อย่ายั่วหนู บทที่ 1
“ผักกาดรู้ไหมว่ามีใครมา?”
เสียงสั่นๆ ด้วยความตื่นเต้นของพี่สาว ทำให้หญิงสาวที่กำลังสาละวนกับการแต่งหน้าขนมเค้กหันขวับไปมอง แล้วขยับแว่นเล็กน้อย อย่างจะมองให้ชัด
“อะไรน่ะพี่ผักโขม ใครมา? เคอรี่สุดหล่อคนนั้นรึเปล่า”
“โอ๊ย”
แก้วบุหลันหัวเราะชอบใจ แล้วเดินไปใกล้น้องสาว ก่อนจะดึงเอาที่บีบครีมออกจากมือของแก้วกุดั่น ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเบาๆ อย่างหยอกเย้า
“ถ้าเคอรี่คนนั้น ไม่มาบอกหรอก จะเก็บไว้มองเองให้หนำใจ ที่พี่ตื่นเต้นอะ เพราะว่า”
แล้วก็ทำหน้ามีเลศนัย จนน้องสาวต้องทำตาโตใส่ พลางทำท่าไม่สนใจหยิบเอาที่บีบครีมขึ้นมาเพื่อจะแต่งหน้าเค้กต่อ ทำให้คนช่างแหย่โวย
“แหมสนใจกันหน่อยสิ ยัยผักกาดนี่พี่น่ะวิ่งแนบมาจากบ้านลุงเป๊กนี่ เพื่อมาบอกข่าวดีเลยนะยะ สนใจกันหน่อย”
“ข่าวอะไร แล้วทำไมพี่ผักโขมไปทำอะไรบ้านลุงเป๊ก ไปแอบสั่งเหล้าหรือไง?”
เธอแกล้งว่า แต่ใจเต้นเบาๆ แค่พี่สาวเอ่ยถึงบ้านนั้น
อา...
จะใจเต้นทำไมนะเรา
“บ้าเหรอ พี่ไป...” พูดแล้วก็หน้าแดง แต่ก็แกล้งผิวปาก
“เอาน่ะอย่ารู้เลย แต่รู้ไหมว่าพี่เห็นใคร”
“อื้อ...ลีลาจัง เห็นใครก็บอกมาสิ”
“พี่นัท”
“อุ๊ย!”
แค่ชื่อของเขา ก็ทำเอาแก้วกุดั่นทำที่บีบครีมตก แล้วยังปัดเค้กจากฐานหล่นปุ๊ มากองที่พื้น เละ...
“พี่ผักโขมอะ ทำหนูตกใจ ดูสิ เค้กพังหมด หมดกันแล้ว หนูต้องเร่งมือส่งลูกค้าด้วย ออกไปเลยนะ ออกไป”
“เอ้า อะไรกันน่ะยัยผักกาด ไม่ดีใจเหรอที่พี่นัทกลับมาจากนอกแล้วอะ”
แก้วกุดั่นแสร้งทำหน้าดุ ขยับแว่น แล้วชี้นิ้วไปที่ประตู พร้อมกับเอ่ยเสียงแข็ง
“ออกไปเลยนะพี่ผักโขม แล้วไม่ต้องมากวนหนูอีก ไปเรียกลุงป้อมมาให้ด้วย จะได้ไปส่งลูกค้าทัน หนูมีเวลาอีกแค่สองชั่วโมงกับการอบเค้ก แต่งหน้าใหม่ อ้อ...แล้วหนูจะหักส่วนนี้ไว้ด้วย เพราะถือว่าพี่ผักโขมทำเสียหาย
“อะ อ้าว”
พี่สาวได้แต่อ้าปากหวอ ทำตาปริบๆ แต่ก็ยอมจากไปแต่โดยดี งงนิดๆ ที่ทำไมน้องสาวถึงไม่ได้ตื่นเต้น ดีใจอะไรเลยสักนิด ที่ได้ยินชื่อของเขา ได้รู้ว่าเขากลับมาแล้วแบบนั้น
เธอรู้หรอกน่าว่าแม่น้องสาวตัวดีน่ะ ปากแข็งไปอย่างนั้น ทำเมินแบบนั้น จริงๆ แล้วก็ต้องมีหวั่นไหวอะไรบ้างนั่นแหละ
ก็ณัฐฐาน่ะ คือผู้ชายในดวงใจหนึ่งเดียวของยัยผักกาดนี่นา
รักแรกแบบนั้น
จะลืมได้ยังไงล่ะ รักแรก แฟนคนแรก ในวัยสาว ถ้าลืมลงจริงๆ ยัยผักกาดคงจะมีแฟนใหม่ไปแล้วล่ะหนอ
พี่นัทกลับมาแล้ว...
แค่ได้ยินชื่อเขา ก็สติเตลิดเบาๆ จนทำเค้กเสีย
ชิ!
จะกลับมาทำไมกันนะ ไม่มีแฟนใหม่ไปเลยล่ะ เลิกกับยัยคนนั้นไปแล้วไม่ใช่เหรอ
ชิ!
