บทที่2.เจ้าชายน้ำแข็ง 1/4
บทที่2.เจ้าชายน้ำแข็ง 1/4
“พูดมาสลาฟส์ ใคร?” น้ำเสียงเย็นเฉียบยิ่งกว่าเกล็ดหิมะด้านนอกตัวอาคาร
ชายสูงวัยหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ จากข้อมูลที่สืบทราบ เขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ว่าจะใช่คนคนนั้น?!!
“อีวาน...โบรีส อดีต รปภ. ที่เคยทำงานที่ห้างสรรพสินค้าครับท่าน เขาถูกไล่ออกเพราะเมาสุราขณะทำงาน”
“อดีต!! รปภ. ที่ถูกไล่ออก!! แล้วไอ้หมอนั้นมันต้องการอะไร?”
“ผมยังไม่รู้ครับ ว่าเขาต้องการอะไรในการลงมือทำครั้งนี้ ความจริงเขาออกไปเป็นปีๆ หากมีเรื่อแค้นเคืองก็น่าจะลงมือตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่” สลาฟส์วิเคราะห์ตามข้อมูลที่รู้มา เขาแปลกใจพอๆ กับทุกคนที่อยู่ในทีมสืบสวน
“เอาตัวไอ้หมอนั่นมาให้ผม ผมจะสอบสวนมันเอง!! ให้มันรู้ไปสิว่ามันกล้า...” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาต้องมาเสียเวลาที่แสนจะมีค่าไปกับเรื่องไร้สาระ แค่คนงานชั้นล่างสุด ก่อเรื่อง แต่มันเป็นการกระทำที่ทำให้เขาเสียรายได้มหาศาล สร้างความขุ่นเคืองในหัวใจ จนไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ไปง่ายๆ ได้
“ครับ” สลาฟส์รับคำเสียงหนักๆ เขาเองก็อยากรู้ว่าอีวานต้องการอะไร ชายแก่นั่นจมอยู่กับกองขวดเหล้า แล้วจู่ๆ ไอ้หมอนั่นมันนึกสนุกอะไรขึ้นมาถึงก่อเรื่อง แถมเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย หากดิมิทรีเอาเรื่องขึ้นมา อีวานคงได้ไปนอนตบยุงอยู่ในคุกอย่างแน่นอน
ดิมิทรีท้าวสองมือกับเอวสอบเขาเพ่งมองฝ่าความมืดมิดไปไกลแสนไกล มุมปากได้รูปกระตุกยิ้ม เขาจะจัดการคนที่กล้าลองดีให้เป็นเยี่ยงอย่าง ต่อไปจะได้ไม่มีใครกล้า มาลองเชิง ‘เบนิคอฟ’ อีก
“แค่คนชั้นต่ำ กระจอก!” เสียงเย็นชาผ่านริมฝีปากออกมา และหากอีวานรู้เขา เขาจะต้องหนาวไปถึงกระดูก เพราะความเมา ทำให้ตัวเองนึกสนุก โทรศัพท์ไปแกล้งคนที่ทำงานเดิม แต่มันเป็นความโชคร้าย ที่มีคนได้ยินและเอาไปเล่าลือ เสียงเล่าลือนั้น ทำให้ ‘เบนิคอฟมอลล์’ วันนั้นเงียบยังกับป่าช้า เป็นผลกระทบที่อีวานเองก็คาดไม่ถึง เขาแค่อยากเห็นทีมรักษาความปลอดภัยวิ่งวุ่น เหนื่อยกับการหาระเบิดเวลา ที่เขาแค่อุปโลกน์ขึ้นมาเฉยๆ
ชายชรายังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะตกอยู่ใต้อุ้งเท้าของพญาหมีขาวที่เรืองอำนาจ อีวานกลายเป็นแค่มดปลวกตัวเล็กๆ ที่ไม่สามารถที่จะต่อสู้อะไรได้ ความผิดครั้งนี้ของเขาไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดที่ดิมิทรีจะต้องลงมือเอง เพียงแต่เขาต้องการเขียนเสือให้เศษสวะ ทั้งหลายทั้งแหล่กลัวแค่นั้น แต่มันเป็นความโชคร้ายที่อิวานกลายเป็นหนูทดลองให้กับผู้มีอำนาจ...อย่างดิมิทรี!!
ตัวบ้านเงียบกริบ ไฟฟ้าหรือฮีตเตอร์ไม่ทำงาน นีรนาทเขม่นมองบ้านหลังเล็กๆ ของตัวเองเธอไขกุญแจที่ประตูหน้าบ้าน ควานมือในความมืดกดเปิดไฟและเปิดเครื่องทำความร้อนเพื่อให้ตัวเองรู้สึกอบอุ่นขึ้น เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัว ทุกอย่างคงเหมือนเดิม คือมันรกระเกะระกะ เกลื่อนกระจายไปด้วยของใช้
“แด๊ดเมาอาละวาดอีกสิ แล้วไปอยู่เสียที่ไหนล่ะ บ้านปิดเงียบเชียว” เธอรำพึงแผ่ว ก้มลงเก็บข้าวของบนพื้น เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม
ก๊อกๆ...นีชาๆ...
