บทที่ 7
“นี่ตกลงจะไม่เล่าใช่มะ”
นรดีเอ่ยคาดคั้น แต่คนที่นั่งข้างๆ เธอก็คงยังทำหน้าตาเฉยเหมือนไม่ได้ยิน จนเธอเหนื่อยที่จะซักไปเอง เมื่อเห็นว่าจะยังไงไอ้ออยมันไม่เปิดปากพูดแน่ๆ
“ข้อสอบจารย์ชิงวดนี้ มันจะต้องยากบรรลัยแน่ๆ เลย”
อโนมาชวนคุยไปเรื่องอื่น นรดีได้แต่ทำเสียงชิ...แล้วก็คุยด้วย
“เออสิ...ฉันน่ะอ่านหนังสือยังไงก็ไม่เข้าหัว พี่แมนก็ดันกลับมาจากบิน มาถึงก็...”
พูดเองก็หน้าแดงเอง ขณะที่อโนมามองเพื่อนแล้วค้อนขวับ
“ไอ้น้อย...ตกลงนี่แก”
“แนะๆ แกไม่ต้องมาว่าฉันเลยนะ แหม ทีตัวเองล่ะ...ไม่อยากจะพูดถามก็ไม่บอก ฉันกับพี่แมน...ยังย่ะ ความเวอร์จิ้นของฉันยังอยู่ พี่แมนยังทำตามข้อตกลงของฉันทุกประการ ถึงแม้ฉันชักจะอยากแหกข้อตกลงไปทุกทีก็เหอะ”
ว่าแล้วก็ย่นจมูก อโนมาหน้าแดงกับคำพูดของเพื่อนรัก เพราะตัวเองดันไปคิดไถลถึงเรื่อง...คืนนั้น
“แต่จริงๆ แล้วแกกับพี่แมนน่ะ...ก็ดูมั่นคงจริงจังนะไอ้น้อย แกแบบว่า...ถ้าแกจะมีอะไรกับพี่เค้าจริงๆ มันก็ไม่ถือว่าผิดหรอก”
“ก็...ไม่รู้สิ ฉันยังอยากให้อะไรๆ มันแน่นอนอีกหน่อย เรื่องแบบนี้อะ...เก็บไว้ก็ไม่เสียหายหรอก ฉันไม่รีบ แต่ว่าแกน่ะ...รีบนะยะรีบ”
ว่าแล้วก็วกเข้ามาหาเพื่อนอีกที อโนมาได้แต่ทำตาปริบๆ เพราะไม่อยากจะเถียงกับนรดี ขืนเถียงไปเถียงมาวกเข้าตัว เผลอหลุดปากบอกไปว่าใครเป็นเจ้าของร่องรอยพวกนั้นล่ะก็...
เธอกับก้านเพชรมีหวังมองหน้ากันไม่ติดอีกหนแน่ๆ ขนาดทุกวันนี้ เธอก็ยังรู้สึกแปลกๆ เวลาที่มองหน้าของเพื่อน...รัก
อื้อ...เพื่อนรักนะยัยออย
เรื่องคืนนั้นอุบัติเหตุทั้งหมดนั่นแหละ
พักนี้มันก็ทำตัวเหมือนเดิมแล้วนี่นา...เมื่อวานตอนไปกินข้าวเย็นที่ห้องของเธอ ก้านเพชรกับเธอก็คุยกันราบรื่นดี ไม่มีวกเข้าบทสนทนาแปลกๆ ชวนให้ใจเต้นหน้าแดง แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่วายรู้สึกประหลาดยามแอบมองหน้าก้านเพชรอยู่ดี
“เทสต์เสร็จแล้ววันนี้ อยากไปหาอะไรกินแก้เครียด” นรดีว่า แล้วปิดหนังสือ เธอหันมายิ้มกว้างส่งให้กับอโนมา
“ไปกันมะออย ไปหาอะไรดริ๊งค์ๆ แดนซ์ๆ กัน ผ่อนคลายบ้างอะไรบ้าง”
“ก็ดีนะ ใครไปบ้างล่ะ”
“แกฉันพี่แมน แล้วก็เพื่อนพี่แมน”
นรดีกำลังมีแผนอะไรบางอย่างในหัว พลางมองหน้าของอโนมาอย่างเจ้าเล่ห์ จริงๆ แล้วอโนมาเป็นคนน่ารักมาก ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้หรือเปล่า...ขนาดเธอเป็นผู้หญิงก็ยังชอบที่จะมองใบหน้าของเพื่อนรักเลย
