ซีรี่ส์สยบรัก

60.0K · จบแล้ว
เรือนไผ่
31
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อ 'นายหัวแดนใต้' อย่างเขาชอบความร่านร้อน 'น้ำหวาน' ก็จะป้อนความร้อนเร่า...ให้เขาสยบอยู่แทบเท้าเธอ!

โรงแรม/มหาลัยโรแมนติกรักหวานๆผู้ชายอบอุ่นนิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันรักแรกพบ

ตอนที่1[น้ำหวาน]

สยบรักนายหัวเขต

ตอนที่1

[น้ำหวาน]

บริษัทซีบี กรุ๊ป

ณ ออฟฟิศ

น้ำหวานกำลังง่วนอยู่กับการหยิบของใช้ส่วนตัวลงในกระเป๋าสะพายใบเล็ก เมื่อพลิกข้อมือมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนบางใกล้จะได้เวลาเลิกงานพอดี

“น้ำหวานวันนี้ไปเดทกับพี่ ๆ กันนะ เดี๋ยวพี่เป็นเจ้ามือเลี้ยงเอง” เสียงพี่เมย์เอ่ยขึ้น

“จริงสิ รอบนี้ห้ามปฏิเสธด้วยนะน้องน้ำหวานคนสวย” พี่จิ๊บเอ่ยเสริมประโยคของพี่เมย์เพราะหลายครั้งแล้ว ที่พี่ ๆ ชวนรุ่นน้องในกลุ่มไปรังสรรค์ด้วยกัน แต่สาวน้อยก็หาทางปฏิเสธทุกครั้งไป

“พี่เมย์ค่ะ วันนี้หวานต้องขอโทษจริง ๆ หวานมีนัดแล้วคะ” น้ำหวานหันมายิ้มเจื่อนให้รุ่นพี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของเธอจริง ๆ เนื่องจากเป็นวันครบรอบ ที่เธอกับแฟนหนุ่มคบกันมาได้สองปีเต็ม 

“ฉันว่าแล้ว เวลาซื้อหวยมันไม่แม่นแบบนี้วะ” เสียงของพี่เต้ยที่เป็นสาวสองเอ่ยขึ้น

“หวานมีนัดจริง ๆ นะคะพี่เต้ย หวานต้องขอโทษพี่ ๆ อีกครั้งไว้คราวหน้านะคะ” น้ำหวานหันมาทำเสียงออดอ้อนใส่รุ่นพี่ของเธอ

“วันนี้หวานไม่ว่างไม่เป็นไร ไว้วันหน้าเดี๋ยวค่อยไปด้วยกันก็ได้” พี่เมย์เอ่ยขึ้นอย่างพี่สาวที่เข้าอกเข้าใจเธอ

“เบื่อคนมีแฟนอะ พรุ่งนี้วันหยุดน้องน้ำหวานเขาก็ต้องอยากอยู่กับแฟนนั้นแหละ” พี่จิ๊บเอ่ยขึ้น

“ใช่จริงด้วย วันหลังหวานก็ชวนแฟนมาสังสรรค์กับพี่ ๆ ก็ได้นะ เผื่อจะได้ทำความรู้จักว่าที่น้องเขยไว้บ้าง” พี่เมย์เอ่ยขึ้น เพราะเธอก็รักน้ำหวานเหมือนน้องสาวคนหนึ่งของเธอเหมือนกัน เพราะพี่เมย์รู้จักน้ำหวานมาก่อน

 ย้อนไปเมื่อปลายปีก่อน ขณะที่เธอไปโรงพยาบาล แล้วพบน้ำหวานนั่งร้องไห้อยู่เพียงลำพัง ด้วยความที่เห็นหน้าแล้วถูกชะตาตั้งแต่แรกพบ จึงทำให้เมย์เดินเข้าไปทักเธอในครานั้น  

'น้องทำไมมานั่งร้องไห้คนเดียว’

'แม่หนู…แม่หนูถูกรถชน…แล้วแม่ก็จากหนูไปแล้วค่ะ…ฮือ…ฮือ’ ในครานั้นพี่เมย์ได้ยินถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ หลังจากนั้นพอทราบว่าน้ำหวานเหลือตัวคนเดียว และยังศึกษาอยู่เทอมสุดท้ายด้วย

พี่เมย์จึงพาไปฝากงานให้น้ำหวานทำแบบพาร์ทไทม์ ครั้นเธอเรียนจบพี่เมย์จึงฝากให้เข้าทำงานที่นี่ด้วยเช่นกัน

“พี่เมย์ขา…วันนี้หวานขอตัว หวานติดธุระจริง ๆ นะคะ” น้ำหวานเข้ามาสวมกอดพี่เมย์แล้วทำเสียงออดอ้อน

“จ้า ไว้วันหน้ายังมีอีก หวานมีธุระก็รีบกลับไปเถอะไม่ต้องเกรงใจพี่เข้าใจไหม” พี่เมย์ยกมือขึ้นดึงแก้มนุ่ม ๆ ของน้ำหวานอย่างหยอกเย้า ก่อนจะดันให้สาวน้อยเดินออกไปจากออฟฟิศ

“ขอบคุณค่ะ บ๊าย! วันจันทร์เจอกันนะคะพี่ ๆ” น้ำหวานยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่ที่เข้าใจเธอ แล้วยกมือโบกลา

น้ำหวานหยิบ

สายกระเป๋าใบเล็กสะพายขึ้นบ่า แล้วก้าวเดินอย่างเร่งรีบไปที่ลานจอดรถ ครั้นมาถึงกดรีโมทแล้วก้าวขึ้นด้านคนขับติดเครื่องยนต์ทันที ก่อนรถจะแล่นออกไปสู่ถนนใหญ่

