บทย่อ
ซีรีส์โคแก่ ประกอบด้วย 1. สาวน้อยของอาเกื้อ 2. สาวน้อยของลุงสิงห์ 3. ลูกหนี้เนื้อหวาน 4. คุณอากรุบกริบ
1
โคแก่ เล่ม 1 คุณอากรุบกริบ ตอนที่ 1
Chapter 1
ใยไหม อินทุภา หญิงสาววัย 22 ปี กำลังนั่งเศร้าๆ เหงาๆ อยู่ในผับชื่อดังของตัวเมืองใหญ่ซึ่งเป็นจังหวัดทางปักษ์ใต้ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยแต่ไม่เท่าหัวใจดวงน้อยที่เจ็บปวดคล้ายโดนมีดเชือดเฉือนอยู่ทุกขณะจิต
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แย่งแฟนไปต่อหน้าต่อตา แต่ที่ทำให้เธอเจ็บลึกเข้าไปในจิตใจก็คือแฟนที่คบกันมาเกือบสี่ปีก็นอกกายนอกใจลับหลังเธอไปแอบกินกันกับเพื่อนที่พูดจาดีเป็นห่วงเป็นใย จิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง รอยยิ้มพิมพ์ใจ น้ำคำแสนหวานเป็นเพียงแค่ภาพมายาหลอกตา แต่จิตใจกลับคิดคดทรยศหักหลัง
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ ความเสียใจหลั่งไหลเข้ามาในห้วงความคิดคำนึง เฝ้าถามย้ำตัวเองว่าทำอะไรผิด ทำไมคนที่รักถึงสองคนจึงได้หักหลังกันอย่างเลือดเย็นเช่นนี้
เสียงหัวเราะขบขันอย่างคุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลัง เธอเงี่ยหูฟังประโยคเสียดแทงจิตใจแล้วเม้มปากเข้าหากันแน่น เธอไม่ได้เมาจนขาดสติแม้จะมึนๆ แต่ก็รับรู้ได้เลยว่าคนที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนๆ อย่างออกรสเป็นติรกาญจน์อดีตเพื่อนรักของเธอนั่นเอง
“โอ๊ย! นางใยไหมโง่จริงๆ เลยพวกแก ฉันน่ะไม่ได้อยากจะเป็นเพื่อนรักกับมันหรอก แต่ฉันน่ะแอบชอบณุมานานแล้วก็เลยเข้าไปตีสนิทเป็นเพื่อนกับมัน ณุน่ะเป็นผู้ชายที่ดี น่ารักเทคแคร์ดูแลฉันดีมากๆ เลย เราแอบไปกินกันลับหลังยายไหม นางนั่นก็โง่ไม่รู้ แถมมาปรึกษาตีโพยตีพายร้องไห้ฟูมฟามว่าแฟนเปลี่ยนไป ไม่มีวัวผสมเลยแก ควายล้วนๆ”
“แบบนี้เองใช่ไหม” คนเอ่ยถามตัวสั่นระริก ติรกาญจน์ตกใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้มเยาะ
“อ้าว... สวัสดีจ้ะไหม มานั่งหัวโด่อยู่ตอนไหนเหรอไม่เห็นเลย”
“เธอนี่มันสารเลวจริงๆ เลย ตายเสียเถอะ” ใยไหมไม่อยากฟังอะไรแล้วเธอพุ่งเข้าไปตบนางเพื่อนทรยศเต็มฝ่ามือ
เพี้ยะ!!! เสียงแก้มซ้ายโดนฝ่ามือทั้งห้าฟาดดังสนั่น ติรกาญจน์หันขวับมามองก่อนจะจิกผมของอีกฝ่ายฟาดฝ่ามือกลับไปบ้าง
เพี้ยะ!!! ใบหน้าของใยไหมหันไปตามแรงตบ
“พวกแกจับนางไหมเอาไว้ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับฉัน มันต้องเจอแบบนี้” เพื่อนของติรกาญจน์จับตัวใยไหมเอาไว้ ก่อนจะฟาดมาเต็มใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มแรง
เพี้ยะ!!!
