บท
ตั้งค่า

บทที่3.อาคันตุกะสุดหล่อ 2/2

พอดีกับที่ทัพหันมาเห็นชายขากางเกงบุตรสาวมีแต่หญ้าชนิดหนึ่งเข้าพอดี

“รถล้ม” หญิงสาวตอบเสียงห้วน มองเลยไปยังผู้ชายหน้าตาดีคนนั้น

“จักรยานแม่เขาน่ะเหรอ?” พอดีทัพเห็นบุตรสาวซ้อนท้ายจักรยานที่จ้อยเป็นคนปั่นเข้ามา

“ใช่พ่อ ไม่รู้ไอ้บ้าที่ไหนขับรถเหมือนญาติที่บ้านเสีย ทิมกับจ้อยเลยกลิ้งไปนอนริมถนนเพราะถูกเฉี่ยว”

ไหนๆ ก็มีโอกาสแขวะ ทับทิมไม่รอช้าที่จะจัดการเสียเลย

“ใครวะ จำหน้าได้ไหมล่ะ?” ทัพไม่เคยเห็นคนในหมู่บ้านคนไหน ขับรถไร้มารยาทเหมือนที่บุตรพูดถึง

“จำได้สิพ่อ” หญิงสาวตอบบิดาเสียงแข็ง จ้องหน้าอาคันตุกะของบิดาตาขวาง

“ใครล่ะ” ทัพถามต่อ

ทับทิมยิ้มเย้ย เธอไม่ได้ตอบแต่จงใจแขวะต่อ “ทิมไม่ถือหรอกพ่อ เขาคงยุ่ง ก็ญาติเขาตายนี่”

เหนือขมวดคิ้ว เขาสะดุดกับคำพูด และแววตาของหญิงตรงหน้า ช่วงที่ขับรถตรงมาที่บ้านทัพ เขาอาจจะเผลอเฉี่ยวหล่อนเข้าก็ได้ ชายหนุ่มอมยิ้ม เขาโดนหล่อนแขวะสองครั้ง แต่ชั่งเถอะเขาไม่ถือ เขาไม่เหลือญาติผู้ใหญ่คนไหนให้สะดุ้ง บิดา มารดาชิงลาโลกไปหลายปี ที่เหลือก็เด็กรุ่นหลานที่ยังแข็งแรงดี มีแต่เขานี่แหละที่แก่ตัวลงไปทุกวัน แต่ยังแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัว

ไอ้หมอนั่นไม่สะดุ้งสะเทือนสักนิด ทับทิมมั่นใจว่าอีกฝ่ายรู้ตัวว่าเธอจงใจว่ากระทบ สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยน มีแต่แววตานั่นล่ะที่ทับทิมเห็น เขาอมยิ้มน้อยๆ เหมือนกำลังขำเธอ

หญิงสาวเดินจากมาพร้อมกับความรู้สึกโกรธที่เพิ่มขึ้น

ถึงจะหล่อจัดจนหัวใจสะดุด แต่หากนิสัยแย่แบบนี้ เธอขอผ่าน

“หน้าหงิกเป็นตูดเลย ใครขัดใจมาอีกล่ะ” ตอนที่ทิ้งตัวนั่งในครัว มารดาทักเสียงแหลม ท่านมองใบหน้าบึ้งๆ ของบุตรสาวพร้อมกับโครงศีรษะ

“ทิมไม่ใช่เด็กแล้วนะแม่ แค่ถูกขัดใจไม่ทำให้ทิมโมโหหรอก”

“เจ็บตัวไหมล่ะ จ้อยบอกว่ารถล้มนี่” ปรางเปลี่ยนเรื่องพูด

“ถามจ้อยเถอะแม่ แล้วจ้อยไปไหนล่ะนี่?”

