3
Chapter 3
“ฉันไม่ยักรู้ว่าเธอมีแขกเยอะขนาดนี้ จริงๆ จะได้มาวันหลัง” มณีรัตน์ นั่งลงพร้อมด้วยสามี ส่วนลูกชายนั้นติดธุระไม่สามารถมาได้ เพราะต้องไปติดต่องานกับลูกค้าคนสำคัญ
“มาวันนี้แหละดีแล้ว พูดกันตรงๆ ก็แล้วกัน หนูฟ้าน่ะมีผู้ชายมาชอบพอเยอะแยะไปหมด แต่การจะให้ลูกออกเรือนไป เราซึ่งเป็นพ่อแม่ต้องมั่นใจว่า คนคนนั้นสามารถดูแลยายหนูได้ มันประจวบเหมาะจริงๆ ที่เสี่ยอรัญกับพ่ออาทิตย์เองก็พาผู้ใหญ่มาสู่ขอยายฟ้าวันนี้”
“อะไรนะ มาสู่ขออะไรกัน ยายฟ้าลูกสาวของเธอเป็นแฟนกับลูกชายฉัน แล้วเด็กๆ ก็คุยกัน บอกให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ แล้วจะมีคนอื่นได้ยังไงกัน” มณีรัตน์เริ่มโวยวาย ไม่ชอบคนจับปลาหลายมือ
“ใจเย็นๆ ก่อนสิจ๊ะ ฉันเองไม่รู้จะทำยังไง ก็มาพร้อมกันทั้งหมดเลยนี่นา”
“แล้วทำไมไม่บอกไปว่าลูกสาวของเธอตอบตกลงกับลูกชายฉันแล้วแม่กำไลจะจับปลาหลายมือหรือยังไงกัน” มณีรัตน์ไม่ชอบใจนักเมื่อเห็นกชกรทำท่าจะเอาผู้ชายทุกคนให้ลูกสาวตัวเอง เธอไม่ชอบอะไรคลุมเครือ ถ้าจะ เลือกใครก็เลือกไปสักคน
“เอาละ อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ ยายฟ้าน่ะ ลูกสาวคนเดียวของฉัน สินสอดที่คู่ควรกับเขียนฟ้าก็สักสิบล้านบาท ทางเราเรียกน้อยแล้วนะ เพราะมีคนให้เยอะกว่านี้ ที่สำคัญก็คือลูกสาวจะออกเรือนทั้งทีก็ต้องมั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นสามารถเลี้ยงดูลูกสาวคนเดียวของดิฉันได้”
“สินสอดสิบล้าน! ขายลูกกินหรือไงแม่กำไล!” มณีรัตน์อุทาน ยกมือขึ้นตบอก ตกใจกับสินสอดของเขียนฟ้านัก
“ลูกชายของเธอมาอยากได้ลูกสาวของฉันเองนะ แต่ถ้าเธอไม่มี ฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่เรื่องแต่งงานก็คงจะไม่ได้เหมือนกัน”
“ตายแล้ว! ไม่เคยพบเคยเจอ เรียกสินสอดไม่ไว้หน้ากันเลย”
“ใจเย็นๆ ก่อนคุณ” อธิวัฒน์ปรามภรรยาเอาไว้ แต่มณีรัตน์ไม่สนใจ วันนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่องว่าจะเอายังไงกันแน่ มาเล่นลิ้นจะยกให้หรือไม่ยกให้ อยู่แบบนี้ ทำเหมือนเด็กเล่นขายของไปได้ ส่วนคุณฤดีได้แต่นั่งตาปริบๆ มองคนทั้งสองทะเลาะกันบ้านแทบแตก
“ลูกสาวเธอเลี่ยมเพชรหรือไง สินสอดตั้งสิบล้าน”
“แต่เสี่ยอรัญกับพ่ออาทิตย์ไม่ได้ปฏิเสธนะ” กชกรแกล้งพูด และรู้ด้วยว่าผู้ชายทั้งสองไม่กล้าปฏิเสธเพราะกลัวเสียหน้า พอมณีรัตน์กลับไปแล้วก็ค่อย ว่ากัน ใครให้สินสอดเยอะกว่ากันก็เลือกคนนั้นแหละ
