บทที่ 6
ความเสียหายที่เขาทำ มันทำให้ศรอินทร์ปวดหนึบๆ ในอกจนถึงตอนนี้
เขาอาสาอุ้มเธอพาลงมาจากห้อง ขู่ว่าแผลจะแหกกว่าเดิมถ้าเดินมาก เจ็บก็ยอมรับว่าเจ็บ ถ้าไม่เจ็บเขาจะลองชวนน้องทบทวนเรื่องเมื่อคืนอีกที นั่นแหละ ถึงได้ยอมให้เขาอุ้ม
เขาเรียกลูกน้องคนสนิทให้มารับที่คอนโด พร้อมกับคำสั่งกำกับ ที่ทำให้เจ้ยถึงกับถามซ้ำ ว่านายสั่งให้ซื้ออะไรเข้าไปด้วย
พอมารับนายแล้วเห็นคนตัวเล็กในอ้อมแขนเจ้านาย ที่ซุกหน้ากับอกของศรอินทร์ก็เล่นเอาถึงกับเบิกตานิดๆ แต่ก็ไม่ได้พูดจาถามอะไร ตามประสาลูกน้องที่ดี
“ที่กูให้ซื้อ ซื้อมาด้วยไหม”
“ครับเสี่ย เอ่อ...นี่ครับ ผมแวะซื้อในเซเว่น”
เขายื่นส่งถุงให้แบบไม่หันมามอง เขาไม่ค่อยละลาบละล้วงเรื่องเด็กของเสี่ยอย่างมีมารยาท
“ขอบใจมาก” เขาดึงของในถุงออกมา แล้วหันมองคนข้างๆ พร้อมกับเอ่ยเสียงนุ่ม
“มาเดี๋ยวผมใส่ให้ ใส่อันนี้ไปก่อน แล้วเดี๋ยวผมจะซื้อใช้ให้หนูอีก”
“อะไรคะ?”
ยิปซีมองแล้วก็หน้าแดงก่ำ กางเกงใน...เธอหันมองคนขับรถของเขาทันที จะให้มาใส่ตรงนี้ได้ยังไงอะ
“ไอ้เจ้ย มึงจอดรถข้างทางแล้วลงไป”
“ครับเสี่ย”
เจ้ยทำตามสั่ง เขาเทียบจอดรถข้างทางทันที แล้วเดินลงไป เสี่ยหนุ่มจับขาสองข้างของยิปซีมาไว้บนตักของตนเอง แล้วถือกางเกงในตัวใหม่ไว้ในมือ สาวน้อยถึงกับทำหน้าเลิ่กลั่ก
“คุณจะทำอะไร”
“ผมเป็นคนถอด ผมก็จะใส่ให้ อย่าดิ้นเดี๋ยวเจ็บแผลอักเสบนะ”
ขู่ไว้ก่อน สาวน้อยหน้าแดงก่ำ ขณะยอมหลับหูหลับตาให้เขาทำอะไรแบบนี้ให้
ตั้งแต่พ้นอายุช่วยตัวเองใส่เสื้อผ้าเองได้ คือในวัยห้าขวบ เธอก็ไม่เคยให้ใครแต่งตัวให้อีกเลย จนมาถึงเขานี่แหละ
พอเรียบร้อยแล้วเขาก็เปิดกระจกแล้วบอกเรียกให้คนขับขึ้นมา สั่งบอกให้เขาพาไปที่โรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ใกล้ๆ แถวนั้น อุ้มพาเธอไปยังแผนกตรวจ โดยไม่เรียกรถเข็น ภาพชายตัวโตหน้าดุ อุ้มหญิงสาวตัวเล็กเอวบางไว้ในอ้อมแขน พาเดินไปทั่วแบบนั้น ทำให้ใครต่อใครอดมองไม่ได้ อย่างนึกเอ็นดู...กับความรักของผู้ชายที่แสดงออกแบบนั้น
เจ้ยเองมองตามนายก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้...อื้อหึ คนนี้มาแปลกกว่าทุกคนแหะ
เขาพาเธอไปยังแผนกสูตินรีเวช แล้วบอกกับนางพยาบาลหน้าตาเฉย
“ตรวจเมียผมให้หน่อยครับ เอ่อ...คือว่า...”
เขาลดเสียงลงก้มลงกระซิบกับนางพยาบาลสาว ที่กำลังมองเขาด้วยนัยน์ตาตะลึงนิดๆ กับรูปร่างหน้าตาของศรอินทร์ ซึ่งหล่อเหลา คมเข้ม เรียกสายตาคนมองเหลือเกิน
“ผมรุนแรงไปหน่อย ขนาดของเราไม่ค่อยสมดุลกันน่ะครับ”
“รอคิวสักครู่นะคะ”
หน้าของนางพยาบาลแดงก่ำไปเลยล่ะ เมื่อเขาบอกแบบนั้น ส่วนคนในอ้อมแขนนั้นอายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว เฮ้อ...
