บทที่ 7
“ค่ารักษาทั้งหมด คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ นอนให้สบายใจได้เลยค่ะ”
คนที่นอนอยู่บนเตียงทำสีหน้าชนิดหนึ่ง ที่ทำให้ภาพิไลหัวเราะชอบใจ
“อะไรกันคะ? ไม่สบายใจหรือยังไงกันที่หนูภาบอกให้อย่ากังวลเรื่องค่ารักษา”
“จะสบายใจได้ยังไงกัน พ่อมีหลายโรครุมเร้า เป็นภาระให้หนูเหลือเกิน ในเวลาที่ควรจะอยู่ข้างหนูแท้ๆ พ่อเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้จริงๆ”
ปารมีเอ่ยเสียงแผ่ว มองเด็กสาวที่เขารักสุดหัวใจด้วยสายตาอ่อนแสง ภาพิไลทรุดลงนั่งบนเตียง เธอโอบประคองเขาไว้ แล้วจุมพิตหน้าผากของเขาเบาๆ น้ำเสียงนั้นหวานนัก มันเหมือนน้ำทิพย์อันแสนชุ่มชื่น
“เอาเถอะค่ะ ให้หนูภาดูแลคุณพ่อนะคะ”
“แล้ว...พีระ...เอ่อ...”
เขากล้ำกลืนคำพูดบางอย่างลงไป ตาต่อตาสบกัน ภาพิไลหัวเราะเบาๆ แล้วจุ๊บเบาๆ ที่ปากอันแห้งผากของคนป่วย กิริยาที่แสดงต่อกัน ดูอย่างไรก็เกินเลยความสัมพันธ์ของบิดาเลี้ยงกับลูกสาวนัก
“คุณพ่อไม่ต้องห่วงหรอกค่ะทุกอย่างเป็นไปด้วยดี”
“จริงๆ น่ะหรือ?”
“จริงสิคะ”
เธอขยิบตาให้กับบิดาเลี้ยง พลางก้มลงกระซิบด้วยน้ำเสียงพร่าข้างหูของคนป่วย ที่ทำเอาปารมีแทบจะหายป่วยขึ้นมาอย่างทันทีทันใด
“เขาสู้คุณพ่อไม่ได้สักนิด...รีบๆ หายนะคะ หนูภาคิดถึง...”
“พ่อจะรีบหายเลยล่ะจ้ะ”
เธออยู่ดูแล ป้อนข้าว ป้อนยา และอยู่เป็นเพื่อนจนนางพยาบาลพิเศษเข้ามา แล้วจึงเดินออกมาจากห้องคนไข้ เธอเดินตรงไปยังลิฟท์ส่วนตัวของผู้บริหาร ยามแปลกใจเล็กน้อยที่เธอเดินมาทางนั้น ภาพิไลแสดงนามบัตรให้กับยามดู เขาจึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไป แต่ก็ยังไม่วายมองเธอไม่วางตา ก็เธอยังอยู่ในชุดนักเรียนมอปลาย ภาพิไลย่นจมูกเล็กน้อยกับสายตาแบบนั้น รู้แบบนี้เธอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนคงจะดีหรอก
ลิฟท์ตัวนี้มันขึ้นชื่อลือชาในหมู่ยาม พนักงานของโรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ไม่ใช่น้อย