“โอ๊ย! อกอีแป้นจะแตก” มณีรัตน์หายใจหอบรุนแรง ตอนนี้รู้แล้วว่ากชกรกำลังฉีกหน้าของตนอยู่
“เงินฉันมีมากกว่าสิบล้าน แต่จะให้แต่งลูกสาวเธอสินสอดเท่านั้นน่ะ คงจะไม่ไหว”
“ไหนบอกว่าเท่าไหร่เท่ากัน รวยไม่จริงนะแบบนี้ อยากให้ลูกชายมีเมีย ก็ต้องลงทุนกันหน่อย แต่ถ้าไม่มีปัญญา ฉันยกนังมิ่งขวัญให้เอาไหม สินสอดแสนเดียวก็พอ” มณีรัตน์ได้ยินแบบนั้นก็สติหลุด หันไปมองเด็กสาวที่เดินเอาของว่างมาเสิร์ฟแล้วตัดสินใจอย่างรวดเร็วในทันที
“ได้ ฉันสู่ขอหนูมิ่งขวัญไปให้ตาแซนก็ได้”
“คุณ!” อธิวัฒน์ตกใจเมื่อเห็นภรรยาบ้าจี้ตามไปด้วย
“สินสอดแสนหนึ่ง ย้ายไปอยู่เลย เธอตกลงแล้วก็ตามนั้น” กชกรเองก็ตกใจไม่น้อยที่เห็นว่าอีกฝ่ายเอาจริงๆ ส่วนคนที่ถูกกล่าวถึง ตกใจไม่น้อย กับสิ่งที่ได้ยิน
“ก็เอาสิ ไม่อยากได้ลูกสาวของฉัน อยากได้นังเด็กรับใช้ก็เอา ไปเลย” กชกรเริ่มโมโห เธอคิดว่าจะพูดจาดูถูกมณีรัตน์ให้หนำใจจนอีกฝ่ายทนไม่ได้ ยอมควักสินสอดสิบล้านออกมา แล้วพอเขียนฟ้าเข้าไปอยู่ในครอบครัวของวสุธิกุล ก็จะได้กอบโกยให้มากกว่านี้อีกแต่ทุกอย่างผิดคาดไปหมด แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมสู่ขอด้วยสินสอดสิบล้าน เธอก็มีตัวสำรองอยู่อีกสองคน อาทิตย์กับเสี่ยอรัญไง
“ผมคงให้สินสอดน้องฟ้าสิบล้านไม่ไหวหรอกครับ” อาทิตย์พูดขึ้น บิดามารดาของอาทิตย์ก็หน้าซีดไปถนัดตา ถึงจะมีฐานะแต่สินสอดเยอะ แบบนั้นในต่างจังหวัดแบบนี้ก็ไม่ไหวหรอกนะ สินสอดล้านเดียวก็ถือว่าเยอะแล้ว
มณีรัตน์ระเบิดหัวเราะออกมา สะใจเป็นบ้าที่เห็นอดีตเพื่อนรักหน้าแตกยับเยิน
“แต่ผมไหวครับ” เสี่ยอรัญพูดขึ้น กชกรเลยหน้าระรื่นขึ้นมาในทันที ในขณะที่มณีรัตน์เหลือบสายตามอง โบกพัดในมือไปมาระรัวด้วยความโมโหอย่างกับแย่งกันซื้อกะปิในตลาดสด!
“ตกลงตามนี้ ฉันขอแม่มิ่งขวัญไปเป็นสะใภ้ของฉัน!!!” ฤดีกับอธิวัฒน์มองหน้ากันตาปริบๆ...
“นี่มันอะไรกันครับคุณแม่ ผมให้คุณแม่ไปขอเขียนฟ้ามาเป็นเมียผม แต่คุณแม่ดันไปเอายายเด็กนี่มาเนี้ยนะ!” อธิราชตกใจ โวยวายเสียงดังเมื่อได้รับข่าวในช่วงเย็นหลังกลับมาจากคุยกับลูกค้า
นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ!
ปัดโธ่โว้ย!
“หุบปากไปเลยเจ้าแซน แกไม่รู้อะไรอย่ามาพูดจะดีกว่า” มณีรัตน์ โบกพัดในมือไปมา แก้อาการร้อนรุ่มในหัวใจ
หน็อย... นังกชกร ฉันจะชุบเนื้อชุบตัวมิ่งขวัญให้สวยสดกว่าลูกแกคอยดู
คอยดูสิ!!!
คอยดู!!!
