4 แค่จูบเดียวเขาก็ลืมเธอไม่ลง
“พี่อัญ เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” เสียงกระซิบของไอรดารุ่นน้องบรรณารักษ์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่ใกล้
“ฮึ...” เธอไม่เข้าใจว่ารุ่นน้องหมายถึงอะไร
“ก็เมื่อเช้าพี่ยามที่หน้าล่างตึกเล่าว่าพี่อัญวิ่งออกจากหอสมุดไป แล้วก็มีผู้ชายวิ่งตาม”
“แล้วยังไงต่อ”
“รดาก็มาถามพี่นี่ไง ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใครเหรอคะ”
“อ๋อ พี่ก็ไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นใครนะ เค้าแค่มาถามยืมหนังสือ แล้วพี่เห็นว่าไม่หนักหนาอะไรพี่ก็เลยช่วยหา”
“แล้วทำไมพี่ต้องวิ่งหนีออกไป” รุ่นน้องยังไม่คลายสงสัย
“วิ่งหนีเหรอ? ..เปล่านี่..พี่แค่รีบเพราะนึกได้ว่าต้องไปกินข้าวกับเพื่อนแค่นั้นเอง”
“อ๋อ” ไอรดาพยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงรับรู้ก่อนที่ทั้งสองจะแยกกันไปทำงานต่อ
พอสาวรุ่นน้องเดินออกไปแล้วอัญญาก็ลอบถอนหายใจแล้วพลันนึกไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานหัวใจเธอก็เต้นจังหวะแปลกๆ
แม้เมื่อวานในห้องจะไม่ค่อยสว่างมากแต่เธอก็พอจดจำใบหน้าชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน
ใบหน้านั้นคมเข้ม คิวหนารับกับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ดูดุดัน มีไรหนวดรางๆ ผมหยักศกสีน้ำตาลเข้ม
ความสูงของเขาคงสูงไม่ต่ำกว่า 185 ซม.เพราะเขาดูสูงกว่าเธอเองที่สูงเพียง 162 ซม.ไปมากโขอยู่เหมือนกัน เธอไม่แน่ใจว่าเขาเป็นลูกครึ่งสัญชาติไหน แต่เท่าที่ดูก็น่าจะไม่ใช่คนไทยร้อยเปอร์เซ็นแน่ๆ ผิวของไม่ถึงกับขาวมากการแต่งกายดูสะอาดสะอ้าน กลิ่นหอมอ่อนจากกายเขาทำให้เธอยังคงนึกถึงแม้เพียงแค่ไม่กี่นาทีที่ได้อยู่ใกล้
******
ตลอดทั้งวันคาร์ลอสแทบไม่มีสมาธิกับการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ว่าด้วยตลาดการเงินและสถาบันการเงิน
โชคยังดีที่วันนี้ชายหนุ่มมีสอนแค่ภาคเช้าเท่านั้น เขาสอนไปได้เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนอีก 1 ชั่วโมงครึ่งที่เหลือ เขาได้มอบหมายงานให้นักศึกษาไปค้นคว้าและเรียนรู้ด้วยตนเองก่อนนำงานมาเสนอเค้าในการเรียนครั้งต่อไป
“เฮ้อ!” ชายหนุ่มถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย เขาเดินวนเอยู่ในห้องพักอาจารย์พิเศษอยู่หลายรอบ ภาพใบหน้ารูปไข่ดวงตากลมโตยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ขนาดตอนที่เขากำลังเริงรักอยู่บนเตียงกับเคธี่ภาพใบหน้าของเธอยังตามากวนใจ
“เป็นอะไรวะ!....” เขาพึมพำกับตัวเอง
คาร์ลอสมองนาฬิกาหรูบนข้อมือเมื่อเห็นว่าถึงเวลาพักกลางวันแล้วชายหนุ่มก็พาร่างกายอันสูงใหญ่เดินออกจากห้องไป
“ไปทานกลางวันด้วยกันไหมคะอาจารย์คาร์ลอส”
อาจารย์สาวท่านหนึ่งเอ่ยทักทายเมื่อเขาเดินผ่านส่วนรับแขกประจำภาควิชา
“ขอบคุณนะครับ แต่คงต้องเอาไว้ครั้งหน้าเพราะผมมีธุระต้องไปข้างนอก”
“รับปากแล้วนะคะ ทุกคนในห้องนี้เป็นพยานนะคะ” เธอหันไปพูดกับอาจารย์ท่านอื่นที่อยู่บริเวณนี้พอดี
“ครับ ขอตัวก่อนนะครับ” เขากล่าวขอตัวอย่างสุภาพ
ภาควิชาเศรษฐศาสตร์มีอาจารย์อยู่หลายท่านบางท่านก็มีห้องประจำ แต่สำหรีบท่านที่ไม่มีห้องก็จะมีห้องรวม ที่มีส่วนรับแขกอยู่ตรงกลางแต่พอถึงเวลาพักอาจารย์บางคนก็มักจะมานั่งยังห้องรับแขกเพื่อผ่อนคลาย
“คนอะไร ทั้งล้อหล่อ หุ่นก็น่ากินชะมัด” อาจารย์คนเดิมพูดขึ้นเมื่อชายหนุ่มเดินออกจาห้องไปแล้ว
“นั่นสิ ได้ข่าวว่ายังไม่มีแฟนด้วยนะคะ”
“จริงเหรอ อย่างนี้ ศิก็พอมีลุ้นสิคะ” ศศิกานต์อาจารย์สาวคนหนึ่งพูดขึ้น
“รู้ได้ยังไงว่าเค้าไม่มีแฟน อาจจะมีซ่อนอยู่ที่ไหนก็ได้ ใครจะรู้ หึ หึ”
อาจารย์อรรถสิทธิ์ที่นั่งฟังอยู่นานพูดขึ้น แล้วก็เดินออกจากห้องไปอีกคน
“พี่อรรถ ไปรู้อะไรมาคะ อย่าพึ่งไปสิคะ รอศิก่อน” หญิงสาววิ่งตามเขาออกไป
“บอกมานะคะว่าพี่ไปรู้อะไรมา”
“เปล่านี่” อาจารย์หนุ่มใหญ่วัย 40 กว่าๆ ยักไหล่
“พี่อรรถค่ะ บอกมาเถอะค่ะ นะคะ”
“ไม่รู้จริงๆ ผมก็พูดไปอย่างนั้นเอง”
“พี่ว่าก็แปลกๆ เหมือนกันนะ ตั้งแต่มาสอนที่นี่พี่ไม่เห็นเค้าพาแฟนมาที่ทำงานเลยเค้าอาจจะยังไม่มีแฟน หรือบางทีก็อาจจะยังไม่พร้อมเลยยังไม่พามาก็ได้” อาจารย์อีกท่านที่เดินตามหลังมาตั้งข้อสังเกตุ
“หรือบางที...”
