ซีรีส์หวามหวาน เล่ม 1 หวามหวานรัก ตอนที่ 4
Chapter 4
เขาต้องเลี้ยงน้อง น้าสาวกับน้าเขยมาทีไร ต้องรับหน้าที่ดูแลน้อง เพราะผู้ใหญ่จะคุยกันนานๆ
จริงๆ ไม่รู้จะเรียกดูแลหรือเปล่าเพราะมินตราเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กแสบประจำไร่ ใครไม่รู้จักมินตราคงเชยมากจริงๆ
“พี่เจตน์กินแต่ปลา”
“กินปลาฉลาด อายุยืน”
“กินหมูไม่ฉลาดยังไง”
“กินหมูตายเร็ว”
“เหรอคะ เพิ่งรู้นะคะนี่” เธอตักไข่เจียวหมูสับเคี้ยวตุ้ยๆ
“คืนนี้หนูมินจะไปนอนด้วยนะคะ หนูมินกลัว ไม่กล้านอนคนเดียว”
“แค่กๆๆ” เจตน์แทบพ่นอาหารออกทางปาก เขาสำลักหูตาแดงไปหมด มองเธอตาแทบถลน
“พี่เจตน์เป็นอะไร ป้าแก้วคะ พี่เจตน์บอกว่ากับข้าวไม่อร่อยค่ะ” มินตราฟ้องป้าแก้วตาเสียงดัง คนแก่วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องครัว!!!
“ตายแล้ว ป้าทำอาหารไม่อร่อยจนคุณเจตน์ต้องพ่นมันออกมาจากปากเลยเหรอคะนี่” ป้าแก้วตาหน้าเสีย เจตน์ถอนใจพรืด กลอกตาไปมา ก่อนจะตวัดสายตาดุเข้มไปหาตัวต้นเหตุ
“ไม่ใช่หรอกครับป้า คือผมสำลักน่ะครับ” เขานึกเห็นใจคนสูงวัยที่หน้าตาตื่นคิดว่าตัวเองทำกับข้าวฝีมือตก ซึ่งเขาอยากจะบอกว่าท่านทำกับข้าวอร่อยเสมอต้นเสมอปลาย
“สำลัก หรือว่าคุณหนูมินไปแกล้งอะไรคุณพี่เหรอคะ” ป้าแก้วตาพูดอย่างเอ็นดู เจตน์ฟังสรรพนามของแม่บ้านเก่าแก่แล้วจั๊กจี้พิลึก เขาไม่อยากเป็นคุณพี่ของยายเด็กแสบนี่สักนิด
“เปล่าค่ะ หนูมินไม่ได้แกล้งอะไรพี่เจตน์เลย” มินตราทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ปฏิเสธเป็นพัลวัน
“อย่าไปแกล้งพี่เขามากนะคะ คุณพี่เขาเหนื่อย และต้องดูแลคุณหนู มินอีกตั้งเดือนนึงน่ะค่ะ แกล้งมากๆ เดี๋ยวคุณพี่ไม่ดูแลนะคะ” คนแก่ทำเสียงดุก่อนขอตัว
เจตน์เพิ่งสำนึกตัวเองว่านี่มันแค่วันแรกที่เขารับหน้าที่ดูแลน้องสาวนอกไส้ เหลืออีกยี่สิบเก้าวัน อ๊าก!!!!
เจตน์อยากจะบ้าตาย เขาได้แต่ตะโกนก้องอยู่ในใจเท่านั้น ในเมื่อเขาต้องทำหน้าที่เป็นพี่ชายที่ดีดูแลยายเด็กแสบนี่ให้ครบเดือน
“พี่เจตน์ไม่ต้องกลัวหนูมินหรอกค่ะ หนูมินจะเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซน ขอไปนอนด้วยคนนะคะ” เธอชูสามนิ้วร่าอย่างน่ารัก ยิ้มยิงฟันแสดงความจริงใจ
“เรื่อง!” เขาโต้กลับ แยกเขี้ยวใส่ มินตราหน้างอ หันไปตักไข่เจียวกินอย่างกะฟัดกระเฟียด เชอะ! ไม่พูดก็ได้
ทำเลยดีกว่า!!! หลังรับประทานอาหารเสร็จ เจตน์หนีขึ้นห้องในทันที เขารีบล็อกห้องอย่างแน่นหนา กันยายหนูแสบเข้ามาก่อกวน
มินตรายืนมองประตูห้องของพี่ชายอย่างเคืองๆ ก่อนจะสะบัดหน้าหนี ประตูแค่นี้เหรอจะขวางเธอได้ ไม่มีวันเสียหรอก!!!
เจตน์รู้สึกว่าเขานอนหลับสบายมากๆ เพราะไร้สิ่งกวนใจ ยายหนูผีไม่สามารถเข้ามาในห้องเขาได้หรอก นอกจากว่าหล่อนจะปีนหน้าต่างเข้ามา แต่เขาล็อกหน้าต่างแน่นหนา ขืนทำอะไรพิเรนทร์แบบนั้นตกลงไปคอหักตายเขาไม่รับผิดชอบแน่ๆ
เขารู้สึกว่ามีก้อนอะไรสักอย่างอุ่นๆ ม้วนกลมอยู่ตรงท่อนล่างของเขา เพราะเขานอนตะแคง แล้วมันก็เคลื่อนไหวได้!!!
เฮ้ย!!! เจตน์ทะลึ่งพรวดขึ้นจากที่นอน เขากระชากผ้าห่มออกจากตัวก็เห็นยายเด็กแสบนอนม้วนกลมอยู่ตรงนั้น
เอาหน้าซุกกับหนอนน้อย เฮ้ย! ไม่ใช่ อนาคอนด้ายักษ์ของเขาด้วย ชิ! มันไม่ได้เล็กอย่างที่เธอปรามาสเอาไว้เสียหน่อย
“นี่ยายหนูผี! ตื่น” เขาสะกิดคนนอนขี้เซา “บอกให้ตื่นไง” คนที่อยากนอนต่อยิ่งซุก เขาก็ยิ่งคึก เฮ้ย! ไม่ใช่มันแข็งไง บ้าเหรอมีคนมาแนบเข้าหาแบบนี้ เขาไม่ได้ตายด้านเป็นพระอิฐพระปูนเสียหน่อย
“อุ่น! สบาย อื้อ.. อย่ากวนหนูมินนะ เดี๋ยวกัดหูขาดเลย” คนขี้เซาพูดเสียงเบา ทำท่ากัด ก่อนนอนต่อ เขาสะดุ้ง เธอจะกัดหนอนน้อยเขาขาดเอาน่ะสิ
เออตรงนั้นของเขามันอุ่นขนาดเอาหน้ามาแนบ เขากลอกตาไปมา คิดวกวนอยู่ในหัวจะจัดการกับเธออย่างไรดี
ความคิดวาบเข้ามาในหัวขณะที่เขาอุ้มร่างเล็กที่ไม่ยอมตื่นเสียขึ้นสู่อ้อมแขน รู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่ามินตราเป็นคนนอนขี้เซามาก
ร่างสูงอุ้มร่างเล็กกะทัดรัดเข้าไปยังห้องน้ำ เธอก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น ดีละ!!!
“ว้าย!!!!” เด็กสาวร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ น้ำเย็นก็ราดมาบนตัว ตอนแรกคิดว่าฉี่รดที่นอน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เธอตื่นเต็มตา เห็นพี่ชายเท้าสะเอวมองเธออย่างเอาเรื่อง
“หนูมินไม่ได้ฉี่ใส่ที่นอนเหรอคะ” เธอทำหน้ามึนๆ ใส่เขาเหมือนว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไรเลย
“เข้ามาในห้องพี่ได้ยังไงกัน”
“คะ? หนูมินละเมอ ละเมอแน่ๆ เลย” เธอรีบลุกขึ้น ทำหน้ามึนเหมือนไม่ได้แอบเข้ามานอนในห้องเขาตอนดึกๆ เสียหน่อย
“อย่ามาตีเนียน จะไปไหนยายแสบ” เขาดึงคอเสื้อของเธอเอาไว้ ชุดนอนของมินตราเป็นชุดนอนลายหมีสีฟ้าอ่อน เสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาวเนื้อนิ่ม เธอเป็นคนขี้หนาวก็เลยใส่เสื้อผ้าดูมิดชิดรุ่มร่ามนอน
“โอ๊ย! พี่เจตน์ หนูมินหนาวจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” เธอร้องเสียงดัง ฟันกระทบกันเล็กน้อย เธอไม่ค่อยชอบอากาศหนาว อาบน้ำก็อาบน้ำอุ่น มาเจอน้ำเย็นๆ แบบนี้ ขนลุกชูชัน
“ถามว่าเข้ามานอนในห้องพี่ได้ยังไง”
“ก็เข้ามาทางประตูไง”
“หือ...” เขาทำเสียงประหลาดใจ “แอบเข้ามาตอนไหน”
“ไม่ได้แอบ หนูมินเดินเข้ามาก่อนพี่เจตน์แปบเดียวเอง” เธอทำหน้ามึนได้น่าเตะก้นโด่งที่สุดในโลก
“วันหลังอย่าทำแบบนี้อีก”
“โหย... พี่เจตน์ทำเสียงดุ หน้าเคร่ง ตีนกาขึ้นแล้ว เห็นไหมคะ”
“พูดแล้วยังจะเล่นลิ้นอีก”
“เล่นลิ้นแบบไหนคะ เปล่าเสียหน่อย” เธอทำไขสือ นี่แหละสิ่งที่เด็กสาวตรงหน้าถนัด ทำไขสือนี่แหละถนัดที่สุด
มันน่าจับหวดก้นนัก!!!