ใบหน้ารูปหัวใจประกอบด้วยแก้มป่องนิดๆ ตากลมโตแป๋วนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ห้อมล้อมด้วยขนตาดกหนาธรรมชาติ ปากรูปกระจับอิ่มสีชมพูเรื่อ คิ้วได้รูปไม่ต้องกันตกแต่งอะไรมาก เรือนผมยาวสลวยสีน้ำตาลหยักศกลอนใหญ่ที่เจ้าตัวมักจะมัดไว้เป็นมวยสูง นานครั้งจะปล่อยมันลงมาสักที อโนมาเป็นสาวตัวเล็ก ที่สูงแค่ร้อยห้าสิบเซนติเมตรพอดีเป๊ะ แต่มีอะไรบางอย่างไม่เล็กเลย กับสัดส่วน สามสิบห้า ยี่สิบสาม สามสิบหก อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกผายสะดุดตา ขนาดเจ้าหล่อนไม่ได้สวมชุดนักศึกษาแบบรัดติ้วอวดสัดส่วน หนุ่มๆ ยังแอบมองกันแบบเหลียวหลัง เพราะอโนมาถือได้ว่าอยู่ในเกรดเอเลยก็ว่าได้ สำหรับสาวฮอตประจำมหาวิทยาลัยที่หนุ่มๆ ขึ้นเป้าหมายไว้ว่าอยากจะจับเจ้าหล่อนมาเป็นแฟน ก็ทั้งน่ารัก ขาว หุ่นเอ็กซ์ เด็กเรียน นี่ล่ะเกรดเอที่แท้จริง ที่ใครได้ควงได้เป็นแฟนด้วยจะต้องยืดด้วยความภาคภูมิใจ
แต่จนแล้วอโนมาจากรุ่นน้องปีหนึ่งสุดฮอต มาจนกลายเป็นสมบัติของรุ่นที่ยังไม่มีแฟนเสียที ส่วนหนึ่งไม่ค่อยมีใครกล้าจะจีบหล่อนเท่าไหร่ เนื่องจากข้างกายของสาวฮอตผู้นี้ มักจะมีผู้ชายคนหนึ่งที่ฮอตไม่แพ้กัน ป้วนเปี้ยนอยู่เสมอ
“แค่นี้เหรอ?”
อโนมานิ่งไปนิดอย่างลังเล ปรกติแล้วเวลาไปเที่ยวอะไรแบบนี้ พวกเธอมักจะมีองค์รักษ์ไปอีกสองหนุ่ม หนึ่งในนั้นสั่งเธอไว้เลยล่ะ ถ้าเที่ยวกลางคืนเมื่อไหร่ เขาจะต้องไปด้วย ในฐานะผู้พิทักษ์ ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเหนียวแน่นสุดๆ ถึงแม้ตอนนั้นเขาจะมีแฟนก็ตามที ก้านเพชรจะต้องปลีกตัวไปเที่ยวกับเธอจนได้ ข้ออ้างของเขาที่ใช้ประจำคือต้องดูแลเพื่อนรักเป็นอย่างดี เดี๋ยวเมาเละเทะแล้วหนุ่มลากไป ปู้ยี้ปู้ยำ เขาจะกลับไปสู้หน้าพ่อแม่ของเธอไม่ได้
แต่เอ...มาคิดๆ ดูแล้ว พ่อกับแม่ของเธอ...ก็ไม่ได้สั่งฝากฝังอะไรขนาดนั้นนี่นา คนที่ฝากลูกชายแถมยังย้ำแล้วย้ำอีกทุกหนเวลาเจอะเจอหน้าเธอ ก็ลุงกำนันกับป้าเรือนนั่นแหละ เพราะพ่อและแม่ของเธอค่อนข้างจะไว้ใจลูกสาวคนเดียวว่าไม่เหลวไหลแน่นอน
ตลอดมาเธอเป็นเด็กดีจนทุกคนไว้วางใจ
ต่างจากอีกคนที่เฮ้วหน่อยๆ แถมยังทำให้พ่อกับแม่ของเขาปวดหัว แล้วต้องเอามาฝากกับเธอ
เฮ้อ...