เธออยู่บนตักเขา จนถึงคิว
แถมอุ้มเธอไปส่งถึงหมอ ที่อุทานอย่างตกใจนิดๆ เมื่อเห็นชายร่างใหญ่เดินเข้ามาในห้องตรวจ โดยมีคนไข้อยู่ในอ้อมแขน
หมอตรวจอาการเสร็จเรียบร้อย ก็สั่งยาให้กับเธอ แล้วบอกกับคนที่เดินเข้ามาขอรับคนไข้ ด้วยน้ำเสียงกระเซ้าเล็กน้อย
“หนหน้าก็ใช้เจลหล่อลื่นช่วยสักนิดนะคะคุณแฟน แล้ว...ก็อย่าเพิ่งรุนแรงมากไปค่ะ ให้น้องปรับตัวก่อน”
“หนหน้านี่ นานขนาดไหนครับหมอ คงไม่นานเป็นเดือนใช่ไหมครับ ผมจะขาดใจเอา”
คำถามนั้นทำให้ทั้งคุณหมอกับคนไข้หน้าแดงขึ้นกันทั้งคู่
“กลับเถอะค่ะ”
เสียงหวานเอ่ยขัดขึ้นอ้อมแอ้ม เขาขยิบตาให้กับคุณหมอแล้วเอ่ยเสียงนุ่ม
“รับปากครับว่า ผมจะถนอมน้อง จนกว่าเราจะปรับตัวกันได้ จะไม่พาน้องมาหาหมออีก จะไม่ทำให้น้องเจ็บอีกครับ”
ยิปซีได้แต่ซุกหน้ากับอกเขา อายเหลือเกิน อายจนเกินอาย อายจนลืมเรื่องอื่น เรื่องที่ว่าเธอกับเขา กับสถานการณ์ร้ายแรงนั่น
“บ้านอยู่ตรงไหน ผมจะไปส่งให้ จริงสิตกลงว่าหนูชื่ออะไร?”
เขาหันมาถาม เมื่อวางเธอลงบนเบาะแล้วเรียบร้อย เธอมองเขาตาแป๋ว ก่อนจะเม้มปากแน่น แล้วเอ่ยตอบเขาออกไป
“ไม่ต้องรู้ชื่อหนูหรอกค่ะ หนูอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเป็น...มันเป็นแค่เรื่องฝันร้ายของหนู คุณกรุณาลืมหนูไป ลืมเรื่องเมื่อคืนไปเสียนะคะ”
“หืม?” คิ้วเข้มขมวด ก่อนจะจ้องหน้าของเธอ ใครจะไปลืมลงกันล่ะ เขาเอ่ยเสียงเข้ม
“ถ้าผมไม่ลืมล่ะ แล้วผมก็อยากรู้จักหนู...ผมทำให้หนูเสียหาย ผมจะต้องรับผิดชอบ”
“ไม่ต้องรับผิดชอบหนูค่ะ แล้วหนูก็ไม่ได้อยากจะรู้จักคุณ”
อื้อหือ...
เหมือนโดนมีดแทงฉึกๆ เข้าที่หัวใจเลยว่ะไอ้เสี่ย
หน้าคมสันนั้นบึ้งตึงไปเลยทันที เมื่อน้องพูดแบบนั้น เขาขบกรามนิดๆ แล้ว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับอาการวูบวาบหัวร้อน เพราะคำพูดตัดรอนของน้อง แล้วยิ้มส่งให้พร้อมกับเอ่ยเสียงนุ่ม
“ตกลงว่าบ้านของหนูอยู่ที่ไหน ผมจะไปส่ง”
ยิปซีตกลงใจบอกเส้นทางกับเขาไป ตอนนี้เธอนั่งเป็นอิสระโดยไม่มีมือของเขามาวุ่นวายแล้ว ที่ตัดสินใจบอกไปว่าบ้านอยู่ที่ไหน เพราะเขาจะได้เห็น...ว่าเธอเป็นลูกใคร จะได้กลัวและไม่กล้ายุ่งกับเธออีก
ป้ายบนประตูบ้านของน้อง ทำให้เขาเบิกตากว้างนิดๆ ก่อนจะหรี่ลง เขายอมให้น้องเปิดประตูลงไปจากรถ ก่อนลงไป ยังไม่วายหันมาพูดย้ำ
“เราลืมเรื่องเมื่อคืนกันไปเสียนะคะ หนูถือว่าหนูฝันร้าย คุณก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไร มันเป็นเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันในคืนนั้น หนูไม่อยากบอกคุณพ่อ”
นั่น...
เขามองสบตากับนัยน์ตากลมโตนั่น แล้วพยักหน้า
ยิปซีถอนใจนิดๆ แล้วเดินลงไปจากรถ มั่นใจว่าเขาคงไม่กล้ามาวุ่นวายอะไรกับเธออีกแล้วแน่นอน เพราะเธอก็ไม่ได้ทวงความรับผิดชอบ ไม่ได้ขู่จะเอาเรื่องเขา แถมด้วยป้ายหน้าบ้านของเธอ ที่บอกชื่อยศตำแหน่งของเจ้าของบ้าน เป็นเกราะกำบังอย่างดีที่ทำให้เขาไม่มายุ่งอะไรกับเธออีก
เสี่ยศร
เขากับเธอก็คงจะเจอกันแค่นี้แหละ