“จ้อยมันไม่เจ็บหรอก มันกลัวทิมเจ็บนั่นล่ะ แม่ให้เอาปลาไปปิ้ง ปลาตัวใหญ่สุดนั่นแหละ คุณเหนือจะได้กินให้อร่อย”

ทับทิบแอบเบ้ปาก มารดาก็เป็นไปด้วย บุพการีของเธอดูจะปลื้มผู้ชายคนนั้นเหลือเกิน

“แม่รู้จักหมอนั่นนานแล้วเหรอ?” ทับทิมพลั้งปากถาม

เพี้ยะ!!

แม่ฟาดแขนเธอแรงๆ จนสะดุ้ง “ไปเรียกคุณเหนือแบบนั้นได้ยังไง เขาแก่กว่าพ่อทิมอีกนะ” เสียงดุตามมาติดๆ

ทับทิมทำท่าไม่อยากเชื่อ ปรางเลยพูดสำทับ

“คิดว่าแม่โกหกหรือ คุณเหนือแก่กว่าพ่อทิม3ปี”

หญิงสาวยกนิ้วขึ้นมานับ “แม่จำคนผิดหรือเปล่าค่ะ หมอนั่น” พูดยังไม่ทันจบ มารดาก็สะบัดมือตีเธออีกครั้ง พร้อมส่งสายตาปราม “เจ็บนะแม่ จะให้ทิมเชื่อได้ไง เขาหน้าอ่อนกว่าพ่ออีก ไม่ว่าจะมองมุมไหนทิมว่าเขาไม่น่าอายุเกิน35” หญิงสาวแย้ง ยกมือขึ้นลูบแขนตนเองป้อยๆ

“เชื่อเถอะ แม่ไม่มีทางตาฝาดหรอก คุณเหนือปีนี้อายุ53ปี”

ทับทิมอ้าปากเหวอ...ผู้ชายคนนั้นอายุ53ปีเหรอ เธอไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

“เขาไม่ได้ทำงานหนักเหมือนพ่อเรานี่ คุณเหนือเขาดูแลสุขภาพจะตาย สมัยก่อนสาวๆ รุมกรี๊ดยังไง ตอนนี้แม่ว่ายิ่งมีคนกรี๊ดคุณเหนือเขาเพิ่มกว่าเดิมแน่ เหมือนสต๊าฟโครงหน้าไว้เท่ากับตอนหนุ่มๆ เลย”

ปรางชมด้วยความจริงใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน เค้าความหล่อของอดีตเจ้านายสามีก็ยังเหมือนเดิม

“หมอนั่นเป็นแวมไพร์หรือไงกันนะ!!” ทับทิมพึมพำบ่น เธอรีบขยับตัวหนีฝ่ามือมารดา เพราะท่านทำท่าเหมือนจะฟาดลงมาอีกครั้ง ตอนที่เธอแขวะผู้ชายคนนั้นอีก

“ทิมไปช่วยจ้อยย่างปลาดีกว่า”

หญิงสาวรีบเผ่น ขืนอยู่ต่อคงโดนมือแม่อีกหลายครั้ง จะให้เธอเชื่อลงได้ยังไง ผู้ชายที่ดูเฟิร์มไปทั้งตัวแบบนั้น อายุ53ปี หากกลับตัวเลขเป็น35 ยังน่าเชื่อกว่า

กลิ่นปลาย่างโชยเข้าจมูก ทับทิมสาวเท้าให้เร็วขึ้น เธอเดินตามกลิ่นหอมๆ นั่นไป

จ้อยกำลังขะมักเขม้นกับการปิ้งปลา

“หูย...ปิ้งหมดนั่นเลยเหรอจ้อย” หญิงสาวฉวยเก้าอี้ไม้มารองใต้ก้น มองปลาย่างบนเตาถ่านตาเป็นประกาย

“ใช่พี่ทิม แม่บอกว่าคุณคนนั้นชอบ”

ทับทิมกระแทกลมหายใจแรงๆ ปลากระมังใหญ่ คนคนเดียวจะกินไงหมด

“ชิ!!”

ความคิดสนุกๆ ผุดวาบ เธอฉวยปลาที่กำลังวางอยู่บนตะแกงมาถือไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel