5| สิ่งที่กลัว
"อุ่นอยากขึ้นเครื่องบิน เครื่องบิน เครื่องบิน"
"รู้แล้วค่ะ ดี๊ด๊าใหญ่เลยนะเรา ป้าสุดใจเอากระเป๋ามาครบแล้วใช่มั้ยคะ"
"เอามาครบแล้วค่ะ" ฉันตรวจเช็กความเรียบร้อยของทุกคน โดยเฉพาะเด็กหญิงไออุ่นเพราะเมื่อวานมีไข้ต่ำ ๆ กำหนดเดินทางวันนี้ตอนแรกจะเลื่อนไปก่อน แต่งานที่นู่นดันมีปัญหาก็เลยเลื่อนไม่ได้ ปรึกษาคุณหมอแล้วว่าอาการของไออุ่นไม่รุนแรงกินยาลดไข้และเช็ดตัวบ่อยๆก็จะดีขึ้น
ดีขึ้นจริง ๆ นั่นแหละ เสียงแจ๋วเชียว
"ถึงแล้วก็โทรมาบอกพี่ด้วย "
"พ่อพ่อจะตามไปวันไหนคะ"
"อีกสองวันครับ ไหนจับตัวสิ ตัวไม่ร้อนแล้วคนเก่ง" ไม่ใช่แค่พ่อพ่อหรอกที่เป็นห่วงอาการของไออุ่นฉันเองก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ กลัวว่าลูกจะเป็นหนักระหว่างนั่งเครื่อง แต่บินแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้วเมื่อกี้ก็เพิ่งป้อนยากันไปกว่ายาจะหมดฤทธิ์ก็ตั้งสี่ชั่วโมงถึงก่อนชัวร์อยู่แล้ว
"ต้องกินยา อุ่นไม่ชอบเลย"
"ถ้าไม่กินยาก็จะอดขึ้นเครื่องบินนะ"
"กินก็ได้ค่ะ"
"กินไปแล้วค่ะ เมื่อกี้ให้ป้าสุดใจป้อนแล้ว" ฉันทำหน้าเหนื่อย ๆ ถ้าไม่ได้เดินทางไออุ่นคงไม่ยอมกินยาง่ายขนาดนี้ งานนี้ไม่ยากเลยอดเป็นห่วงไม่ได้
"เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่สบายใจเรื่องลูกเหรอ" พี่ตฤณเงยหน้าถาม ฉันเลยพยักหน้าว่ากันตามตรง ถึงจะมีป้าสุดใจไปด้วยฉันก็ยังไม่คลายกังวล ไกลบ้านครั้งแรกเลยก็ว่าได้ กลัวหลายอย่างแต่ก็ต้องก้าวผ่านไปให้ได้ พี่ตฤณอุตส่าห์ให้โอกาสขนาดนี้
"อิง ถ้ากังวลขนาดนั้นพี่ให้คนอื่นไปแทนได้นะ"
"อิงทำได้ค่ะ อิงโอเค"
"ยังกลัวอยู่มั้ย" คำถามนั้นทำฉันชะงัก โกหกว่าไม่ คงไม่ได้ พี่ตฤณน่ะจับผิดคนเก่งอ่านใจคนออก ยิ่งเป็นน้องสาวคนนี้ไม่เคยหนีพ้นเลยสักครั้ง
"นิดหน่อยค่ะ"
"จะหนีแบบนี้ตลอดไปคงไม่ได้ พี่ไม่รู้ว่าจะช่วยได้ถึงเมื่อไหร่" พอรู้มาบ้างว่าไคล์จ้างนักสืบตามหา ถึงกับจ้างนักสืบ บ้าไม่เคยเหมือนใคร จะจ้างตามหาทำไมปล่อยฉันไปมีชีวิตอิสระเถอะ
"อิงแค่ยังไม่พร้อม อีกอย่างถ้าเขารู้ก็คงโกรธมากที่อิงทำแบบนี้หรือไม่ เขาอาจจะไม่รู้สึกอะไร มันเกินคาดเดาไปหมดเลยค่ะ" ฉันไม่รู้ว่าถ้าไคล์รู้เรื่องไออุ่นเขาจะรู้สึกยังไง จะโกรธ เกลียด หรือว่าเฉยๆ แล้วเดินจากไป ไม่อาจคาดเดาได้เลย ฉันเองก็ไม่คิดจะปิดเรื่องไออุ่นไปจนวันตายหรอก เชื่อว่าสักวันคงถึงวันนั้น แต่ตอนนี้ฉันกลัวไปหมดเลย
"ไม่ต้องกลัว มีพี่อยู่"
"ขอบคุณนะคะพี่ตฤณ" ฉันซาบซึ้งน้ำใจพี่ชายคนนี้มากจริง ๆ ถ้าไม่ได้พี่ตฤณฉันคงแย่ แย่มาก ๆ เลย ชีวิตพลิกผันครั้งใหญ่ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีนามสกุลใหญ่โตใช้อย่างเขาจากที่ปฏิเสธมาตลอดเพราะไม่ยอมรับพ่อที่ทิ้งแม่ไป