“บางทีอะไรคะ”
“บางทีเขาอาจไม่ชอบผู้หญิงก็ได้นะ”
“บ้าน่าพี่ปราณ ดูยังไงก็ชายทั้งแท่ง” ศศิกานต์พูดอย่างมั่นใจแล้วเดินนำไปยังร้านอาหารโรงอาหารของภาควิชาที่อยู่ชั้นล่าง
******
“อ้าว มาได้ไง มีเรื่องด่วนหรือเปล่า” ภีมวัฒน์จิตแพทย์หนุ่มเอ่ยทักทายเมื่อเห็นว่าตอนมีใครนั่งรอยู่ในห้องทำงาน
“นิดหน่อย” แขกผู้มาเยือนตอบพร้อมส่งแก้วกาแฟยี่ห้อดังให้เจ้าของห้อง
“ว่าแล้ว ถ้ามีเรื่องนี่ไม่ค่อยจะเห็นหัวเลยนะ อะ ว่ามา” จิตแพทย์หนุ่มดูดกาแฟไปเพียงนิดก็เข้าสู่โหมดจริงจัง
คาร์ลอสเล่าเรื่องที่เขาได้เจอกับหญิงสาวคนหนึ่งแล้วเอาก็เอาแต่คิดถึงเธออยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนทำกิจกรรมบนเตียงเขาก็เล่าออกมาทั้งหมด เพราะภีมวัฒน์นอกจากจะเป็นจิตแพทย์แล้ว เขายังเป็นเพื่อนสนิทของคาร์ลอสตั้งแต่สมัยที่เรียนด้วยกันที่อังกฤษ
จิตแพทย์หนุ่มคนนี้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ของเขาในอดีตทุกๆ เรื่อง เขาเองก็ไม่เคยมีความลับกับเพื่อนคนนี้เลยแม้แต่น้อย
“นายเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนไหม” คุณหมอถามอยากแปลกใจเพราะนานแล้วที่ไม่เคยได้ยินว่าเพื่อนของเขาคิดถึงผู้หญิงคนไหน
“ครั้งสุดท้ายก็.....” เขาเว้นไว้ ไม่อยากพูดถึงเรื่องในอดีต
“นานขนาดนั้นเลยเหรอะวะ” แม้อีกคนไม่บอกเพื่อนก็เข้าใจได้ในทันทีว่าคาร์ลอสหมายถึงอะไร
“อือ...”
“เธอสวยไหม” ภีมวัฒน์ถามเพราะรู้ดีว่าผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเพื่อนแต่ละคนนั้นสวยเข้าขั้นนางแบบทุกคน
“ไม่”
“เห้ย สงสัยฉันต้องส่งนายไปทำ MRI สมองหน่อยแล้วมั้ง” หมอนุ่มพูดอย่างแปลกใจ
“ก็นั่นสิ ฉันยังงงตัวเอง”
“แล้วมีอะไรสะดุดตาไหม เช่น หุ่มสะบึ้ม แต่งตัวเซ็กชี่ คับ D อะไรแบบนั้น”
“ไม่” คาร์ลอสส่ายหัว
“มันต้องมีอะไรดึงดูดสิ สักนิดก็ยังดี ลองนึกดูนะ”
ชายหนุ่มพยายามนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวคนที่เขามอบจูบให้เมื่อวานตอนค่ำ
ภาพที่ตราตรึงอยู่ในใจเขาคือดวงตากลมโตน่าค้นหา ปากนิด จมูกหน่อย ความหวานจากโพรงปากที่เขาไม่เคยได้มานานแสนนาน
“ว่าไง นึกออกไหม” เมื่อเห็นเพื่อนเงียบไปนานก็ถามต่อ
“อือ นึกออก”
“สรุปแล้วตรงไหน”
“เรื่องนี้ บางทีก็คงไม่ต้องบอกเพื่อนก็ได้มั้ง” ว่าแล้วชายหนุ่มก็หัวเราะในลำคอแล้วรีบเดินออกจากห้องไป
เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาขับรถมาหาเพื่อนถึงที่ทำงานในเวลาพักกลางวันทำไม แต่เมื่อได้พูดออกไปแล้วเขาก็สบายใจขึ้น
“อ้าว เห้ย คาร์ลอส มาคุยกันก่อน” เสียงตะโกนตามหลัง แต่คนถูกเรียกไม่สนใจเลยสักนิด