ชั้นที่ห้าสิบของโรงพยาบาลเป็นชั้นของผู้บริหาร ที่เป็นส่วนพักผ่อนส่วนตัว ซึ่งมีคนใช้ห้องและส่วนของชั้นนี้เพียงแค่สองคนเท่านั้น คือ ราชันย์ เจ้าของโรงพยาบาลรักษ์สุข และราชิต ทายาทคนเดียวของที่นี่ บุตรชายของราชันย์กำลังร่ำเรียนในคณะบริหารจัดการในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เพื่อจบมาเขาจะได้ไปเรียนที่ต่างประเทศต่อ และกลับมาดูแลกิจการต่อจากบิดา
ราชิตนั้นขึ้นชื่อนักในเรื่องเจ้าชู้ เพลย์บอย ลิฟท์ส่วนตัวของผู้บริหารจึงกลายเป็นลิฟท์ขึ้นสวรรค์ของเขาเลยก็ว่าได้ สาวๆ มากหน้าหลายตาถูกพามาที่นี่ ยามเห็นจนเจนตา แต่เด็กสาวคนนี้ ดูเหมือนจะมีสิทธิพิเศษกว่าคนอื่นๆ เพราะมีการ์ดนามบัตรของราชิตพกติดตัวไว้เสียด้วย มันเหมือนใบผ่านทางกลายๆ ว่าหล่อนสามารถขึ้นไปรอเจ้านายของเขาได้เลยในที่เฉพาะแบบไม่ต้องรอคำอนุญาต
“ให้ดิฉันเรียนท่านว่าคุณอะไรคะ”
แม่บ้านที่อยู่ด้านหน้ามองภาพิไลแบบหัวจรดเท้า แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“น้องภาค่ะ ฝากบอกพี่รันด้วยค่ะ”
“คุณรัน?”
“ใช่ค่ะ คุณรัน”
“ค่ะ” เธอพยักหน้า พลางเดินไปที่โทรศัพท์ที่แขวนอยู่แล้วกดติดต่อ
ภาพิไลยืนรออยู่สักครู่หนึ่ง แม่บ้านก็มาเชิญเธอเข้าไปรอในห้องรับรอง เธอนั่งรออยู่สักครู่ ก็ได้ยินเสียงแหลมๆ ของผู้หญิงที่ฟังดูไม่สบอารมณ์นัก ดังขึ้น
“อะไรกันคะพี่รัน โอ๊ย...ทำไมจะต้องให้กุชชี่กลับด้วยล่ะ”
“กลับไปก่อนเถอะน่า พี่มีแขกพิเศษ” เสียงฝ่ายชายดังห้วนๆ
“แขกพิเศษ? ใครกัน ไหนขอดูหน้าหน่อยสิ”
แล้วก่อนที่จะทันได้ยินเสียงห้ามปราม ประตูห้องรับรองก็ถูกเปิด สาวสวยในชุดนักศึกษาสั้นจู๋ ก็โผล่หน้าเข้ามา ภาพิไลนั่งตัวตรง ยิ้มนิดๆ ส่งให้กับเจ้าหล่อน ที่พอมองสบตากับสาวน้อยแล้ว ทางนั้นก็ขมวดคิ้ว แล้วหันไปมองหน้าราชิต
“นี่หรือคะแขกพิเศษ”
“อืม...น้องสาวพี่น่ะ กลับไปก่อน”
เขาล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบกระเป๋าเงินหนังสีเทาออกมา แล้วล้วงเอาธนบัตรปึกหนึ่งส่งให้กับกุชชี่ อีกฝ่ายรับหมับไปทันทีแล้วก็เดินกระแทกรองเท้าส้นสูงสามนิ้วจากไป
“มีแขกทุกวันเลยนะคะ”
เสียงหวานเอ่ย ราชิตกวาดตามองสาวน้อยด้วยสีหน้าอึดอัดเพียงครู่ แล้วก็ยิ้มส่งให้กับเธออย่างลังเล
“น้องภามีธุระอะไรกับพี่หรือเปล่า? ถึงได้มาหาถึงบนนี้”
“แหม...”