"อิงเป็นน้องสาวพี่นะ ไม่ว่ายังไงอิงก็ยังมีพี่ เราจะช่วยกันเลี้ยงไออุ่นให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องพ่อถ้าเขารู้แล้วอยากรับผิดชอบก็ได้พี่ยอม แต่ต้องมาคุยตกลงกันดีๆ ไม่พาลูกสาวของพี่หนีไปดื้อๆ แบบนั้นพี่ไม่โอเค" ฉันน้ำตาคลอ พี่ตฤณพูดความจริง สักวันไคล์ต้องรู้แล้วฉันก็จะไม่พยายามหนี เพราะเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน ยิ่งได้มองหน้าลูกก็ยิ่งทำให้ฉันคิดถึงหน้าของเขา ฉันไม่ได้อยากหนีแต่มันจำเป็นจริง ๆ อยากให้เขาได้ทำตามฝัน เหตุผลธรรมดาที่แสนนางเอกแค่นี้เอง
"โอเคค่ะ อิงจะไม่กลัวอะไรอีกแล้วค่ะ"
"เรื่องลูกไม่ต้องกังวลนะ โอเคขึ้นหรือยัง" ฉันพยักหน้ารัว ๆ แม้จะแอบกังวลนิด ๆ แต่ก็ต้องทำให้พี่ตฤณสบายใจ ถ้าไคล์รู้แล้วไม่มีอะไรก็ว่าไป แต่ถ้าเขาโกรธแล้วทวงสิทธิ์ขึ้นมามันคงวุ่นวายน่าดูเพราะไคล์ไม่ผิด ฉันเองที่ผิดหอบลูกหนีเขามา ไม่บอกความจริงตั้งแต่วันนั้นทั้งๆ ที่เขาพร้อมจะรับผิดชอบ ผิดที่ฉันเอง เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะฉัน
"อิง"
"คะ"
"เหตุผลที่เคยพูดกับพี่ในวันนั้นนั่นแหละจะทำให้เขาเข้าใจ"
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่ชาย รักที่สุดเลย" ฉันกอดพี่ตฤณเป็นการขอบคุณ เป็นอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นลองลงมาจากแม่เลยก็ว่าได้ สักพักก็รู้สึกว่ามีมือน้อยๆ เข้ามาวุ่นวาย
"กอดอุ่นด้วย"
"อะไรกัน แม่จะกอดพ่อพ่อคนเดียว"
"ไม่เอา พ่อพ่อกอดอุ่นด้วย"
พอรุมกอดพ่อพ่อจนพอใจสักพักก็ถึงเวลาต้องขึ้นเครื่อง สิ่งที่ฉันกังวลเริ่มคลายลงเพราะไออุ่นหลับตลอดทางจนเครื่องลง ฉันกับป้าสุดใจโล่งใจมาก ๆ ที่เจ้าเด็กน้อยไข้ลงจนตัวเย็น เรามาถึงกรุงเทพช่วงบ่ายฉันรู้สึกง่วงเลยขอตัวไปซื้อกาแฟหลังจากที่รอรับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย
"ป้าสุดใจเอาอะไรมั้ยคะ"
"ไม่ดีกว่าค่ะ ป้าไม่ทานกาแฟตอนบ่าย ตามสบายเลยค่ะเดี๋ยวป้ากับน้องอุ่นนั่งรอตรงนี้นะคะ" ป้าสุดใจชี้ไปที่เก้าอี้ที่เรียงเป็นแถวด้านข้าง ฉันพยักหน้าแล้วก้มบอกลูกสาวอีกรอบว่าจะไปไหน
"เดี๋ยวแม่มานะคะ อยู่กับป้าสุดใจ ห้ามไปไหนคนเดียวเด็ดขาด เข้าใจมั้ยคะ"
"เข้าใจแล้วค่ะ" ฉันยิ้มให้ไออุ่นแล้วยีหัวลูกสาวเบา ๆ รีบเดินไปหาร้านกาแฟทันที ไม่อยากให้ทั้งคู่รอนานอีกอย่างรถของโรงแรมก็มารอรับแล้วด้วย
"ไคล์ ศิลา อนันตศิริพิทักษ์กุล ประกาศอำลาJYกรุ๊ป ข่าวนี้ช็อกแฟนคลับทั้งไทยและจีนมากเลยนะคะคุณผู้ชม ดิฉันเองยังไม่อยากเชื่อเลย หลังจากประกาศผ่านสื่อเจ้าตัวก็แพ็กกระเป๋าบินกลับไทยทันที"
"แบล็กคอฟฟี่เย็นแก้วหนึ่งค่ะ"
"แก บินกลับไทยแล้ว เที่ยวบินไหนวะจะหนีงานไปรอรับ" ฉันเองก็ยังช็อก อยู่ ๆ ไคล์ก็ทิ้งงานที่ตัวเองรักกลับไทย ข่าวในทีวีที่ร้านกาแฟทำพนักงานและลูกค้าอึ้งไปตาม ๆ กัน บางคนก็พูดถึงสาเหตุไปต่างๆ นานา
"ไม่รู้สิ"
"รอสักครู่นะคะ ลูกค้านี่ใบเสร็จค่ะ" ฉันเลือกร้านกาแฟแบรนด์ธรรมดาที่คนไม่เยอะ เลือกมุมเงียบ ๆ เพื่อฟังข่าวและรอกาแฟ สาเหตุการกลับมาไม่มีใครรู้ ที่รู้ๆ ตอนนี้ไคล์บินมาไทยแล้ว
---------------