บทที่ 5
เมื่อคืนนี้เธอฝันบ้าอะไรกันนะ?
สาวน้อยที่เริ่มรู้สึกตัว ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมา แล้วพบว่าหัวของเธอปวดมาก จนเธอต้องครางออกมาเบาๆ และลูบไปที่ขมับ พร้อมกับนวดมันโดยอัตโนมัติ ก่อนจะพบว่า...มือของเธอสัมผัสโดนผิวของใครบางคน
หืม?
ตาของยิปซีเบิกกว้าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวของเธอกระแทกเข้ากับคางของคนที่กำลังนอนกกเธอ เล่นเอาคนที่นอนสบายถึงกับตื่นเต็มตา เมื่อโดนปลุกเอาเจ็บๆ แบบนั้น
“ห่าเอ๊ย!”
เสียงสบถดังขึ้น แล้วเขาก็ลุกพรวดขึ้นนั่ง คลำคางของตัวเองป้อย คนปลุกเขาด้วยวิธีรุนแรงเองก็ลุกขึ้นนั่ง แล้วมองเขาตาเบิกกว้าง จ้องเขานิ่ง อ้าปากค้าง ราวกับเห็นผี!
“คะ คุณ เป็นใคร”
“อืม..จริงสินะ ลืมแนะนำตัวไปเลยแหะเมื่อคืน ก็เรามัวแต่ทำอย่างอื่นกันนี่นา”
เขาดึงยิปซีไปกอดแล้วจูบหน้าผากมนนั้น พร้อมกับเอ่ยเสียงนุ่ม
“เสี่ยศร...หนูต้องรู้จักผมสิ เพราะหนูบอกกับปูเก้เองว่าอยากลองกับผม ว่ายังไงเมื่อคืน ถูกใจไหมครับ หืม?”
“อะไรนะคะ”
ยิปซีตัวชาไปหมด สมองของเธอหมุนติ้ว กำลังรวบรวมสติให้มาอยู่กับตัว...ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
ปูเก้...
ใคร?
เธอกำลังคิดทบทวน เธอมากับอุไร มาเพื่องานปาร์ตี้วันเกิดแล้วเธอดื่มไวน์ไปสองแก้ว สองแก้วเท่านั้น สองแก้วที่ปรกติแล้วเธอจะยังไม่เมา
แล้วเธอก็ฝัน...ความทรงจำไม่ปะติดปะต่อ ทว่า...มันร้อนแรงซ่านสยิวอย่างเหลือทนสำหรับยิปซี ก็พุ่งเข้ามาปะทะสติเธอ เธอเบิกตาโตมองหน้าเขา พยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนเขา ศรอินทร์เห็นถึงความผิดปรกตินั้น จึงเลิกคิ้ว แล้วถามเธอเสียงขรึมๆ
“เป็นอะไรไปล่ะหนู เมื่อคืนออกจะเต็มใจ เราสนุกกันขนาดนั้นทั้งที่เป็นครั้งแรกของหนู”
“สะ สนุก”
น้ำตาของเธอกำลังจะทะลัก โอ...เมื่อคืนนี้คือเรื่องจริง เธอกับชายแปลกหน้าคนนี้ มีประสบการณ์วาบหวิวมาด้วยกันจริงๆ
เลือดที่เห็นเลอะเปื้อนที่เตียง คราบน้ำรักที่เธอเหลือบตามองเห็น มันตอบได้ทุกสิ่ง
“ผมตกลงรับหนูเป็นเด็กของผม ตั้งแต่วันนี้เลย สัญญาของเราหนึ่งปี”
เขาตะล่อม เห็นอาการของเธอแล้วเดาได้อยู่สองอย่างคือดราม่าเพื่อเรียกร้องความสนใจ กับดราม่าจริงๆ
ถ้าอย่างแรกน้องก็จะหยุดร้องไห้แล้วกอดเขาแน่น เขาจะเสนอราคางามๆ แบบไม่เคยเสนอให้ใคร กับน้องยอมจ่ายเจ็ดหลัก...
ถ้าอย่างหลังเป็นดราม่าจริงๆ ขึ้นมาล่ะ?