ไปคิดถึงตานั่นอีกล่ะ...
“ไปกันแค่นี้ล่ะ รำคาญไอ้เกม กับไอ้น่านมัน ชอบขัด โดยเฉพาะไอ้เกม ตัวดีเลย ชอบทำให้เพื่อนแบบว่าชวดหนุ่ม”
“ใครชวดหนุ่มยะ แกมีหนุ่มไปด้วย ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปหาหนุ่มสักกะหน่อย ชวนๆ มันไปก็ดีนะ อกหักอยู่เผื่อจะได้สาวใหม่”
“เพื่อนเกมของเราน่ะ เคยอกหักนานเกินสี่วันด้วยเหรอยะ” ว่าแล้วนรดีก็นับนิ้ว
“เออ...หนนี้เหมือนจะเกินไปนิดหน่อย หุๆ แต่เดี๋ยวก็ได้แน่ เห็นว่ายัยแจนน่ะบุกถึงห้องเลยนะแกเมื่อวันก่อน แต่...ไอ้เกมไม่อยู่ วันนี้เราอย่าชวนมันไปเลย ช่วยยัยแจนมันหน่อย มันน่ะชอบไอ้เกมมานานมาก บอกว่าอยากจะได้สักหนก่อนจบปีสี่”
“แจนไหน?” ทำไมหัวใจเธอร้อนวูบๆ อย่างไรพิกลเมื่อได้ยินว่ามีสาวจะบุกรุกจัดการรวบรัดก้านเพชร
“แจนสาวลีดเดอร์ปีสามยังไงล่ะ คนที่แรงๆ หน่อย สวยๆ อะ”
“อื้อหือ”
แค่นึกได้ว่าคนไหน เธอก็กลืนน้ำลาย แม่สาวนั่นทั้งฮอตทั้งแซบจริงๆ แถมหมายตาเก็บหนุ่มหล่อมาทั่วมหาวิทยาลัยแล้ว ก้านเพชรที่เป็นเป้าของแม่เจ้าประคุณ ก็คงไม่รอด
“ฉะนั้นเราอย่าชวนไอ้เกมมันเลย” นรดีพูดอย่างมีเลศนัย จนอโนมามองอย่างสงสัย
“แกดูอยากจะให้เพื่อนเราเสียตัวมากเลยนะนี่ ยัยน้อย แนะๆ มีอะไรหรือเปล่าน่ะ”
“ก็พนันกันไว้น่ะสิ ว่ายัยแจนจะได้กินไอ้เกมหรือเปล่า อิอิ”
“หื้ม พวกแกนี่เอาอะไรแบบนี้ของเพื่อนไปเล่นสนุกหรือไงยะ”
“เอาด้วยหรือเปล่าอะยัยออย ถ้าเกิดว่าไม่ได้กินล่ะก็จ่ายสิบต่อหนึ่งเลยนะ ไอ้เบียร์เป็นเจ้านะแก มันหาทางทุกทางเพื่อให้ยัยแจนน่ะได้กะไอ้เกม เซอร์วิสไปส่งถึงคอนโดไอ้เกมด้วยล่ะ แต่...ก็ยังไม่ได้ยังไม่เจอ ไม่รู้ไอ้เกมมันหายไปไหน”
มานอนที่ห้องฉันยังไงละยะ
อยากจะตอบแต่ก็ไม่ได้ตอบ แล้วก็ส่ายหน้านิดๆ ดูเพื่อนแต่ล่ะคนจะสนับสนุนให้สาวฮอตคนนั้นได้กับก้านเพชรเหลือเกิน
“พนันไว้เยอะหรือไงยะ”
“ยี่สิบ”
“โอ๊ย...” อโนมาอดขำกิ๊กไม่ได้
“ตกลงไปนะ ไปกับฉันแค่สองคน ไม่ต้องบอกพวกไอ้เกมมัน”
“อืม...” ในที่สุดอโนมาก็พยักหน้าตกลง เป็นครั้งแรกที่เธอจะเที่ยวกลางคืนโดยไม่มีเพื่อนซี้คอยคุ้มกันเหมือนเดิม