12 ร้องขออย่างลืมอาย nc
คาร์ลอสจูบเล้าโลม ทั่วไปหน้า ซอกคอ ก่อนจะงับเบาๆ ที่ยอดปทุมถัน ก่อนจะดูดมันจนแก้มตอบ เหมือนทารกน้อยที่หิวโหย
อัญญาเผลอครางกระเส่า ความเสียวแผ่ไปทั่วร่าง สองมือจับไหล่หนาไว้แน่น
“อืมมม” เขาครางในลำคอขณะที่ปากยังเต็มไปด้วยเต้างาม เขาดูดกินโดยไม่รู้สึกเบื่อ
ท่อนเอ็นก็แทงเข้าออกจากเบาเป็นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หัวแม่มือเขี่ยยอดเกสรเป็นจังหวะ
“ได้โปรด คาร์ลอส อย่าทรมานฉันเลย” ในที่สุดหญิงสาวก็ทนไม่ไหว เสียงกระซิบที่ข้างหูเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอยากให้เขาช่วยปลดปล่อย
เสียงนั้นกระตุ้นให้ร่างหนากระหน่ำใส่ร่างอรชร ที่ร่อนสะโพกแอ่นรับตรงหน้าอย่างดุดัน อารมณ์พิศวาสพรุ่งพร่าน
“อ่า โอวส์ ซีด เมียจ๋า“ ร่องสาวตอดรัดเขาจนต้องห่อปากซี๊ด เขาเองก็ทรมานไม่ต่างจากเธอ
อัญญาหอบสะท้านไปทั้งร่าง แผ่นหลังโค้งจนเต้างามลอยเด่น ปรนเปรอความหิวกระหายของชายหนุ่มด้วยความเต็มใจ
เมื่อเขาทั้งกัด ทั้งดูดเธอก็เกร็งสะท้าน มือเรียวกดลงบนไหล่หนาอย่างเต็มแรง
คาร์ลอสจับขาข้างหนึ่งของเธอชี้ขึ้นพาดไว้บนไหล่กว้าง แล้วตัวเองก็คุกเข่ามันทำให้เขาสอดใส่ได้ลึกขึ้นกว่าเดิมมาก เนินขาวลอยเด่น
“อ่าส์ ตอดแรงแบบนี้ถึงใจผมที่สุด ซี๊ด อ่าส์ “ เขาพอใจเป็นอย่างมากเมื่อร่างเล็กตอดรัดเขาอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว ร่างบางก็ครางกระเส่า
“อ๊ะ อ่าส์”
เขาขยับสะโพกเร่งจังหวะให้แรงขึ้น กระหน่ำใส่อัญญาอย่างไม่หยุดหย่อน
ปลายหัวนิ้วโป้งก็เขี่ยเกสรช่วยเพิ่มอารมณ์ให้หญิงสาว อัญญาแทบขาดใจ เธอตอบรับทุกท่วงท่าที่เขามอบให้ มือเล็กหยิกผาปูที่นอนจบแทบขาด
“ผัวขา เร็วอีกนิดนะ อ่าส์ เมียใกล้แล้ว ใกล้แล้ว อ่าส์” เธอร้องขออย่างลืมอาย เสียวซ่านไปทุกส่วน
คาร์ลอสครางกระหึ่มในลำคอเมื่อได้สินเสียงร้องขอ เธอเรียกเขาว่าผัว
เขาถอดท่อนเอ็นออกเกือบหมดแล้วแทงเข้าไปจนมิด ทั้งแรงทั้งเร็วให้สมกับที่เธอร้องขอ
เพียงไม่นานร่างนั้นก็สั่นกระตุกกรีดร้องไปทั่วห้อง น้ำรักไหล่ล้น เขาขยับสะโพกตอกลงร่องเสียวแล้วงัดขึ้นอย่างหนักหน่วงสุดแรงอีกเพียงไม่กี่ครั้ง
ความสุขก็พวยพุ่งจนเต็มร่องเสียว
“อ๊ากส์ อ่าส์” คาร์ลอสครางลั่น
ท่อนเอ็นร้อนงัดร่องเสียวอยู่ในท่าเดิมนานจนคิดว่าทุกหยาดหยดได้ออกมาหมดแล้วเขาก็ก็ค่อยๆ ถอนท่อนเอ็นที่ออกจากร่างของเธอ
“เจ็บมากมั้ย” เขาล้มตัวนอนข้างเธอแล้วกระซิบถาม
อัญญาอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ไม่รู้จะตอบเขายังไง บทรักเร่าร้อนเมื่อครู่ทำเอาเธอหลงลืมตัวไปจนหมดสิ้น
รู้เพียงอย่างเดียวว่าตัวเองต้องการเขามากแค่ไหน