ยิปซีมองหน้าเขาด้วยนัยน์ตานองน้ำตา แน่แล้ว...เธอถูกลวงมาให้กับผู้ชายคนนี้ ไม่รู้ว่าอะไรที่ผสมในไวน์แก้วนั้น มันทำให้เธอไม่ขัดขืน แถมยังสนุกไปกับเขาอีกด้วย
เพราะความไม่ระวังตัว และดูเขาก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร...ภารวีถึงบอกว่าโลกใบนี้มันโหดนะ ตอนนี้เธอเชื่อแล้วจริงๆ
เธอสะอื้น...
พร้อมกับผลักเขาออก เสี่ยหนุ่มขมวดคิ้วแน่น ยอมคลายอ้อมแขน ยิปซีก้มหน้าเธอมองไปรอบๆ มองหาเสื้อผ้าของตัวเอง มันถูกแขวนไว้ตรงข้างฝา ชุดนิสิตของเธอ...ถ้าพ่อของเธอรู้ท่านจะโกรธเธอมากขนาดไหนกันนะ แล้วถ้าท่านรู้แน่นอนว่าคนที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้ ต้องเละ...แน่ๆ
แล้วตัวเธอเองไม่รู้ว่าท่านจะทำอะไรไหม? ที่ขัดคำสั่ง นอกลู่นอกทางจนต้องมาเสียหายแบบนี้
“น้องครับ”
ใจคอชักจะไม่ดี เพราะเห็นท่าทีแบบนั้นของเธอ เธอเงียบ เงียบและสะอื้นไปด้วย ห่าเอ๊ย...หรือว่ามันไม่ชอบมาพากล ในเรื่องเมื่อคืนวะ
หรือว่ากูเข้าผิดห้อง?
ถามตัวเองอย่างสับสน หน้าตาก็เป๊ะในรูปที่ปูเก้ส่งให้ แต่อาการมันชักจะยังไง น่าจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิดแล้วสิ
เธอค่อยๆ รวบผ้าห่มขึ้นคลุมตัว ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนกระเถิบกำลังจะลงไปจากเตียงขนาดคิงไซซ์นี่ ลงไปคว้าหยิบเสื้อผ้า เธอจะออกไปจากที่นี่ ต้องไปจากตรงนี้
เสี่ยหนุ่มคว้าเธอไว้ทันก่อนที่ยิปซีจะลงไปจากเตียงนุ่ม แล้วดึงเธอมากอดไว้ ตอนแรกเธอขัดขืน แต่อาการละมุนละม่อมของเขา...กลิ่นไอของเขา อาการอ่อนโยนแม้จะตัวใหญ่โตของเขา มันก็ทำให้เธอยอมอยู่ในอ้อมแขนนั้น
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร...หรือว่าเพราะร่างกายของเธอมันเคยชินกับร่างกายเขาไปแล้ว ถึงได้ยอมให้เขากอดเอาไว้แบบนั้น
“ผมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”
“ปล่อยหนูไปเถอะค่ะ”
พอคลายสะอื้นได้แล้ว เธอก็ตอบเขาไปแบบนั้น เสี่ยหนุ่มกลืนน้ำลาย ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้ จากคนตัวหอมน่าฟัด ที่เขาหลงคลั่งไปแล้วในตอนนี้
เดี๋ยวเขาจะต้องเรียกปูเก้มาจัดการสักหน่อย ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“อยากกลับบ้านเหรอ”
เขาถาม อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบเรือนผมนั่นเบาๆ แค่มีตัวน้องในอ้อมแขน เขาก็รู้สึก...ลงไปก่อนไอ้ศร บุ่มบ่ามจับน้องจัดต่อไม่ได้ ต้องเจรจาให้แน่ใจก่อน ว่าจะเอายังไงกันแน่
“ค่ะ”
ตอบได้เท่านั้น น้ำตาก็จะไหลต่อ เขาเชยคางมนขึ้น ยิปซีหน้าแดงก่ำ เมื่อมองสบตาคมกริบนั่น เธอทั้งกลัว ทั้งอายเขา ความรู้สึกสับสนปะปนกันไปหมดแล้วในตอนนี้
“อย่าร้องไห้...ถ้าเรื่องเมื่อคืนเข้าใจผิด ผมขอโทษนะครับ ขอโทษมากๆ”
“ค่ะ”
น้ำตาของเธอทะลักเลยล่ะ เมื่อเขาพูดแบบนั้น ศรอินทร์ถอนใจเฮือก เขาปาดเช็ดน้ำตาให้เธอด้วยข้อนิ้ว อาการนุ่มนวลของเขา มันทำให้ยิปซีพอจะรับรู้ว่าเธอไม่ได้ตกอยู่ในอ้อมแขนของคนใจร้าย...อย่างน้อยๆ เขาก็อ่อนโยน
ถึงจะหน้าดุมาก...
เธอเห็นหน้าเขาชัดๆ ในตอนนี้ เขาเป็นคนคมเข้ม หน้าติดดุ ตาคมปลาบนั้นมองจับจ้องเธอด้วยสายตาอ่อนโยน มันทำให้เธอใจเต้นตุบๆ ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุเมื่อถูกมองจ้องเอาแบบนั้น ด้วยสายตาแบบนั้น
ศรอินทร์เองก็แพ้ทั้งน้ำตาน้อง และความสวยน่ารักที่เขาเฝ้าคลุกเคล้าดูดดื่มมาทั้งคืน หนักอกหน่วงใจล่ะงานนี้ไอ้ศร...ดูท่าว่าจะไม่ใช่เด็กไซด์ไลน์ธรรมดาเสียแล้ว
“ผมจะไปส่งที่บ้านให้”
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ หนูเอารถมา”
“ลุกไหวเหรอ”
เขาถาม สาวน้อยเม้มปาก เพิ่งรับรู้ถึงอาการปวดเมื่อยไปทั้งตัว ราวกับว่าไปวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน โดยเฉพาะตรงนั้น มันปวดตึบๆ อย่างบอกไม่ถูก ขยับตัวนิดหน่อยก็ต้องนิ่วหน้า เพราะมันเจ็บร้าว
เธอได้ยินเสียงถอนใจ แล้วก็ต้องรีบปิดตาเมื่อเขาลุกขึ้นจากเตียง สภาพของเขาเปลือยทั้งตัว เขาตัวโต...สูงใหญ่ มัดกล้ามแน่นไปหมด ร่างกายของเธอร้อนวูบวาบ ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อเกิด
อะไรกันนะยัยซี หรือว่าเพราะสิ่งที่ดื่มเข้าไปเมื่อคืนจนเตลิดไปกับเขา ฤทธิ์ของมันยังตกค้าง เธอถึงได้รู้สึก...อะไรแบบนี้ขึ้นอีก
อย่างน้อยเมื่อคืนเธอก็ไม่ได้โดนข่มขืน...
แก้มสาวแดงจัด ภาพการคลุกเคล้าจูบกอดจากเขา แม้ไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ทำให้เธอร้อนวูบวาบมากขึ้น
ขณะที่กำลังคิดเลอะเทอะอยู่คนเดียว ก็ต้องร้องกรี๊ดอย่างตกใจ เมื่อเขาช้อนเธอขึ้นอุ้ม สาวน้อยตกอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งนั้น ศรอินทร์พยายามมองแค่หน้าหวานๆ นั่น ไม่มองต่ำไปยังเรือนร่างสะคราญสะท้านใจของยิปซี
“ปล่อยหนู ยะ อย่า อย่าทำแบบนั้นกับหนูอีกเลยนะคะ”
เธอละล่ำละลัก ด้วยขนาดของร่างกายเธอสู้กับเขาไม่ได้แน่ ถ้าเกิดเขาจะทำอีก ยิปซีเลยขอร้องเขาดีๆ ศรอินทร์ถอนใจเฮือกใหญ่ ก้มลงจูบหน้าผากมนเบาๆ แล้วเอ่ยเสียงนุ่ม
“ผมไม่ทำแล้ว ผมจะพาหนูไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจะพาไปส่งที่บ้าน”
“หนูอาบเองก็ได้ค่ะ มะ...ไม่ต้องอาบให้”
เธอซุกหน้ากับอกเขา อายจะตายแล้วตอนนี้ ที่จะต้องมาเปลือยเปล่าอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายที่เธอไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ...เสี่ยศร จริงสิ เขาบอกกับเธอว่าชื่อเสี่ยศร
“อาบไหวหรือ ผมจะอาบให้เฉยๆ ไม่ทำอะไรหรอก”
“ขอร้องนะคะ”
เธอทำเสียงอ่อย ศรอินทร์จำต้องปล่อยเธอที่หน้าห้องน้ำ เธอรีบเข้าไปแล้วปิดประตูดังปัง เขาได้ยินเสียงครางเบาๆของสาวน้อย คงจะเจ็บนั่นแหละ...ก็เขาธรรมดาที่ไหน แถมเมื่อคืน ก็ซ้ำไปอีกตั้งหลายยก
“เจ็บใช่ไหม?”
