บทที่3.หิมะกับผ้าห่ม 2/5
2/5
กลุ่มคนเดินนำหน้า เขาเปิดประตูรถยนต์ให้นีรนาทก้าวขึ้นไปนั่งตอนหลังตัวรถ เธอซุกตัวนั่งกับเบาะนุ่มนิ่ม ความโอ่อ่าของรถยนต์ที่ไม่คุ้นชิน เพราะความอัตคัดของตัวเอง หัวใจสั่นกราวเหมือนกระดิ่งน้อยๆ ยามต้องสายลมแรง มันสั่นไหวและปลิดปลิว ส่งเสียงสะท้อนก้อง ดังกรุ๊งกริ๊งยาวๆ
เม็ดเหงื่อไหลซึมเต็มหน้าผากโหนกนูน แม้อากาศจะเย็นเฉียบแต่นีรนาทกลับรู้สึกว่าตัวเองร้อนวูบวาบเพราะความหวาดกลัว
“ใจเย็นๆ นีชา ไม่ต้องกลัว ไม่ถึงตายหรอกแค่เสียตัวเอง” เธอกล่าวปลอบใจตัวเอง เป็นคำพูดหยามหยันที่ได้ยินได้ฟังยังเจ็บจี๊ดๆ
แปลก!! รถยนต์จอดสนิทหน้าตึกสูงระฟ้า ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟมอลล์’ เท่าไร เธอแหงนมองตัวตึกสูงระฟ้า เกล็ดหิมะล่วงหล่นใสหน้าจนรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจ
“เชิญครับมิส!! ทางนี้ครับ” ชายชุดดำที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาผายมือบอกทางให้กับนีรนาท แล้วจึงเดินนำหน้า สายตาหลายคู่เหลือบมองผู้หญิงคนหนึ่งที่การแต่งตัวขัดกับสถานที่ เสื้อเก่าๆ ปอนๆ การแต่งกายที่ไม่เหมาะกับสถานที่โอ่อ่าและมันทำให้นีรนาทรู้สึกอาย หน้าเธอร้อนฉ่าด้วยความอายสุดขีด
ประตูลิฟต์ปิดลง ช่วยให้เธอหายใจหายคอสะดวกขึ้น เธอเหม่อมองทิวทัศน์ผ่านกระจกใส ที่เคลื่อนที่ขึ้นไปยังจุดหมาย ทุกอย่างรอบตัวมีแต่ความเงียบและความเงียบ ผู้ชายที่นำเธอมาเหมือนหุ่นยนต์มากกว่าคนมีชีวิต เขาทำงานตามคำสั่งมหาอำนาจด้วยความแข็งขัน หน้าเย็นชาและไร้จิตใจแบบสิ้นเชิง
“มิสต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำความสะอาดร่างกายก่อนครับ ผมเตรียมทุกอย่างไว้ในห้อง มิสมีเวลา สามสิบนาที ก่อนที่ท่านจะมาถึง”
นีรนาทฟังเงียบๆ เธอไม่ได้แย้งหรือทักท้วง หลังพูดจบ ชายผู้นั้นก็ถอยหลังออกจากห้องหรูๆ ที่เขาพาเธอมาทิ้งไว้รอเวลาถูกเชือด!!
ปลายนิ้วเล็กๆ เกลี่ยไล้ไปตามผิวผ้านุ่มๆ ของชุดเดรสสีขาวมุก ที่วางพาดอยู่บนที่นอนหนานุ่มกว้างใหญ่ ขนาดคิงไซส์ สวย!! เธอยอมรับว่ามันสวยเท่าที่เธอเคยเห็น เพราะสิ่งจำเป็นของเธอไม่ใช่เสื้อผ้าแพรพรรณ เพราะในชีวิตของเธอต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็กๆ สิ่งของฟุ่มเฟือยจึงไม่เคยอยู่ในความต้องการ แม้บางครั้งนึกอยากได้อยากมีตามประสาผู้หญิงบ้าง ก็ต้องตัดใจเพราะสภาพคล่องทางการเงินของเธอไม่มี ต้องเก็บออมสตางค์ที่หามาด้วยความยากลำบากเก็บไว้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน ยิ่งแม่มาด่วนจากไปด้วยแล้ว ภาระหนักๆ เหล่านั้นตกลงมาอยู่บนสองบ่าเธอแทบทรุด เลยต้องตัดความต้องการส่วนตัว เอาสตางค์เหล่านั้นมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และดูเหมือนว่าจะละลายหายไปในขวดเหล้าเป็นส่วนใหญ่
เธอเหลือบดูเวลา แล้วจึงก้มหน้าก้มตาปลดชุดที่มีแต่คนดูถูกกองไว้ข้างตัว พับเก็บและซุกไว้ เธอไม่คิดจะทิ้ง!!