“รู้อะไรล่ะครับคุณแม่ ไหนลองบอกผมมาหน่อย”
“นังกำไลให้เสี่ยอรัญกับพ่ออาทิตย์มาสู่ขอลูกสาวของมันด้วย พูดจา โอ้อวดเรียกสินสอดสิบล้าน ลูกสาวมันเลี่ยมเพชรเลี่ยมพลอยหรือไงห้ะ!”
“เงินสิบล้านผมขอยืมก่อนก็ได้ ค่อยหามาคืนให้”
“เหอะ! แฟนแกน่ะเขาตอบตกลงกับเสี่ยอรัญไปแล้ว เป็นแฟนกัน ประสาอะไร ไม่คุยกันรึไง สรุปแฟนแกนี่มีกิ๊กกี่คน” คนพูดก็ไม่ยอมลงให้ลูกชายเหมือนกัน เสียงดังคับบ้านจนอธิราชถึงกับอึ้งไป
“มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ คุณแม่ไปพูดยังไง เขาถึงไม่ยอมยกลูกสาวให้”
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย มันพูดจาดูถูกฉันก่อน แถมยังบอกว่าจะยก มิ่งขวัญให้แทนลูกมัน นังกำไลเอ๊ย! ทำอย่างกับลูกตัวเองวิเศษวิโสนัก”
“แล้วคุณแม่ก็บ้าจี้ไปเอาเด็กคนนี้มาเหรอครับ” อธิปไตยเป็นคนถามแทนพี่ชาย เขาล่ะเชื่อมารดาเลยจริงๆ
“ถ้าแกไปด้วย แกก็ต้องเอาเจ้าโซ่”
“แต่พูดไปพูดมามิ่งขวัญเพิ่งจะสิบแปดเองนะครับคุณแม่ เฮียน่ะ สามสิบห้าแล้ว เหมือนลุงกับหลาน” อธิปไตยหัวเราะจนท้องแข็งเมื่อพี่ชายหันมาถลึงตาใส่ ในขณะที่มิ่งขวัญได้แต่กอดกระเป๋าเสื้อผ้าแน่น เธอเป็นเด็กกำพร้าที่กชกรอุปการะเอาไว้ ไม่สามารถขัดผู้มีคุณได้ แล้วต้องมาอยู่ที่นี่เธอก็ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่
“ผมไม่เอายายเด็กนี่ทำเมียหรอกครับคุณแม่” อธิราชเดินไปมาเหมือนหนูติดจั่น เขาต้องไปถามเขียนฟ้าให้รู้เรื่องในตอนนี้ ว่ามันเป็นยังไงกันแน่
“ไม่เอาก็ไม่เอา” มณีรัตน์พูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน ทุกคนได้แต่อ้าปากค้าง
“อ้าว... คุณแม่ อะไรกันล่ะครับนี่” อธิปไตยมองมารดาอย่างงุนงง ก่อนจะหัวเราะลั่นบ้าน
“ผีเข้าหรือไงไอ้โซ่ หัวเราะทำส้นตีนอะไรวะ” อธิราชหันไปถลึงตาใส่น้องชาย อธิปไตยตบอกไปมา ขำไม่หยุด
“คุณแม่แค่อยากเอาชนะป้ากำไลเหรอครับ” อธิปไตยเดาถูกเมื่อได้ยินมารดาตอบพี่ชายแบบนั้น เขาเลยหัวเราะลั่นบ้าน
“ก็มันพูดจาดูถูกแม่ หน็อย... จะเอาสินสอดสิบล้าน ฝันไปเถอะ ชาติหน้าตอนบ่ายๆ”
“แบบนี้เขาเรียกขิงก็ราข่าก็แรงนะครับ” อธิปไตยส่ายหน้าไปมา รู้ทันมารดาที่นั่งยิ้มกริ่มอยู่อีกด้าน แต่คนที่ยิ้มไม่ออกคือพี่ชายของเขา
“ผมจะไปคุยกับเขียนฟ้าให้รู้เรื่อง”
“ไปเถอะ ถ้าเขาจะไม่ไล่ตะเพิดแกออกมาเสียก่อนนะ” คนเป็นแม่กล่าวอนุญาต เห็นท่าทีนังลูกสาวกชกรแล้วก็พอรู้ว่าไม่ได้รักลูกชายของนางจริง ผู้หญิงคนนั้นรักเงินมากกว่า