ไม่นานรถเก่งคันสีขาวของน้ำหวานได้ชะลอลงแล้วเข้าจอดที่ลานจอดของห้าง หญิงสาวก้าวลงจากรถรีบเดินเข้าด้านใน

ภายในห้างพลุ่งพล่านไปด้วยผู้คน เมื่อได้เวลาเลิกงานแล้ว ต่างก็เข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคักหนาตามากกว่าปกติ เนื่องด้วยเป็นวันสิ้นเดือนอีกด้วย

“คนเยอะจังแฮะ” น้ำหวานพึมพำออกมา เมื่อหันหารถเข็น ไม่มีคันไหนว่างสำหรับเธอเลยสักคัน ร่างเล็กจึงเดินเข้าด้านในเพื่อสำรวจสินค้าดูก่อน เผื่อมีของที่ถูกใจเธอจะได้ซื้อเอาไปฝากแฟนหนุ่มอย่าง ‘รัชวิน’ 

พี่รัชวินเป็นแฟนหนุ่มของน้ำหวาน พี่เขาอายุมากกว่าน้ำหวานสองปี ที่คบกันมานานตั้งแต่น้ำหวานเรียนอยู่ปีสาม ความจริงแล้วพี่เขาตามจีบเธอตั้งแต่ปีสองด้วยซ้ำ แต่น้ำหวานเป็นคนที่คบคนยากจึงทำให้พี่วินต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างหนัก เขาเป็นคนสุภาพและคอยตามเทคแคร์เธอ อย่างเสมอต้นเสมอปลายจนกระทั้ง น้ำหวานจิตใจเริ่มเอนเอียงไปหาเขา

ในที่สุดการวางตัวดีและเทคแคร์ดูแลเธออย่างดีมาโดยตลอด จึงทำให้น้ำหวานใจอ่อนเริ่มมองเขาและรับพี่รัชวินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอไปด้วย

ขณะเดินดูของสายตาน้ำหวานเหลือบไปเห็นเสื้อแบรนด์ดังที่สีสวยถูกใจ เธอจึงตัดสินใจหยิบสอยลงมาถือเอาไว้ ถึงจะราคาสูงไปหน่อย แต่ปีละครั้งทำให้เธอยอมจ่าย และอีกอย่างวันนี้เป็นวันสำคัญของเธอและเขาด้วย

หลังจากได้ของฝากถูกใจแล้ว น้ำหวานเดินเข้าไปเลือกของสดเพื่อไปทำอาหารทานด้วยกัน เธอเลือกจำพวกที่แฟนหนุ่มชื่นชอบ

ครั้นเมื่อได้ของครบตามที่ต้องการ น้ำหวานจึงเข็นรถนำของออกไปที่ลานจอดของห้าง จัดแจงเอาของขึ้นรถเรียบร้อยเธอจึงขึ้นรถแล้วขับออกไปที่คอนโดฯแฟนหนุ่มทันที

ซื้อของนานไปหน่อย ประกอบกับวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้การจราจรบนท้องถนนในกรุงเทพฯ แออัดไปด้วยรถราที่ติดกันยาวเป็นพรืด จนน้ำหวานเริ่มปวดหัวขึ้นมาหน่อย ๆ

กว่าจะหลุดพ้นเส้นทางที่รถติดยาวเหยียดมาได้ ทำให้เวลาในข้อมือเธอล่วงเลยไปเกือบหนึ่งทุ่ม

“เฮ้อ! กว่าจะหลุดมาได้ทำปวดหัวตุบ ๆ” เสียงเล็กพึมพำออกมา เมื่อหลุดโค้งนี้ไป ทว่าสายตาของเธอก็มองเห็นคอนโดฯสูงที่อยู่ด้านหน้าแล้ว น้ำหวานได้แต่อมยิ้มให้กับตัวเอง

“อยากรู้จังว่าตอนนี้พี่วินกำลังทำอะไรอยู่นะ” น้ำหวานได้แต่พึมพำนึกไปถึงแฟนหนุ่มที่อยู่คอนโดฯ นี่ถ้าเขารู้ว่าเธอมาหาเขาถึงคอนโดฯแบบนี้ อย่างรู้จังว่าพี่รัชวินจะทำหน้าแบบไหนกันนะ

น้ำหวานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานหน้าคอนโดฯ เธอก้าวลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปเปิดท้าย หยิบถุงใส่ของหอบพะรุงพะรังทั้งสองมือแล้วก้าวเดินจะไปเข้าลิฟต์ แต่มีเสียงคุ้นหูเอ่ยทักเธอขึ้น

“สวัสดีครับน้องน้ำหวาน หอบอะไรมาเยอะแยะครับเนี่ย” เสียงของพี่รปภ.ที่ดูแลความปลอดภัยของคอนโดฯเอ่ยทักเธอขึ้นมา

“สวัสดีค่ะพี่นัฐนี่ของฝากพี่ค่ะ” ว่าจบเธอก็ยื่นของส่งให้พี่นัฐ แล้วรีบเดินเข้าลิฟต์ไปเมื่อเห็นประตูลิฟต์เปิดพอดี

“อ้าว! เข้าไปแล้วบอกไม่ทันซะงั้น” พี่นัฐรปภ.ได้แต่แก้เก้อด้วยกายยกมือเกาหัวตัวเอง

ด้วยความที่น้ำหวานเป็นคนร่าเริงยิ้มเก่งและไม่ถือตัว ทำให้เธอค่อนข้างสนิทกับพี่นัฐที่ดูแลที่นี่มากพอสมควร เวลามาหาแฟนหนุ่มเธอมักมีของฝากติดมือมาให้พี่นัฐทุกครั้ง 

เมื่อร้องเรียกน้ำหวานไม่ทันเขาได้แต่ถอนใจยาวออกมา