“สมน้ำหน้า นางหน้าโง่ อยากโง่เองแล้วแฟนที่แสนดีของแกตอนนี้ก็เป็นอดีต เขาเป็นของฉัน จำใส่สมองกลวงๆ เน่าๆ ของแกเอาไว้” ติรกาญจน์อิจฉาเพื่อนคนนี้จับใจ รวยก็รวยกว่า เพื่อนๆ ก็รุมรักมากกว่า
“กาญจน์ณุมาแล้ว” เพื่อนอีกคนในกลุ่มของติรกาญจน์ตะโกนบอกว่าวิษณุเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว ติรกาญจน์จึงดึงร่างของใยไหมมาคล่อมทับร่างของตัวเองก่อนจะจับมืออีกฝ่ายมาตบ
“โอ๊ย! ช่วยด้วย ไหมอย่าทำกาญจน์เลยนะ กาญจน์กลัวแล้ว โอ๊ย! เพี้ยะ!”ใยไหมได้แต่อึ้งไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำเช่นนี้ และไม่รู้ด้วยว่าทำไปทำไม แต่พอเธอโดนกระชากออกด้วยฝีมือของอดีตคนเคยรักนั่นแหละถึงรู้ว่าทำไม
“นี่ทำอะไรน่ะไหม ทำร้ายกาญจน์ทำไม” วิษณุตวาดกระชากร่างของใยไหมออกก่อนจะผลักจนเซ
“หน้าโง่ ยายนี่มันมารยาสาไถ” ใยไหมร้องบอก แต่วิษณุส่ายหน้าไปมาเขาหันไปประเล้าประโลมแฟนสาว ใยไหมมองแล้วเม้มปาก เธอเสียใจและเสียใจหนักกว่าเดิม ตอนนั่งดื่มเงียบๆ ไม่เห็นว่าคนทั้งสองและกลุ่มเพื่อนมากันตอนไหน ไม่คิดเลยว่าจะโชคร้ายมาเจอคนหน้าไหว้หลังหลอกสองคนที่นี่
ถามว่ายังรักวิษณุอยู่ไหม เธอตอบได้เลยว่าไม่ แต่เสียใจมากกว่าที่เขาทรยศหักหลังและหันไปคบกับเพื่อนของเธอแทน ต่อหน้าพูดดีลับหลังทุเรศด้วยกันทั้งคู่
“ก็เข้ากันดีเหมือนผีเน่ากับโลงผุ” “นี่เธอพูดอะไร” วิษณุเริ่มไม่ชอบใจ ตอนแรกก็รู้สึกผิดที่เขาทรยศหักหลังใยไหม แต่เห็นความใจร้ายของอีกฝ่ายเขาก็เลยคิดว่าทำถูกแล้วที่เลิกกับผู้หญิงใจร้ายแบบนี้ไปได้ ดีนะที่เธอเผยธาตุแท้ออกมาให้เขาเห็นเสียก่อน
“อีกตัวปั้นน้ำเป็นตัว อีกตัวก็ควายล้วนๆ ไม่มีวัวผสมเลย ก็เข้ากันดี” เธอพูดอย่างคั่งแค้น ถามว่ารักวิษณุมากไหม มันเป็นความผูกพันมากกว่า เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน เธอไม่ได้เสียดายผู้ชายชั่วๆ เลวๆ ทรยศหักหลักแบบนี้หรอก
“นี่เธอ” วิษณุเริ่มโมโหบ้างเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังด่าตน
“ณุอย่าเลยนะคะ สงสารไหมเขา เขากำลังเครียด กำลังทุกข์ ไหมจ๋าอย่าโกรธเราสองคนเลยนะ เรารักกัน ฮึกๆ ฮือๆๆ แล้วอย่าตามรังควานเราอีกเลย เราสองคนขอโทษ” ติรกาญจน์รีบบอกร้องไห้สะอึกสะอื้น
“เก็บคำขอโทษตอแหลของแกเอาไว้เถอะ” เกิดมาเธอไม่เคยพูดหยาบคายแบบนี้กับใครมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก ทนไม่ไหวกับความตอแหลของติรกาญจน์จริงๆ
“นี่จะมากไปแล้วนะ” วิษณุทนไม่ไหวที่ติรกาญจน์โดนด่าแบบนี้
“ไม่มากไปหรอกกับสิ่งที่เธอสองคนทำเอาไว้กับฉัน” ใยไหมพูดอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ ถ้าไม่รักกันแล้วมาบอกกันดีๆ เธอก็เข้าใจ แต่แอบทรยศหักหลังแล้วให้คนอื่นมาหัวเราะขบขันลับหลังแบบนี้เธอรับไม่ได้จริงๆ