ภาพิไลลุกขึ้นยืน เธอเดินตรงมาหาราชิต แม่บ้านที่ยังเช็ดถูอยู่ในห้องนั้นเหลือบมองคนทั้งคู่ ราชิตเห็นเข้าจึงดึงแขนเธอ ลากพาไปยังห้องส่วนตัวของเขา
“วันหลังโทรศัพท์มาก่อนสิครับ”
ราชิตว่าเมื่ออยู่กันตามลำพังแล้ว ภาพิไลยิ้มนิดๆ ส่งให้เขา เธอยืนตรงหน้าเขาเอามือไพล่หลัง เหมือนจะอวดสรีระบางอย่างให้เตะตาคนตรงหน้า ที่เขาลดตาต่ำลง และกำลังมองมันอย่างไม่ตั้งใจ เสื้อนักเรียนของสาวน้อยกระดุมหลุดจากรังไปเม็ดหนึ่ง ทำให้คอเสื้อแหวกกว้างกว่าที่ควรเป็น ความนุ่มเนียน อวบอัด ในเสื้อทับสีขาวมันอวดสายตาเขา
“น้องภาจะต้องโทรด้วยหรือคะ? เมื่อก่อนไม่เห็นจะต้องโทรเลย”
“เอ่อ...ก็...น้องภา...เฮ้อ...พี่ถามตรงๆ เถอะ น้องภาต้องการอะไรวันนี้”
ราชิตละสายตาจากความอวบนุ่มอย่างลำบาก เลื่อนสายตามามองใบหน้าหวานละมุนนั่น คิ้วของเขาขมวดนิดๆ
ให้ตายเถอะ...
เจ้าหล่อนยิ่งโตยิ่งสวย ตอนแรกที่เขาพบปะเธอ อายุเธอเพียงสิบห้า สิบห้าเท่านั้น...แต่ก็สวยเหลือเกิน จนเขาห้ามใจไว้ไม่อยู่ ทั้งที่ปรกติไม่เคยคิดจะจีบสาววัยนี้เลยสิน่า
แล้วก็เผลอ...
แล้วความเผลอกับความขบเผาะ น่าลองลิ้มหนนั้น มันทำให้ราชิตต้องตกที่นั่งลำบากมาจนถึงตอนนี้
ไม่ใช่แต่เขาคนเดียวเสียด้วย...
“พ่อของน้องภาป่วยค่ะ”
ภาพิไลตอบตามตรงพลางยิ้มหวานส่งให้กับเขา ร่างงามนั่นค่อยเคลื่อนไปใกล้เขา ทีละนิด ทีละนิด กลิ่นโคโลญหอมอ่อนๆ ยิ่งทำให้หัวใจของราชิตเต้นแรง
“อ้อ...ครับ อยู่โรงพยาบาลไหนหรือครับ?”
“อยู่ที่นี่แหละค่ะ”
เธอใช้มือลูบปกเสื้อนักศึกษาของเขา ช้อนตามองเขาด้วยนัยน์ตาสวยระยับ ราชิตถึงกับกลืนน้ำลาย
“พี่จะดูแลค่าใช้จ่ายให้เอง”
“น้องภาขึ้นมาบนนี้เพราะเรื่องนี้แหละค่ะ”
เธอโน้มคอเขาลงมา ราชิตก้มลงตามเจ้าหล่อนอย่างช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สาวน้อยคนนี้ เสน่ห์แรงนัก แรงดึงดูดทางเพศมหาศาล เขาไม่ใช่ไม่เคยผู้หญิง ผ่านมานักต่อนักเสียด้วยซ้ำ มืออาชีพที่ว่าเยี่ยมยอด ยังไม่เทียบเท่าเสน่ห์ของภาพิไล
“พยาบาลพิเศษด้วยนะคะ แล้วก็ขอหมอเฉพาะทาง คุณพ่อดูท่าจะอาการไม่ค่อยดีนัก”
“เอ่อ...พี่จะดูแลให้ดีที่สุด”
“ขอบคุณมากค่ะ”
เธอกระซิบชิดปากเขา แล้วผละออก ราชิตเผลอไขว่คว้าร่างนุ่มไว้ในอ้อมกอด ภาพิไลหัวเราะคิก แล้วใช้มือยันอกเขาไว้ ช้อนตาขึ้นมองเขาพลางเลิกคิ้ว
“คะ?”