หน้าของยิปซีแดงซ่าน เจ็บจริงๆ นั่นแหละยามขยับเดิน ตรงนั้นมันเหมือนกับถูกแหกแยกออกจากกันแรงๆ
“อาบน้ำไหวไหมคะ?”
ผู้ชายหน้าดุ ตัวโตยังกับหมี แต่กลับพูดลงท้ายด้วยคะ ฟังแล้วน่ารักจัง...
งื้อ เธอควรจะกลัวเขามาทำมิดีมิร้ายซ้ำอีกมากกว่า จะมาคิดว่าเขาน่ารัก
“วะ ไหวค่ะ”
“เสร็จแล้วเรียกผมนะ”
“ค่ะ”
เธอรีบล้างหน้า เห็นมีแปรงฟันที่ยังไม่ได้แกะใช้อยู่ในแก้วพลาสติกเลยถือวิสาสะแกะออกมาใช้ เธอเร่งมือทำธุระส่วนตัว เขาเคาะประตูอีกหน
“เสร็จหรือยังครับ เจ็บไหม ไหวไหมหนู”
“เสร็จแล้วค่ะ คุณส่งเสื้อผ้ามาให้หนูที่หน้าประตูนี่ก็ได้ ชุดของหนูแขวนอยู่...ตรงข้างตู้เสื้อผ้า”
“แต่หนูไม่มีชั้นในเลยนะครับ ผมทำขาด”
คำย้ำนั้นเล่นเอายิปซีหน้าแดงซ่าน
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ”
เขาแง้มประตูแล้วยื่นส่งเสื้อผ้าให้เธอและผ้าขนหนู เธอรับมาก่อนจะรีบแต่งตัว เสียงร้องอูยเบาๆ ดังขึ้นเมื่อเธอขยับขาเพื่อใส่กระโปรง ประตูห้องน้ำก็เปิดผัวะออกมา พร้อมกับคนตัวโตที่ยืนตระหง่านตรงนั้น ยิปซีร้องกรี๊ดอย่างตกใจ แล้วรีบดึงกระโปรงขึ้นมาบังส่วนสาวจากสายตาเขา
“เจ็บหรือครับ? ผมได้ยินเสียงหนูคราง...”
“เอ่อ...”
ยิปซีสั่นหน้าดิก แล้วต้องร้องอย่างตกใจอีกหน เมื่อทางนั้นคว้าขึ้นอุ้ม พาไปนอนบนเตียง ถลกกระโปรงของเธอขึ้น จับเธอแยกขาออก ก้มลงมองส่วนนั้นด้วยสายตาคมเข้ม...สำรวจ
ตายแล้ว...
จะดิ้นก็ไม่ได้เพราะท่าล็อคตัวของเขา เธออายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว ได้แต่เอาท่อนแขนปิดตา แล้วเม้มปากแน่น หน้าแดงตัวแดงเพราะความอับอาย
“อื้อหือ มันช้ำมากเลย โถ แดงไปหมดเลย ผมทำหนูเจ็บมากใช่ไหมคะ?”
“ปล่อยหนูไปเถอะค่ะ คุณอย่าทำแบบนี้ หนูอาย”
แล้วเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้น จึงปล่อยเธอจากท่าแสนสยิวนั่น แล้วดึงเธอมากอดปลอบ
“โอ๋ๆ”
เสียงจุ๊ปากดังขึ้น แล้วเอาเธอไว้แนบอก เฮ้อ...ทำไมเขาทำอะไรแบบนี้กับเธอไม่หยุดเลย
ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาน่ารัก...แง้...ทั้งที่ควรจะกลัวจะโกรธ ที่เขาทำอะไรต่อมิอะไรกับเธอขนาดนั้น กลับมารู้สึกว่าเขาน่ารัก
ผู้ชายแปลกหน้าที่ได้พรากพรหมจรรย์เธอในสถานการณ์ที่เธอไม่ควรจะคิดว่าเขาน่ารัก...
หยุดคิดแบบนี้ได้แล้วนะยิปซี
เธอกับเขาจะไม่เจอะเจอกันอีกแล้วล่ะต่อไปนี้