เสียงเคาะประตูหน้าบ้าน กับเสียงเรียกคุ้นหู หญิงสาวจึงเดินสวบๆ ตรงไปเปิดประตู
“มีอะไรคะ แด๊ดสั่งอะไรถึงนีชาเหรอเปล่าคะ?” เธอไม่ได้รอให้คนมาใหม่เอ่ยปาก เพราะมันเป็นเรื่องปรกติที่อีวานมักจะฝากข้อความถึงเธอหากเขาออกไปสังสรรค์ไกลบ้าน
“เห้อ!! เปล่าหรอกนีชา ลุงจะบอกเรายังไงดีล่ะ ไอ้แก่ขี้เมานั่นมันไม่ได้ไปไหนหรอก เมาแอ๋อยู่ที่บ้านนี่ล่ะ แต่...ว่า”
“แต่อะไรคะลุง แด๊ดเป็นอะไร ไม่สบายเหรอคะ?” ร่องรอยวิตกกังวลในดวงตาของฝ่ายตรงข้าม ทำให้นีรนาทหวั่นวิตก อิวานไปก่อเรื่องให้เธอต้องรับผิดชอบอีกหรือไร?
“พ่อเราน่ะทำเรื่องใหญ่โตมโหฬาร!! ลุงเกรงว่าครั้งนี้คงจะต้องติดคุกนะสิ”
“คะ? อะไรนะคะ”
“ก็เมื่อ2สองสามวันก่อน ที่ห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟมอลล์’ มีข่าวลือว่ามีการวางระเบิด จนห้างต้องกันคนออกนอกพื้นที่กะทันหัน ปิดห้างก่อนเวลาต้องปิดตั้งหลายชั่วโมง” เสียงเขาเล่าแบบหนักอกหนักใจ
“เอ่อ...มันเกี่ยวกับแด๊ดตรงไหนคะ แด๊ดไม่ได้ทำงานที่นั่นเกือบปีแล้วนี่คะ?” เธอไม่เข้าใจเลยว่าเพื่อนบ้านต้องการบอกอะไร อิวานบิดาขี้เมาจนไม่น่าจะทำเรื่องร้ายๆ แบบนั้นได้ เขาไม่มีอาวุธ
“เกี่ยวสิ เกี่ยวเต็มๆ ไอ้คนที่โทรศัพท์ไปข่มขู่ห้างน่ะ พ่อเราอิวาน โบรีส เจ้าหน้าที่เขาไม่ได้ปรักปรำมีหลักฐานพร้อม”
“ไม่จริง...”
“จริงไม่จริงไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้พ่อเราคงนอนอยู่ในกรงที่โรงพักนั้นแหละ”
น้ำตาร้อนๆ ไหลกลบดวงตาหวานฉ่ำที่มีแต่แววตาโศกเป็นนิจ เธอรีบเอ่ยปากขอบคุณเพื่อนบ้านอารี และเตรียมตัวไปสถานีตำรวจ เผื่อจะมีทางข้อร้องให้ปล่อยตัวบิดาออกมาได้ ถึงพ่อของเธอจะไม่ใช่คนดีเท่าไร เขาทั้งเอาเปรียบและดุด่า แต่เขาก็เป็นพ่อผู้ให้กำเนิด ในชีวิตของนีรนาทมีญาติสนิทแค่พ่อและแม่ หากไม่มีอิวานอีกคน เธอจะอยู่อย่างไรล่ะ
เพื่อนบ้านส่ายศีรษะ เขาสงสารและเห็นใจนีรนาท แต่เรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าใครจะยื่นมือเข้าช่วย เพราะฝ่ายโจทย์คือ...เบนิคอฟ... ในรัสเซียมีใครไม่รู้จักบ้างล่ะ ตระกูลเบนิคอฟเป็นเศรษฐีตั้งแต่ยุคแรกๆ ไม่ใช่เศรษฐีใหม่ที่ผุดขึ้นมาเพราะธุรกิจพลังงาน ดูได้แต่ห้างสรรพสินค้านั่นไง เป็นห้างสรรพสินค้าเดียวที่มีอายุเกือบสองร้อยปี แถมขายดิบขายดีผ่านช่วงวิกฤติมาหลายครั้งหลายหน แต่ก็ไม่เคยเห็น ห้างจะปิดตัวลง มีคนใช้บริการวันล่ะเป็นหมื่นเป็นแสนคน ทำกำไรมากมายมหาศาล
“ใจเย็นๆ นะนีชา ค่อยๆ คุยกับเขา อย่าใช่อารมณ์”
“ค่ะ นีชารู้ ขอบคุณคุณลุงนะคะ”
“อืม...โชคดีนะ มีอะไรให้ช่วย ถ้าช่วยได้ลุงเต็มใจ แม้จะไม่ชอบขี้หน้าไอ้แก่อิวานก็เถอะ”
“ค่ะ...” เธอก้าวออกจากบ้านหลังปิดไฟฟ้า เตรียมเอกสารที่มีน้อยนิด เงินเก็บก้อนสุดท้ายที่เตรียมไว้หลังเรียนจบ คงต้องมีเหตุต้องใช้เสียแล้วล่ะ!! ฝีเท้าหนักๆ ย่ำลงบนพื้นคอนกรีต แม้จะไม่มีหิมะโปรยปราย แต่อากาศภายนอกก็เย็นเฉียบจนแทบจะแข็งตาย หากแต่ว่าเธอมีธุระร้อน จนไม่สามารถทนรอถึงเช้าได้ เมื่อบิดารอความช่วยเหลืออยู่ที่สถานีตำรวจ