“ที่ไม่อยากให้หนูมินไปเพราะคิดอะไรกับหนูมินอยู่รึเปล่า”
“คิดอะไร” เขาทำเสียงดุใส่
“โอ๊ย! อย่าไปรู้เลยค่ะ คนปากกับใจไม่ตรงกัน” เธอทำท่าโบกไม้โบกมืออมยิ้มมองเขาที่กำลังทำหน้างง
เด็กสาวแม้จะยืนกอดอกตัวสั่นเพราะหนาวแต่สายตาก็เหลือบมองเป้ากางเกงของเขาไม่วางตา
“ยายเด็กลามก!” เขากุมเป้ากางเกงอย่างเสียวไส้
“คิกๆ พี่เจตน์น่ะหวงเนื้อหวงตัวชะมัด ตอนเด็กๆ ยังวิ่งอาบน้ำแก้ผ้ากับหนูมินอยู่เลย”
“หือ... ตอนไหนฉันจำไม่ได้ ตอนฉันเจ็ดแปดขวบเธอยังนอนดูดนิ้วอยู่เลย”
“เหรอคะ”
“อย่ามาตีมึน ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว” สรรพนามของพี่ชายร่วมโลกเปลี่ยนไปตามอารมณ์ คนอารมณ์ไม่ดีเปลี่ยนสรรพนามจาก พี่ เป็น ฉัน ตาดุ เสียงเข้ม
“ไปก็ได้” คนไม่ค่อยอยากไป ทำหน้ามู่ทู่ใส่ ก่อนจะย่นจมูกเล็กน้อย “ฮัดเช้ย!” เธอจามติดกันหลายครั้ง ก่อนจะรีบวิ่งหน้าตั้งกลับห้องไปอาบน้ำอุ่นโดยเร็ว
เจตน์อาบน้ำแต่งตัวเดินลงมาด้านล่างพร้อมที่จะเข้าไร่ เขาชะงักที่ไม่เห็นยายตัวแสบนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“หนูมินล่ะครับป้า” ว่าจะไม่ถามถึงแล้วเชียว แต่ลึกๆ ก็อดห่วงไม่ได้
“ยังไม่เห็นลงมาเลยค่ะ สงสัยยังไม่ตื่น”
“ไม่ตื่นยังไงครับก็เมื่อเช้ายังนอนซุก...” เจตน์ชะงักก่อนกระแอม
“อะแฮ่ม...”
“คะ?” ป้าแก้วตามองชายหนุ่มเหมือนรอฟังว่าซุกอะไร
“คือผมหมายถึงป่านนี้คงนอนซุกหมอนข้างอยู่กระมั้งครับ” เขาคิดถึงมินตราแล้วไอ้นั่นมันก็แข็งขืนขึ้นมาเฉยเลย บ้าแล้ว!!!
“สงสัยยังไม่ตื่น เดี๋ยวคงลงมาหาอะไรกินเองละครับ” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะรับประทานอาหารเช้าและเข้าไร่ไป ไม่สนใจอะไรเธออีก
เจตน์กลับมากินข้าวกลางวันที่บ้าน เขาไม่เห็นวี่แววของเด็กแสบ ป้าแก้วตาบอกว่ากำลังจะขึ้นไปตามอยู่พอดี เพราะยังไม่ได้ลงมาจากห้องตั้งแต่เช้า
ร่างสูงแกร่งของเจตน์ที่สูงถึง 185 เซนติเมตรวิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องของน้องสาว เขาเคาะประตูห้องติดกันหลายครั้งแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงลองผลักประตูเข้าไปปรากฏว่าไม่ได้ล็อก