7 เหตุบังเอิญ
“พี่เบญท้องแก่ใกล้คลอดอย่างนี้ อัญจะยอมให้พี่นั่งแท็กซี่กลับคนเดียวได้ยังไงกันคะ”
อัญญาช่วยหญิงสาวท้องโตถือกระเป๋าเตรียมกลับบ้านพร้อมกัน
ปกติแล้วเบญญาภาจะให้อีริคมารับ-มาส่ง แต่วันนี้สามีของเธอติดประชุมจึงโทร.มาแจ้งให้หญิงสาวกลับบ้านเอง อัญญาเข้ามาได้ยินพอดีจึงอาสาขับรถไปส่งเธอที่บ้าน
“แต่พี่เกรงใจ บ้านเราคนละทางกันเลยนะ”
“ไม่เห็นต้องเกรงใจเลยค่ะ ดีเสียอีก อัญจะได้ไปบ้านพี่เบญถูก เพราะหลังคลอดคงต้องไปหาพี่เบญบ่อยๆ แน่เลยค่ะ”
“งั้นเราแวะทานข้าวก่อนกลับดีไหม แถวบ้านพี่มีร้านอร่อยๆ เยอะเลย”
“ดีเหมือนกันค่ะ” ทั้งสองคนเดินมาถึงบันไดหน้าตึก อยู่ๆ เบญญาภาก็หยุดเดิน เธอรู้สึกเสียวแปร๊บ บริเวณท้อง ใบหน้าเหยเก
“เป็นอะไรคะพี่”
“พี่ปวดท้อง” หญิงสาวเริ่มพยุงตัวเองไม่อยู่ เธอทรุดลงนั่งตรงบันไดมือก็ควานหายาดมในกระเป๋า
“หรือว่าพี่เบญจะคลอด” อัญญาพูดอย่างตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก
“พี่คิดว่าคงจะอย่างนั้น โอย..”
“เราเรียกรถพยาบาลดีไหม” อัญญามือไม้สั่นพยายามเสริร์จหาเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่เหมือนยิ่งรีบยิ่งช้า โทรศัพท์ในมือร่วงหน้าจอร้าวจนมองไม่เห็น
“เป็นอะไรหรือเปล่าคุณ” เสียงทุ้มดังมาแต่ไกล เขาเห็นเธอกับเบญญาภาอยู่ตรงนั้นได้สักพักแต่ยังติดสายสำคัญอยู่จึงไม่ได้สนใจมากนั้น จนกระทั่งเขาคุยธุระเสร็จก็เห็นว่าหญิงสาวดูมีอาการลุกลี้ลุกลนแปลกๆ
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ แต่พี่เบญ คือพี่เบญจะคลอด” เธอตอบตะกุกตะกัก
“ฉันจะโทร.เรียกรถพยาบาลแต่โทรศัพท์มัน” เธอยื่นโทรศัพท์ให้เขาดู
“ผมว่าชั่วโมงเร่งด่วนอย่างนี้ กว่ารถจะมาถึงก็คงอีกนาน ผมว่าพี่เบญคงจะทนไม่ไหว” เขาพยักหน้าให้เธอดูว่าร่างที่นั่งอยู่กับพื้นนั้นร้องโอดโอยแค่ไหน
“พี่เบญ” หญิงสาวถลาลงข้างๆ ทำอะไรไม่ถูก
“รอผมตรงนี้นะ ผมจะไปเอารถมาก่อน อย่างน้อยก็คงถึงเร็วกว่า”
เมื่อรถมาถึงเขาก็อุ้มคนท้องอย่างระมัดระวังโดยมีอัญญาคอยช่วยเปิดประตูให้ ชายหนุ่มว่างเธอลงที่เบาะหลังอย่างนุ่มนวล
“ขึ้นรถสิคุณ” เขาเปิดประตูอีกฝั่งให้หญิงสาว
“ฉันจะว่าจะขับรถตามไป”
“นี่คุณ ถ้าระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นผมจะทำยังไงล่ะ ผมต้องขับรถนะ” คาร์ลอสไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เขาเองก็ทำตัวไม่ถูกแต่อย่างน้อยก็ยังมีเธออีกคน อัญญาเห็นตามที่เขาพูดเธอรีบเข้าไปนั่งข้างเบญญาภาทันที ชายหนุ่มออกรถอย่างรวดเร็วจนคนนั่งด้านหลังตัวโยกไปตามแรก เขาตรงไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและเป็นโรงพยาบาลเดียวกับที่เขารู้จัก