สายน้ำอุ่นซ่านโปรยหล่นมากจากฝักบัวขนาดใหญ่ เธอรีบอาบน้ำชำระล้างร่างกาย และเป็นการอาบน้ำครั้งแรกที่ตัวเองชุ่มฉ่ำและไม่ต้องประหยัดน้ำ เมื่อไม่ต้องเจียดเงินมาจ่ายค่าไฟและค่าน้ำ ผิวกายขาวผ่องเป็นประกาย หลังอาบน้ำล้างตัวอย่างชุ่มปอด เธอยกผ้าเช็ดผมสีดำนุ่มเนียน เหลือบสายตามองเวลา แล้วจึงถอนหายใจแรงๆ
เหลืออีก 10 นาที...ก่อนที่เธอจะถูกเชือด...
เวลากระชั้นและใกล้จะหมดลง มือที่กำลังวาดลิปสติกสีอ่อนๆ บนขอบปากสั่นจนเจ้าตัวยังรู้สึก แม้จะเตรียมใจกับการกระทำแบบนี้ของตัวเองมาบ้าง แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาจริงๆ เธอนึกอย่างวิ่งหนีเหมือนกัน ทำไม? ต้องเป็นเธอที่ต้องมารับผิดชอบกับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ทำไมคนที่ก่อเรื่องขยันสร้างเรื่องให้เธอต้องคอยตามแก้อยู่เรื่อย...ทำไมล่ะทำไม?
เสียงถามที่ดังก้องอยู่ในหัว มันมีคำตอบชัดที่เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจดี เพราะบุญคุณค้ำหัว เพราะเขาเป็นผู้ให้กำเนิด เธอไม่มีทางปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ เธอก็ต้องก้มหน้าทนต่อไป!!
“แด๊ด...คงไม่ทำให้นีชาต้องสูญเสียอะไรอีกแล้วใช่ไหมคะ?” เป็นคำถามที่เธอก็รู้คำตอบดี ไม่มีทางที่อิวานจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาก็ยังคงทำตัวเช่นเดิม และเธอก็ต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไป
หยดน้ำตาไหลผ่านร่องแก้ม เธอรีบยกมือขึ้นปาดทิ้ง สูดลมหายใจแรงๆ เชิดหน้าขึ้น ใครจะดูถูกก็ช่าง มันเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยบิดาได้ และมันเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกต้องที่สุด ใช่ไหมล่ะ?
ทันเวลาแบบเฉียดฉิว หญิงสาวเหลือบมองเวลา แล้วจึงลุกจากหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางใหม่แกะกล่อง แต่เธอใช้แค่แป้งพับกับลิปสติกแค่นั้น อย่างอื่นเธอใช้ไม่เป็น ทำได้แค่นี้จริงๆ
นีรนาทมองตัวเองผ่านกระจกเงา ผู้หญิงคนหนึ่งสวยงามและเต็มตรึงชวนมอง ผิวขาวผุดผาดเปล่งประกายสะท้อนแสงไฟ ชุดโปร่งบางและพลิ้วไหวยามที่ขยับตัว ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าเธอเปลี่ยนแปลงการแต่งตัวแค่นี้ เธอจะเปลี่ยนไปแบบน่าตกใจ และครั้งนี้คงเป็นครั้งเดียวที่เธอจะทำแบบนี้ เธอจะไม่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้อีกตลอดชีวิต เพราะมันจะย้ำเตือนตัวเองให้รู้สึกอดสู
แกร๊ก...
เสียงประตูเปิดหลังจากที่เธอมานั่งสงบรออยู่ที่ห้องรับรองด้านนอก
นีรนาทปรือเปลือกตามองเจ้าของเสียงย่ำเท้าที่เดินเข้ามาภายในห้องด้วยมาดพญามาร ปางกระหายสวาทที่เธอแอบค่อนว่าอยู่ในใจ ร่างกายเธอแข็งเกร็ง ลมหายใจหอบกระชั้นเมื่อเผลอตัวสบนัยน์คมวาวคู่นั้น มันเปล่งแสงเรืองรองและดูเหมือนจะดึงดูดเธอเข้าไปในหน่วยตาทรงพลังคู่นั้นแบบไร้ทางสู้