ตอนที่ 5
รสรินทรุดกายลงกองกับพื้นปล่อยโฮออกมาด้วยความปวดร้าว เธอเข้าโอบกอดมารดาไว้แน่น สะอื้นไห้ด้วยความรู้สึกไม่แตกต่างกัน หมอเจ้าของไข้มองภาพนั้นแล้วระบายลมหายใจ
“อย่าเพิ่งเป็นกังวลไปนะครับ ตอนนี้หมอยังสามารถประคองอาการของคุณรณชัยไว้ได้ครับ”
สองร่างลุกยืนแล้วยกมือไหว้
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”
“อย่าเพิ่งเครียด อย่าเพิ่งท้อนะครับ หมอจะช่วยหาไขกระดูกที่เข้ากับน้องชายคุณได้อีกแรง”
หญิงสาวค่อยๆ ผ่อนคลาย เมื่อหมอรับปาก
“ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ จะไปเช็ครายชื่อคนที่บริจาคไขกระดูกครับ”
“ค่ะ”
เสียงฝีเท้าดังเข้ามา พยาบาลมาหยุดยืนตรงหน้าพร้อมยื่นบิลค่ารักษา รมิตามองจำนวนเงินในนั้นแล้วนิ่งงัน ขนาดตอนนี้น้องรักษาแค่บรรเทาอาการ ถ้าเพิ่มให้เลือดนอนห้องปลอดเชื้อ เธอคงต้องหาเงินมากขึ้นอีก
รสรินมองบิลค่ารักษาในมือบุตรสาว มองใบหน้าลูกแล้วใช้มือเหี่ยวย่นโอบอุ้มไว้ ก่อนโถมกายกอดด้วยความสงสาร ถ้าไม่มีเธอและลูกชาย ลูกสาวคงมีความสุขไปแล้ว เธอไม่ควรอยู่เป็นภาระของลูกเลย
“แม่ขอโทษนะตรี แม่ขอโทษ..” เธอพร่ำบอกบุตรสาวทั้งน้ำตา
คนเป็นลูกกอดตอบ แล้วฝืนยิ้มออกมา ความจริงแล้วเธอเต็มใจทำมัน แม้เหนื่อยแทบขาดใจก็ตาม ขอให้แม่และน้องได้มีความสุข ยังใช้เวลาอยู่บนโลกใบนี้กับเธอแม้อีกสักวันก็ยังดี
“แม่อย่าพูดแบบนี้ ตรีเต็มใจแม่ ตรีรักแม่กับน้องนะคะ”
ยิ่งได้ยิน คนเป็นแม่ยิ่งเจ็บร้าว กอดลูกแนบแน่นเพราะรู้ว่าตนเองไม่มีทางเลือก ให้ไปหาเงินช่วยลูกสาวก็คงทำไม่ได้ เพราะต้องดูแลลูกชายที่ป่วย ปล่อยให้ตรีต้องทำงานหนักคนเดียว
“ตรี... แม่ขอบใจตรีมากนะ ที่ดูแลแม่กับน้อง”
“แม่อย่าพูดอีกเลย เราต้องช่วยกันดูแลชัยนะแม่”
“แม่รู้แล้วลูก”
“ถ้างั้นแม่อยู่โรงพยาบาลก่อนนะ ตรีมีธุระต้องไปคุยกับเจ๊เชอรี่ก่อน”
“ได้ลูก”
รมิตาสาวเท้าออกจากหน้าห้องไอซียู แล้วสตาร์ทรถเคลื่อนไปยังผับที่ตนเองทำงาน เธอคงต้องขอเพิ่มเวลาทำงาน และอาจต้องยอมเปลืองตัวเพื่อเงิน