จะกลับมาทำไมกันนะ หรือจะกลับมาดีกับยัยคนนั้น หึ...ก็ดี แต่งงานกันไปเลย มีลูกกันไปเลย ไปอยู่กันให้ไกลๆ ที่นี่เลยยิ่งดี
แก้วกุดั่นถอดแว่นหนาเตอะของตัวเองออก เผยให้เห็นนัยน์ตากลมโต สีน้ำตาลคาราเมลประดับด้วยขนตาดกหนาของเจ้าตัว หล่อนมีไฝใต้ตาเม็ดเล็ก ทำให้มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ จมูกโด่งปลายเชิดน้อยๆ บอกว่าเธอมีนิสัยรั้นนิดๆ ริมฝีปากอิ่มหนาสีชมพูเรื่อ ประดับบนใบหน้ารูปหัวใจ หล่อนมีแก้มนิดๆ เพราะไม่ใช่คนผอมมาก แก้วกุดั่นเป็นคนตัวเล็ก สูงแค่ 153 เซนติเมตร รูปร่างอวบอัด หน้าอกหน้าใจไม่เบาของเธอในขนาด 36คัพซี มักจะเป็นเป้าสายตา ที่เธอไม่เคยคิดชอบ แต่ก็จนใจเพราะอยากไปตัดออกก็ไม่มีปัญญา
ความเป็นคนทำขนมหวาน ทำให้ต้องชิม ต้องกิน และแอบฟินกับมันเกือบทุกวัน ไม่มีทางที่เธอจะมีหุ่นผอมเพรียว แม้จะออกกำลังสม่ำเสมอ แต่เธอก็จัดอยู่ในกลุ่มสาวอวบ ด้วยน้ำหนักที่เกินมาตรฐานมาสามกิโลกรัม พุงน้อยๆ นี่ที่ออกกำลังยังไงก็ไม่ยอมยุบ แต่เอาเถอะ เลี้ยงไว้ก็แล้วกัน เฮ้อ...จนปัญญาเอาออกแล้ว
เธอเป็นคนหน้าตาน่ารัก ตรงกันข้ามกับพี่สาว ที่จัดได้ว่าเป็นสาวสวยเลยล่ะ แก้วบุหลันหน้าตาคมสวยกว่าเธอ รูปหน้าเป็นรูปไข่ ตากลมโตตวัดเฉียงเล็กน้อย จมูกโด่งแหลม ปากของเธอเท่านั้นที่คล้ายน้องสาว หุ่นของแก้วบุหลันผอมเพรียวกว่า แถมยังสูงกว่าแก้วกุดั่น สองพี่น้องหน้าตาคนหนึ่งเหมือนพ่อ คนหนึ่งเหมือนแม่อย่างเห็นได้ชัด
แก้วบุหลันคือสาวฮอต
ส่วนแก้วกุดั่นคือสาวคูล
สองสาวที่ตอนนี้อยู่ด้วยกันตามลำพัง เพราะบิดากับมารดาเสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อนจากอุบัติเหตุ แก้วกุดั่นเปลี่ยนสาขาที่เรียนอยู่มาเรียนเกี่ยวกับการทำขนม ทำอาหารเบอเกอรี่เต็มตัว เธอเลิกเรียนมหาวิทยาลัย ให้พี่สาวได้เรียนต่อคนเดียว เพราะแก้วบุหลันผลการเรียนดีกว่าเธอมาก การเรียนในมหาวิทยาลัยต้องใช้เงินมาก เธอจึงเป็นคนเสียสละ เงินประกันชีวิตของบิดาและมารดาที่ทำไว้ เธอจัดสรรไว้อย่างเรียบร้อย ทั้งส่วนของตนเองและพี่สาวอย่างยุติธรรม
ขาดพ่อขาดแม่ตั้งแต่อายุยังอยู่ในวัยที่กำลังเรียน มันทำให้แผนอนาคตของเธอเปลี่ยน เธอตกลงกับพี่สาวว่าจะไม่เรียนต่อ อยากทำตามความฝันของตนเองอย่างทำขนมขายตามคำแนะนำของรุ่นพี่คนหนึ่ง ที่คอยช่วยเหลือดูแลเธอเป็นอย่างดี
เธอเปิดร้านเล็กๆ ที่แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านมาตกแต่งทำร้าน ลงทุนอย่างระมัดระวัง แก้วบุหลันห้ามน้องเพราะอยากให้น้องเรียนให้จบ แต่เมื่อเห็นว่าห้ามไม่ได้ และแก้วกุดั่นช่างมุ่งมั่นเหลือเกิน เธอก็ยอมน้อง แล้วก็ช่วยน้องสาวเท่าที่จะช่วยได้ เพราะรู้ว่าส่วนหนึ่งที่น้องสาวทำแบบนี้ก็เพราะอยากให้เธอเรียนไปจนรอดถึงฝั่งนั่นเอง
แก้วกุดั่นถอนใจ นวดดั้งจมูกเบาๆ แล้วเลยไปนวดขมับ มันปวดตุบๆ อา...หวังว่าเธอคงจะไม่อาการมายเกรนกำเริบนะ
เธอเครียดใช่ไหม?
เหอะ!
ทำไมจะต้องเครียดล่ะ ในเมื่อตัดขาดกันไปแล้ว
เธอทำหน้าเชิด
แล้วถ้าเขาแวะมาล่ะ...
เธอถามตัวเอง
มือกำเข้าหากันจนแน่น ก่อนที่จะตอบตัวเองออกมาด้วยเสียงเบาแต่หนักแน่น
“เราไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแล้วนะ ยัยผักกาด เรากับเขาแค่อดีต เราควรจะมูฟออนรึเปล่าวะ...”
บอกกับตัวเองไว้แบบนั้น
แต่จะทำได้ไหมล่ะ
ให้คุกกี้ทำนายดีไหม?