ผมคือแผ่นดิน
นิยายชุด The Element Love
ตอน ซ่อนรักปถวี
1-ผมคือแผ่นดิน
(แผ่นดิน)
"ผมต้องการให้การประมูลโครงการนี้ มันจะต้องเป็นเราเท่านั้นที่จะชนะการประมูล ไม่ว่าจะต้องทำยังไงบริษัทของเราจะต้องชนะ"
"แต่คู่แข่งของเราก็ไม่ธรรมดา แล้วดินจะทำยังไง"
"พ่อมั่นใจในตัวผมไหมครับ"
"ดินไม่เคยทำให้พ่อผิดหวัง แต่ว่างานนี้คู่แข่งที่แกร่งก็เยอะ พ่อก็เลยหวั่น แต่พ่อก็เชื่อมั่นในฝีมือของดิน"
"เพราะผมคือแผ่นดิน ปถวี ผมจะไม่มีทำให้พ่อผิดหวัง งานนี้เราจะต้องชนะครับพ่อ"
ผมชื่อแผ่นดิน ปถวี นรเศรษฐ์ไพศาล ผมเป็นลูกชายคนโตของตระกูล นรเศรษฐ์ไพศาล ตระกูลที่เป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของงานก่อสร้าง และถูกร่ำลือขนานนามจนเป็นที่รู้จัก เป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง จนใครต่อใครก็อยากจะเป็นพันธมิตรด้วย
ผมเรียนจบสถาปนิค ระดับปริญญาโท ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ผมสามารถเป็นที่พึ่งของครอบครัวได้ พ่อและแม่ไว้ใจผมในรับหน้าที่ เพราะพวกท่านรู้ดีและยอมรับในฝีมือการทำงานของผม เพราะพ่อให้ผมคลุกคลีกับงานที่บ้านตั้งแต่เรียนมหา'ลัย ฝึกงานกับพ่อจนผมมีประสบการณ์ที่มาพอ พ่อไม่รีรอว่าผมจะต้องเรียนจบถึงจะต้องศึกษางาน เมื่อพ่อสั่งการว่าต้องทำ จึงไม่มีใครที่จะขัดได้ แม้กระทั่งแผ่นฟ้าน้องชายของผม ที่ตอนนี้กำลังเรียนปริญญาตรีปีสาม แต่พ่อสั่งให้แผ่นฟ้าเรียนบริหาร เพราะพ่อมองว่าแผ่นฟ้าน่าจะเก่งด้านนี้ สิ่งที่พ่อมองย่อมปราดเปรื่องเสมอ คาดการณ์สิ่งใดย่อมเป็นไปตามที่พ่อหวัง และมันก็ต้องประสบความสำเร็จ
"พ่อเชื่อว่าดินต้องทำได้ งั้นวันนี้กลับบ้านไปกินข้าวกับแม่บ้างนะ แม่เขาคิดถึง"
เมื่อผมกับพ่อตกลงคุยงานกันเสร็จ ก็ตบท้ายด้วยคำพูดที่ผมรู้ดีว่ามันคือคำสั่ง และผมก็คงจะรั้งรอหรือบ่ายเบี่ยงไม่ได้ สุดท้ายก็คงต้องไปอยู่ดี เพราะพ่อเอาแม่มาเป็นข้อต่อรอง ซึ่งผมยอมอยู่แล้ว ผมรักแม่มาก ยอมรับว่ารักมากกว่าพ่อ
"ครับพ่อ แล้วตอนเย็นผมจะไป"
เพราะปกติผมจะพักที่คอนโด มันใกล้ที่ทำงานมากกว่า ถ้าแม่ไม่บ่นคิดถึงหรือพ่อสั่งว่าให้กลับบ้านบ้าง ผมก็ไม่ค่อยจะไป เพราะงานที่ผมได้รับมอบหมาย มักจะจบสิ้นก็ดึกมาก ผมจึงเลือกค้างที่คอนโดที่ซื้อไว้มากกว่า
"หวังว่าจะได้กินข้าวกับลูกชายคนโตของตระกูล นรเศรษฐ์ไพศาล กลับไปนอนบ้านบ้างก็ได้นะดิน แม่บ่นคิดถึง"
พ่อของผมพูดแล้วยิ้มอ่อน ๆ ก่อนจะเดินมาตบบ่าของผมเบา ๆ
"ครับพ่อ เย็นนี้ผมจะไปนอนที่บ้าน เพราะยังไงพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุด"
ผมให้คำตอบแก่พ่อ ท่านจึงฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม สิ่งที่สำคัญที่สุดของพ่อคือรอยยิ้มของแม่ และแม่มักจะยิ้มบ่อยเสมอเมื่อผมกลับไปบ้าน นั่นจึงทำให้พ่อพยายามชวนผมกลับบ้านบ่อย ๆ และน้อยครั้งมากที่ผมจะปฏิเสธ ถ้างานไม่เร่งด่วนจริง ๆ จนปลีกตัวไม่ได้
"งั้นพ่อไปก่อนนะ ฝากดูงานที่บริษัทด้วยไอ้ลูกชาย"
"เดินทางปลอดภัยครับ"
พ่อของผมกล่าวลา และผมก็รับหน้าที่เดินไปส่งพ่อยังประตู มองตามหลังของท่านจนท่านเดินไปไกลห่างออกไป ผมจึงกลับเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้ง ตั้งหน้าตั้งตาสะสางงานที่ค้างคาให้เสร็จสิ้น จะได้รีบกลับบ้านทานมื้อเย็นฝีมือของแม่ที่ผมรัก