมณ์ไม่อยากใส่ใจกับคนตรงหน้ามากนัก

“นั่นคุณนลินีเหรอครับ?”

แล้วเสียงของผู้ชายเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของหญิงสาว เมื่อหันมองกลับไปนลินีก็พบว่าชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่ง

“คุณคือคุณนลินี เลนาร์ช ไหมครับ?” ชายคนนั้นถามซ้ำอีกครั้ง

“ใช่ค่ะ”

หญิงสาวเอ่ยตอบพร้อมพยักหน้าให้ผู้ชายคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ดูจากการแต่งตัวของเขาแล้ว ผู้ชายคนนี้น่าจะมีตำแหน่งสูงในโรงแรมนี้พอสมควร ไม่อย่างนั้น...แม่สาวสวยประชาสัมพันธ์คงไม่เกิดอาการ ‘หงอ’ ขึ้นมาทันตาแถมกิริยายังดูมีมารยาทกว่าเดิมอีกด้วย

“ถ้าเช่นนั้นได้โปรดตามกระผมมาเถอะครับ นายท่านกำลังรอคุณอยู่พอดี”

เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวพยักหน้าให้เขา ก่อนจะเดินตามชายหนุ่มคนนี้ไปเงียบๆ แม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความประหม่าก็ตาม

“เชิญครับ นายท่านรอคุณอยู่ด้านใน”

ชายคนนั้นเอ่ยพร้อมกับผายมือเชิญหญิงสาวเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ตอนแรกนลินีคิดว่ามันเป็นห้องทำงาน ทว่ามันกลับไม่ใช่เพราะมันคือห้องพักสุดหรู วิวทะเลราคาคืนละแสน!

“คุณนลินีจะรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ?” เสียงของใครบางคนในนั้นดึงให้หญิงสาวออกจากภวังค์

“อะไรก็ได้ค่ะ” นลินีตอบออกไปตามสัญชาตญาณ อันที่จริงเธอไม่ควรดื่มเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า แม้ว่าเขาคนนั้นจะหล่อเหลาราวกับดาราหนุ่มตามหน้าปกนิตยสารก็ตาม

“ไม่คิดว่าทะเลภูเก็ตจะสวยขนาดนี้” หญิงสาวเผลออุทานออกมาอย่างลืมตัว

“อย่างนั้นเหรอครับ? แต่ผมกลับคิดว่ามันขึ้นอยู่กับคนที่ยืนมองทะเลด้วยกัน ณ ตอนนั้นมากกว่านะ”

“ผมธีธัชครับ ธีธัช รัตนสุวัธ” ชายหนุ่มชิงเอ่ยแนะนำตัวก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยปากถาม

“ฉันนลินี เลนาร์ชค่ะ”

“ยินดีที่ได้พบคุณนะครับ คุณลี”

หญิงสาวแค่นยิ้ม เมื่อถูกอีกฝ่ายเอ่ยเรียกด้วยชื่อเล่นราวกับสนิทสนมกันมานาน ทั้งที่ความเป็นจริงคือเธอกับเขาเพิ่งจะพบหน้ากันเป็นครั้งแรก

“เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ ดิฉันว่าคุณธีธัชคงไม่ได้มีเวลาว่างมากมายนัก จริงไหมคะ?”

“เรียกผมว่าธีเฉยๆ ก็ได้ครับ คุณกับผมไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันเสียหน่อย” ธีธัชเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะนุ่มนวล ทว่าแววตาของเขากลับฉายแววเจ้าเล่ห์อย่างไม่ปิดบัง

“คุณต้องการอะไรจากฉัน”

นลินีเอ่ยถามคำในสิ่งที่อยากรู้ออกไปในทันที ไม่สนใจสายตาและท่าทางยียวนคล้ายกับต้องการจะยั่วโมโหเธอของชายหนุ่มแปลกหน้า

“คุณคือคนที่ส่งลูกน้องไปหาแม่ของฉันที่บ้านใช่ไหมคะ?”

คนถูกถามยกยิ้ม “คุณลีดูเป็นคนตรงๆ ดีนะครับ ไม่เหมือนหน้าตาเลย ที่ออกจะดูใสๆ ไร้เดียงสา”

“พอดีว่าเป็นคนใสๆ ไร้เดียงสาแล้วมันไม่รุ่งค่ะ หน้าให้แต่ปากไม่ได้ หวังว่าคุณธีธัชคงจะไม่...ถือสานะคะ”

เออ...ไอ้ลีต่อปากต่อกับเขาอยู่ได้ เกิดเขาไม่พอใจอุ้มฆ่าเอาจะทำยังไง?

เสียงสองในสมองร้องเตือนหญิงสาว ก่อนนลินีจะรู้ตัวว่าเผลอใส่อารมณ์มากเกินไป จากนั้นหญิงสาวก็ฉีกยิ้มการค้าให้เขาอย่างเป็นมิตร

ข้อดีของการเป็นพนักงานต้อนรับก็ตรงที่เก็บอารมณ์เก่ง ไม่อย่างนั้นถ้าเวลาเจอลูกค้าเรื่องมากหน่อยคงได้ตบกันตาย หรือไม่ก็ถ้าเข้าเวรอยู่รอบดึกอาจได้มีการเอาส้นสูงเฉาะหัวแขกขี้เมา ที่มาพักสักสองสามราย เวลาแขกเมาแล้วชอบปั่นหัวพนักงานในตอนกลางดึก

“ไม่ครับ ผมเข้าใจดี”

พูดจบแล้วธีธัชก็ลุกขึ้นยืน สองขาของเขาก้าวช้าๆ ไปที่ผนังกระจกใส สายตาทอดมองวิวทะเลด้านนอก สองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆ

“เรามาทำธุรกิจร่วมกันหน่อยดีไหมครับ?”

เขาพูดโดยที่ไม่ได้หันหน้ามาทางหญิงสาว แต่เธอถึงอย่างนั้นนลินีก็รับรู้ได้ถึงกระแสของความเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนอยู่น้ำเสียงขอเขา

หญิงสาวไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเขาไม่พูดออกมาตรงๆ ให้มันจบกันไปสักที ว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไร อยากได้อะไร จุดประสงค์ของเขาคืออะไร แล้วทำไมเขาต้องดึงเธอและครอบครัวเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย

“บอกความต้องการของคุณมาเถอะค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel