บทที่ 5
“ตายผีตายทะเล”
เสียงอุทานของนังฟ้าดังขึ้นเมื่อฉันเล่าจบ ตอนนี้ฉันเปลี่ยนเป็นสวมอีแตะ ส่วนรองเท้าส้นเข็มคู่นั้น ฉันทิ้งมันลงขยะอย่างไม่ไยดี เพราะความโมโห ผมที่ทำเป็นลอนสวยมาใช้ปากกาเสียบไว้ลวกๆ เป็นมวยที่ท้ายทอย แม้จะยังสวมเสื้อผ้าแสนเซ็กซี่อยู่ก็ตามที แต่มันจะมีความหมายอะไร ในเมื่อกลายเป็นตัวตลกในสายตาของหนุ่มในฝันไปแล้วเรียบร้อย แถมเขายังนั่งขำฉันเป็นวรรคเป็นเวรตลอดเช้า จนกระทั่งบ่ายถึงเลิกได้ ไม่ได้ว่าเลิกขำหรอกนะคะ แต่เขาไม่ได้อยู่ในห้องทำงานกับฉันแล้วต่างหาก
โทรมาสั่งงานก็ยังหัวเราะหึๆ แถมแซวฉันด้วย คนใจร้าย...
“เออ...”
“สรุปแล้วการแต่งตัวเซ็กซี่ไม่ได้ผล?”
“ไม่ได้ผลอะไรเลย แถมปากแตกด้วยย่ะ”
“ต๊าย” นังฟ้าอุทานเสียงสูง ส่วนฉันได้แต่ถอนใจ มันจะสำเร็จไหมนี่ ขนาดยามยังตะลึงกับความงามของฉันจนจำไม่ได้ แต่ดูตาบอสบ้านั่น ดันหัวเราะฉันเสียอย่างนั้น เฮ้อ...สนใจกับความเปลี่ยนแปลงของฉันบ้างได้ไหมคะบอสขา...
แต่ถ้าจะให้ถอย ให้ยอมแพ้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่อารยาน่ะสิ งานนี้ต้องลุยต่อไป ฮึบๆ
แผนการได้ผู้ชายหมายเลขสอง...
แผนการแรกต้องเรียกได้ว่า เป็นแผนการที่เสี่ยงถึงเลือดถึงเนื้อมากเลยค่ะ ก็ปากแตกได้แผลไปหลายวันน่ะสิคะ แม้ว่านังฟ้าจะเคี่ยวเข็ญว่าเป็นผู้หญิงห้ามหยุดแรด วันแรกแรงแล้วต้องแรงต่อไป แต่ฉันก็ขอบายก่อนชั่วคราว เสื้อผ้าแบบแสนเอ็กซ์ทั้งหลายเรียงรายอยู่ในตู้ให้เจ็บใจเล่น เพราะฉันยังคงหยิบชุดเดิมๆ มาใส่ ยามหน้าบริษัทจำฉันได้แล้วล่ะค่ะ แถมมายิ้มแปลกๆ ส่งตาหวานให้เสียด้วย รวมถึงพนักงานชายอีกหลายคน ถ้าฉันไม่ได้อุปปาทานไปเอง
ราวกับเห็นลูกเป็ดขี้เหร่ ถอดรูปให้ดูชั่วคราวหรือยังไงก็ไม่รู้ แหม...ฉันทำงานที่นี่มาตั้งห้าปี พอวับๆ แวมๆ หน่อยก็มาเห็นฉันสวยขึ้นมาเชียวพวกนี้ ยกเว้นอยู่คนเดียว...บอส
“ไม่ใส่ชุดวันนั้นอีกแล้วหรือ คุณอา” บอสถามขณะที่นั่งรถกลับมาจากไปพบลูกค้าด้วยกัน ฉันหันค้อนขวับอย่างลืมตัว ก่อนจะทำหน้าเชิด
“ไม่แล้วล่ะค่ะ”
“วันนั้นนึกยังไงขึ้นล่ะ ถึงได้แต่งตัวเสียสวยเลย ผมงี้ตกใจหมด”
“ก็...ไม่นึกยังไงหรอกค่ะ พอดีเพื่อนเอ่อ...” ตอแหลอะไรดีนะนังผึ้ง เอาแบบนี้ก็แล้วกัน
“เปิดร้านเสื้อผ้า ก็เลยเอามาให้ลอง ฉันเปลี่ยนกลับไม่ทัน เลยมาทั้งแบบนั้น”
“ว้า...”