“หายใจเข้าลึกๆ นะคะพี่เบญ” อัญญาแกว่งยาดมไปมา
“อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วอดทนไว้นะครับพี่”
เพียงไม่นานรถของเขาก็มาจอดยังหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง พอรถจอดสนิทคาร์ลอสรีบลงจากรถพร้อมตะโกนให้เจ้าหน้าที่เข็นแปลมารับ
“มีคนปวดท้องจะคลอดครับ มาทางนี้หน่อย”
พอเจ้าหน้าที่พทเบญญาภาไปในห้องฉุกเฉินเพียงไม่กี่นาที่ ก็เข็นออกมาอีกรอบ
“เราจะพาเธอไปห้องคลอดก่อนนะคะ”
“อัญโทร.บอกสามีพี่ด้วยนะ” คนไข้พยายามบอกกับเธอก่อนยื่นกระเป๋าถือให้
“ค่ะพี่เบญ เดี๋ยวอัญโทร.ตามให้ พี่ไม่ต้องห่วงนะคะ อัญจะรออยู่หน้าห้องตลอด”
ได้คุยเพียงแค่นี้ร่างของเบญญาภาก็ถูกเข็นออกไป
อัญญาเดินตามจนกระทั่งถึงห้องคลอด ไม่ลืมที่จะโทรบอกสามีของเธอ แล้วอัญญาก็เดินตามไปรอหน้าห้อง ไม่มีเงาของชายหนุ่ม เขาหายไปนานจนเธอคิดว่าเขาคงกลับไปแล้ว
ร่างสูงของชายหนุ่มเดินตรงมา เขานั่งลงข้างเธอทำให้เธออดแปลกใจไม่ได้
“ฉันนึกว่าอาจารย์กลับไปแล้ว” เธอหันมามองเขาเวลานี้หญิงสาวลืมเรื่องที่ผ่านมาไปจนสนิทจึงเป็นคนเริ่มคุยกับเขาก่อน
“ถ้าผมกลับแล้ว คุณจะกลับยังไง” เขาเป็นห่วงเธอ
“ฉันเรียกแท็กซี่กลับได้ อีกอย่างฉันยังไม่กลับตอนนี้ ฉันจะรอสามีพี่เบญมาถึงก่อน”
“หมอบอกไหมว่าเธอจะคลอดตอนไหน”
“ไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่เข้าไปก็ยังไม่มีใครออกมาเลย” เธอมองไปยังประตูห้องคลอด รอลุ้นว่าจะมีใครเดินออกมาไหม
“ปกติเค้าใช้เวลานานไหม”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยคลอดนี่” เธอตอบ
คาร์ลอสหัวเราะชอบใจที่วันนี้เธอดูผ่อนคลายมากกว่าทุกครั้งที่เจอกัน
ชายหนุ่มนั่งอยู่สักพักก็เดินหายออกไป เธอคิดว่าคราวนี้เขาคงกลับไปแล้วจริงๆ
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่เธอเองก็ไม่ได้สนใจเพราะตอนนี้จิตใจเธอจดจ่ออยู่แต่กับคนที่อยู่ในห้องเท่านั้น
เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่ดังขึ้นทำให้อัญญามองตามเสียงนั้น บุรุษร่างสูงใหญ่ ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่คนไทยแน่ๆ อัญญาเดาว่าเขาคงจะเป็นสามีของรุ่นพี่อย่างแน่นอน
“สวัสดีครับ คุณอัญใช่ไหมครับ” เขากล่าวทักทาย
“ใช่ค่ะ คุณคือ”
“ผมอีริคครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ขอบคุณมากที่ช่วยดูแลเธอ ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง”
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เห็นเข้าไปนานแล้วแต่หมอยังไม่ออกมาเลย” พอพูดจบสูติแพทย์ก็เดินออกมาจากห้องพอดี ทั้งสองคนที่ยืนอยู่แทบจะวิ่งเข้าไปพร้อมกัน