ร้องขอเขาอย่างไร้ยางอาย เรียกเขาว่าผัวอย่างเต็มปากเพียงเพราะอยากให้เขาพาไปสู่แดนสวรรค์
“ผมขอโทษ ผมไม่อยากให้คุณเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว”
อัญญาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา ไม่กล้าแม้กระทั่งมองหน้า
“ขอบคุณนะอัญญา ขอบคุณที่มอบสิ่งนั้นให้ผม มันวิเศษมาก วิเศษจริงๆ คืนนี้ผมมีความสุขมากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
เขากระซิบเบาๆ แล้วดึงร่างเปลือยเปล่าของเธอเขามากอดอย่างหวงแหน
อัญญาซุกหน้าเข้าหาแผงออกกว้าง รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกอยากอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ไปนานๆ
******
แสงแดดยามสายเล็ดลอดผ่านผ้าม่านหนาเข้ามาทำให้คนที่นอนหลับใหลอยู่ขยับตัว
อัญญาปวดร้าวไปทั้งตัว เมื่อนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนก็อายแทบไม่อยากออกไปเจอใคร
เธอจำได้ว่าหลังจากเธอหลับไปเพียงไม่ถึงชั่วโมงคาร์ลอสก็ปลุกอารมณ์สวาทขึ้นมาอีกครั้ง เขาปรนเปรอจนเธอเองไปแตะขอบสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า
ส่วนเขาเองก็แทบไม่ต่างกัน เสียงครางอย่างสุขสมของเขายังดังก้องอยู่ในหัว
ทุกครั้งมันก็เต็มไปด้วยความสุข กว่าเธอและเขาจะได้นอนอีกทีก็ปาเข้าไปเกือบตีสี่
และเมื่อตื่นมาไม่เจอเขาเธอเองก็รู้สึกเหมือนหัวใจมันเบาๆหวิว
อัญญารับอาบน้ำชำระล้างร่างกาย
เธอไม่กล้ามองตัวเองในกระจกเพราะรู้ดีว่าตอนนี้มันคงเต็มไปด้วยร่องรอยที่หลงเหลือจากการร่วมรักอย่างเร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา
ผมซื้อข้าวต้มกุ้งมาให้ ทานแล้วนอนพักนะครับ ตอนบ่ายผมจะเข้าไปหา เขาเขียนโน้ตทิ้งไว้ข้างๆ
อัญญาทานอะไรไม่ลง เธออับอายเกินกว่าที่จะเจอหน้าเขาอีกครั้ง
******
“อัญ แกเป็นอะไร เอาแต่นั่งเหม่อ”
นวนันท์รู้สึกว่าวันนี้อัญญาดูจะแปลกไปมาก เพราะตั้งแต่เข้ามาที่ร้าน ก็เอาแน่นั่งเหม่อจนกาแฟร้อนๆที่เธอเอามาเสิร์ฟเย็นชืดไปหมด
“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”
“ปัญญาเรื่องานเหรอ”
“ปล่าว”
อัญญาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ชีวิตของเธอเคยผ่านเรื่องร้ายที่สุดมาแล้วตอนที่พ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตอนไปเที่ยวต่างประเทศ
แต่ก็ผ่านมานานมากแล้ว นวนันท์จึงนึกไม่ออกว่าเพื่อนสาวจะมีเรื่องปัญญาหาอะไรถึงได้แต่นั่งเหม่อลอยอย่างนี้
“อัญ ฉันเป็นเพื่อนแกมากี่ปีแล้ว แกไม่เคยเป็นแบบนี้”
อัญญาถอนหายใจ อับอายเกินที่จะพูดออกไป
“มีอะไรก็บอกฉันได้ ฉันอาจช่วยอะไรแกไม่ได้ แต่อย่างน้อยถ้าแกพูดออกมามันอาจทำให้แกสบายใจขึ้น”
“ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม แต่แกต้องตอบฉันมาตรงๆนะ” อัญญาสีหน้าจริงจัง
“ถามมาเลย แกก็รู้ว่าฉันไม่เคยมีอะไรปิดบัง”
“นันท์ แกมีอะไรกับผู้ชายครั้งแรกตอนไหน”
คนถามหน้านิ่ง แต่คนฟังหน้าเหวอ
“แกกล้าถาม ฉันก็กล้าตอบ”
“แล้วตอนไหน”
“ปี 2 “
คนถามเงียบเมื่อได้ฟังคำตอบ
“แกอย่ามองฉันอย่างนั้นสิ ก็ตอนนั้นเค้าบอกว่ารักฉันและฉันคิดว่าฉันก็รักเขา”
“อือ” เมื่อได้ฟังคำตอบก็นึกถึงตัวเอง เธอกับเขายังไม่ได้เป็นแฟนกันด้วยซ้ำ
“นึกยังไงถึงถาม”
“แกว่าฉันใจง่ายไหม”
“หมายถึงอะไร”
“ก็ฉันไปมีอะไรกับผู้ชายคนหนึ่ง”
นวนันท์ตกใจ แต่ก็พยายามคุมสีหน้าให้ปกติ ก็เพื่อนเธอยังไม่เคยบอกว่ามีแฟนแล้วเรื่องที่จะไปมีอะไรกับใครเนี่ยมันน่าแปลกอยู่มาก
“เค้าเป็นใคร คบกันนานหรือยัง”
“นั่นแหละปัญหา เราไม่ได้คบกัน”
“เดี๋ยวนะ ไม่ได้คบกัน”
“อือ ไม่ได้คบกันแค่คนรู้จัก ฉันเจอเค้าเมื่อไม่นาน ก็ได้คุยกันบ้าง แล้วเมื่อวานก็เจอกันอีก ฉันไปกินข้าวบ้านเพื่อนร่วมงานแล้วเมานิดหน่อยเค้าเลยมาส่ง”
“เค้าปล้ำแกใช่ไหม”
อัญญาส่ายหัว
“เขาไม่ได้ขึ้นมาบนห้อง เค้าขับรถออกไปเพื่อส่งผู้หญิงอีกคน ฉันก็อาบน้ำ กำลังจะเข้านอน”
เธอเสียงเบาลง นวนันท์บีบมือเพื่อนแน่น ส่งกำลังใจ
“เค้าเข้ามาที่ห้องได้ยังไงไม่รู้ ฉันอาจลืมล็อคประตู แล้วเราก็คุย ฉันพยายามไล่เค้ากลับ แต่แล้วอยู่เค้าก็เข้ามากอด จากนั้นเรื่องมันก็เลยเถิด”
“แกคงเมามาก ฉันเข้าใจ”
“ฉันจะเอายังไงต่อ”
“เค้าติดต่อมาไหม”
“ฉันไม่รู้ ฉันปิดโทรศัพท์แล้วก็มาหาแกที่นี่”
“แกอยากให้เค้ารับผิดชอบไหม”
“ฉันไม่อยากบังคับใครให้มารับผิดชอบ”
“แกแน่ใจเหรอ บอกได้ไหมเค้าเป็นใคร ชื่ออะไร”
อัญญาเล่าให้เพื่อนฟังถึงการเจอกันครั้งแรกและเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเมื่อครั้งก่อน
“ฉันว่าเค้าคงชอบแก”
“ฉันว่าคงไม่ใช่หรอก เค้าคงเห็นว่าฉันหลอกง่าย” เธอไม่มั่นใจเลยสักนิดเพราะถ้าเทียบกับอาจารย์สาวคนนั้นแล้วเธอสวยไม่ถึงครึ่ง
“แล้วถ้าเค้ามาจีบแกจะเอาไง”
“ฉันไม่รู้เหมือนกัน”
“อัญ เรื่องแบบนี้มันเป็นธรรมชาติของชายหญิง แกห้ามมันไม่ได้หรอก ถ้าเค้าอยากคบหาแกจริงจัง เค้าคงพยายามติดต่อแกมาอีก แต่ถ้าไม่ค้าก็จะหายไปจากชีวิตแก มันก็อยู่ที่แกแล้วหล่ะนะ ว่าจะเอายังไงต่อ ลองคบหาใครสักคนก็ไม่เสียหายอะไรนี่”
“ฉันกลัว เค้าเพอร์เฟคเกินไป”
“ไม่มีคนแบบนั้นหรอกนะ ทุกคนย่อมมีข้อด้อยด้วยกันทั้งนั้น”
อัญญายังไม่อยากกลับไปที่ห้อง แม้จะสบายใจขึ้นบ้างแล้วแต่เธอก็ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับเขา
หญิงสาวเลยนั่งรอจนร้านกาแฟปิดก่อนจะตามไปนอนค้างที่บ้านของนวนันท์