บอสถอนใจใหญ่ เล่นเอาฉันหันไปมองเขาอย่างมีความหวัง หรือเขาเห็นว่าฉันดูดีในเสื้อผ้าพวกนั้นขึ้นมา
“ทำไมหรือคะ หรือว่าบอสชอบให้ฉันแต่งแบบนั้น”
“ผมว่าอย่าดีกว่า”
เขาอมยิ้ม นัยน์ตาสีสวยเป็นประกายแพรวพราว ทำให้ใบหน้าหล่อคมเข้มนั่นยิ่งน่ามอง...น่ากิน...เคลิ้ม....
“ทำไมละคะ”
ฉันทำเสียงเขียว แอบเคลิ้มไปแป๊บเดียวกับยิ้มชวนละลาย ก็กลายเป็นโมโห ก็เขาทำยังกับฉันเป็นตัวตลก
“ขี้เกียจพยาบาลคุณอา เดี๋ยวล้มจับกบแข้งขาหักไปจะยุ่ง ใส่ฟิตๆ แบบนั้นหายใจหายคอไม่ออกกันพอดี”
เขาหมายถึง...เอ...หมายถึง อะไรหรือเปล่า ถึงได้ว่าฉันจะหายใจไม่ออก มองหน้าหล่อๆ นั่นคนพูดก็ก้มลงเล่นไอโฟนในมือเสียนี่
สรุปว่าเค้าไม่ชอบให้ฉันแต่งตัวสวย เฮ้อ...ไม่ผ่านสินะ
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องแผนสอง”
นังฟ้า กุนซือว่าด้วยการเสียจิ้นทำเสียงแหลม ฉันขมวดคิ้ว ก่อนจะคิดสะระตะว่าแผนแรกของแม่นี่ทำให้ฉันสูญเงินไป...หลายหมื่น! และทุกชุดก็ยังนอนพริ้มอยู่ในตู้เสื้อผ้าของฉัน
“แผนอะไรอีกล่ะ เสียตังไม่เอาแล้วนะ ไม่ซื้ออะไรแล้วนะยะ”
“ไม่ต้องซื้ออะไรหรอกน่า แค่แกหลอกบอสแกไปดริ๊งค์ด้วยหลังเลิกงาน อ้างว่าวันเกิด วันแก่อะไรก็ได้ โอเคปะ”
“แล้วก็มอม”
ฉันทำตาโต รู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเพื่อนรักจะให้ทำอะไร นังฟ้าขยิบตาให้ พลางพยักหน้า
“จัดไป”
“จะไหวเหรอนังฟ้า”
“ไหวสิยะ ระดับเบียร์ค่อนลังยังไม่น็อคอย่างหล่อนน่ะ มอมผู้ชายสบายม้าก”
นังฟ้าทำเสียงสูง ก็รู้ดีกรีกันดีนี่คะ
อืม...แผนนี้ชักจะเข้าท่า
“แล้วก็เวลาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปน่ะ มันจะทำให้ต่อมแรดมันทำงานนะแก ฉันจะบอกให้”
“ต่อมแรด นี่แกเรียนกายวิภาคจากสถาบันไหนมาล่ะนี่”
อดแขวะเอาไม่ได้ นังฟ้าค้อนขวับเลยทีเดียว
“หรือแกจะไม่เห็นดีเห็นงามยะ นังผึ้ง”
“ก็...”
ฉันอมยิ้ม แผนนี้แบบว่า...เข้าท่ามากกว่าแผนแรกอีกนะคะ คือเมาๆ มึนๆ มันคงจะแบบว่า...หน้าด้านกว่าตอนดีๆ เยอะ
“ฉันตกลงทำ”
เริ่มปฏิบัติการมะรืนเลยก็แล้วกัน อารยา ฮุย เล ฮุย!