“ผู้หญิงแบบเธอไม่มีใครเอาหรอก ปากร้ายก็เท่านั้น แถมยังใจร้ายอีก” เพื่อนของติรกาญจน์พูดขึ้น นั่นทำให้ใยไหมโมโหจัด
“ใครบอกว่าไม่มีใครเอา วันนี้ฉันมากับแฟนใหม่ โน่นไง” คนเมาเดินไปคล้องแขนคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำและกำลังจะกลับ คนที่โดนคล้องแขนสะดุ้งที่มีผู้หญิงมากอดมาซบ
“คนนี้แหละแฟนฉัน เป็นว่าที่สามี เป็นว่าที่พ่อของลูกในอนาคต ไปกันเถอะค่ะที่รัก เรากลับกันดีกว่า ชิ!” เธอหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ ก่อนจะควงแขนเขาเดินออกไปนอกร้าน
วิษณุมองตามไปแล้วเม้มปากเข้าหากัน เขาเคยขอใยไหมว่าให้คบกันสามคน เพราะเขารักใยไหมแล้วก็รักติรกาญจน์ด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้นเขาได้เสียกับติรกาญจน์ไปแล้ว แต่ใยไหมด่าเขาว่าหน้าตัวเมีย นั่นเลยทำให้เขาแค้นหนัก
เขายังจำได้ดีที่เธอพูดว่าถึงเขาเป็นผู้ชายคนเดียวในโลก เธอก็จะไม่เอาทำพันธุ์ ทั้งเสียหน้าและโมโหอยากเอาชนะ จริงๆ เธอต้องอ้อนวอนเขาให้กลับไปคืนดีสิ แต่เธอกลับเมินเขาด่าเขาเหมือนหมูเหมือนหมา
“ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ” พอออกมานอกร้าน เธอเห็นว่าไม่มีใครตามมา ใยไหมจึงรีบยกมือไหว้เอ่ยขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ ชายหนุ่มร่างสูงที่เธอถือวิสาสะอ้างว่าเขาเป็นแฟนยืนมองเธออึ้งๆ
ดนุเดช คุณารักษ์ หนุ่มวัยสามสิบเก้าปีมองเด็กสาวไม่วางตา เธอขอโทษถอยไปจนชนกับรถที่จอดอยู่ด้านหลัง ใบหน้าเหยเก ก่อนจะหนีขึ้นรถอีกคันขับไปหน้าตาเฉย
“เฮ้ย! ไอ้เดชสาวที่ไหนวะควงแกออกมาจากผับเมื่อครู่” นพฤกษ์เอ่ยถามเมื่อเดินตามเพื่อนออกมานอกผับ
“ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยเมา กลับกันเถอะ” เขาหันไปตอบเพื่อนรักทั้งสามก่อนจะแยกย้ายกันกลับวันนี้มีดื่มสังสรรค์กันนิดหน่อย แต่ไม่ได้เมาหนักจนขับรถกลับบ้านไม่ไหว เขาเองก็มีสอนหนังสืออีกในวันพรุ่งนี้
เขาย้ายจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ มาเป็นอาจารย์พิเศษอยู่มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นบ้านเกิดของบิดามารดา จึงมาซื้อบ้านมือสองที่คนรู้จักขายให้ในราคาพิเศษในหมู่บ้านไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก
ทางด้านติรกาญจน์ที่อยู่ในผับหน้าหงิกงอเมื่อเห็นกิริยาของแฟนหนุ่ม แม้จะพยายามระงับอารมณ์เต็มที่ขนาดไหนก็ทนไม่ไหว
“อยากจะตามใยไหมไปเหรอคะ” คนถามมีสีหน้าน้อยอกน้อยใจแต่จริงๆ เดือดปุดๆ เธอไม่ชอบเห็นใครดีกว่าตัวเอง