“คุณคงเป็นสามีคนไข้ ลูกและภรรยาของคุณปลอดภัยดีดูท่าจะหล่อเหมือนพ่อเสียด้วยสิ”
“ขอบคุณมากครับ แล้วผมจะได้เจอทั้งคู่ตอนไหน” อีริคอยากเจอทั้งคู่ใจจะขาด
“คุณไปรอที่ห้องพักเลยก็ได้เดี๋ยวพยาบาลจะพาทั้งสองคนไปที่นั่น ผมต้องขอตัวก่อนเพราะยังมีคนไข้อีกคนมีอะไรก็ถามพยาบาลนะครับ”
หมอเดินออกไปแล้วก็มีพยาบาลเดินออกมาจากห้องอีกคน
“คุณจองห้องพักแล้วใช่ไหมคะ” เธอถาม
เมื่อทั้งสองส่ายหัวพร้อมกัน พยาบาลส่งยิ้มให้เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยหน้าห้องคลอด เธอเดินไปอีกทางหนางทิ้งให้สองคนยืนงงต่อไป
“เอ่อ คือ ฉันมัวแต่ตื่นเต้นเลยไม่ทันจองเลยค่ะ” อัญญาพูดอย่างรู้สึกผิดเพราะระหว่างที่นั่งรอเธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
“อีริค ผมยินดีด้วยนะ” เสียงทักทายทำให้สองคนที่กำลังยืนงงอยู่ต้องหันไปมอง
“คาร์ลอส คุณมาได้ยังไง”
“อัญลืมบอกไปน่ะค่ะ ว่าอาจารย์คาร์ลอสเป็นคนขับรถพาพวกเรามาที่นี่”
“ขอบคุณมากนะคาร์ลอส คุณทำให้ครอบครัวเราต้องติดหนี้คุณอีกแล้ว”
“อย่าคิดมากน่า ลูกชายของคุณคงไม่ชอบผมแน่ๆ ถ้าเค้ารู้ว่าพ่อเค้าเอาแต่บอกว่าเป็นหนี้บุญคุณผม”
“ก็มันจริงนี่ เอาอย่างนี้ไหมล่ะ คุณรีบแต่งงานแล้วก็มีลูกสาวสักคน ผมจะให้ลูกชายผมได้จองไว้ก่อนใครเลย”
“ตลกแล้วอีริคคุณก็รู้ว่าผมยังไม่มีแฟน” เขาพูดแล้วมองมาทางหญิงสาวหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่ เหมือนพยายามจะบอกเธอเป็นนัยๆ ว่าเขาเองนั้นยังไม่มีใคร
“ห้องพร้อมแล้วนะคะ” พยาบาลคนเดิมเดินมาบอก
“พอดีว่าคุณคนนั้นจัดการเรื่องห้องพักเรียบร้อยแล้วค่ะ” เธอผายมือไปยังคาร์ลอส อัญญามองเขาอย่างชื่นชม ที่เขาหายไปเธอคิดว่าเขากลับบ้านไปแล้ว แต่ตรงกันข้ามเขาหายไปจัดการเรื่องห้องพักซึ่งเธอเองไม่รู้เลย
ทั้งสามคนไปรอยังห้องพักผู้ป่วยไม่นานนัก พยาบาลก็พาสองแม่ลูกเข้ามา
อัญญาอยู่คุยต่อเพียงครู่ก็ขอตัวกลับเพราะอยากให้รุ่นพี่กับหลานชายตัวน้อยได้พักผ่อน
“อาจารย์คะ พี่รบกวนไปส่งน้องอัญหน่อยได้ไหม นี่ก็ดึกแล้ว” แม้ตัวเองจะหมดแรงจากการคลอดแต่ก็อดห่วงรุ่นน้องไม่ได้
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เบญ เดี๋ยวอัญเรียกแท็กชี่กลับเองได้ สบายมากค่ะ”
“ผมไปส่งก็ได้ว่าแต่บ้านคุณอยู่ไหนล่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ อาจารย์ ฉันเกรงใจ” เธอไม่กล้านั่งรถไปกับเขาตามลำพัง
“ผมว่าก็ดีเหมือนกันนะ” อีริคเสริมขึ้นอีกคน
“เห็นไหม สามต่อหนึ่ง เป็นอันว่าตกลงตามนี้นะครับ” คาร์ลอสรีบสรุป