บท
ตั้งค่า

2

จักรยานคันเล็กพิงเสาอยู่ เธอถีบอย่างคล่องแคล่ว กระโปรงครามปลิวตามลมเหมือนชื่อของเธอเอง

ลมหนาวยืนยิ้มกับตัวเองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมีคนสะกิดไหล่

“เออเอ็งเอ๊ย ยิ้มอย่างนี้ ระวังลมจะพัดใจไปไหนต่อไหนนะ” ป้าดาวยืนกอดอกมองอยู่ไม่ไกล แววตาขำ ๆ

“บางทีลมที่หอบกลับมา อาจเป็นลมที่นำทางหัวใจ ป้าบอกแล้ว”

“ป้าดาวนี่ รู้ทันไปหมด” ลมหนาวรับขนมถ้วยเล็กที่ป้าส่งให้

“เท่าไหร่ครับ”

“เอาไปก่อน เดี๋ยวค่อยคิดทีเดียวพร้อมค่าบทเรียนจีบครูฟ้า” ป้าดาวทำหน้ากรุ่มกริ่ม

“เอ็งช้าไม่ได้หรอก ครูฟ้าเป็นของดีประจำหมู่บ้าน คนแอบปลื้มเพียบ แต่เอ็งมีแต้มต่ออยู่”

“แต้มต่อ” ลมหนาวทำตาโต

“เป็นลมหนาวไงลูก เข้ากันกับฟ้าใส ชื่อก็เป็นมงคลเหมาะสมกันดีมาก ๆ เชียว” ป้าดาวหัวเราะลั่น

“เอ้า ๆ ไปเถอะ เดี๋ยวแดดแรง” ลมหนาวเพียงแค่ยิ้มเขิน

บ่ายนั้น หลังจากจัดบ้านพอให้วางหัวหมอนได้ ลมหนาวเดินถือสมุดกับดินสอสำรวจรอบนอก ระเบียงไม้กรอบกร่อนจากแดดหลายปี เขาคลึงสกรูเก่า ๆ ในมือ พลางคิดแปลนซ่อมแบบง่าย ใช้ของที่มี ไม่ต้องฟุ่มเฟือย เสียงจักรยานคุ้น ๆ ดังผ่านหน้าบ้านอีกครั้ง เขาเงยหน้าโดยอัตโนมัติ

ฟ้าใสชะลอจักรยานหน้ารั้ว กดกริ่งติ๊งหนึ่งที

“สวัสดีค่ะ บ้านนี้รับวิจารณ์มั้ยคะ” แววตาซุกซน ลมหนาวหัวเราะ

“ถ้าเป็นการวิจารณ์จากครูศิลปะ ยินดีรับทุกข้อเสนอแนะครับ”

เธอจอดจักรยาน เดินเข้ามายืนใต้เงามะม่วง มองไปบนหน้าบ้านที ระเบียงที

“ชอบความดิบของไม้เก่านะคะ ไม่ต้องขัดจนลื่นหมด ให้ผิวมันบ่งบอกอายุที่ยาวนาน หน้าต่างทิศตะวันตกอย่าทึบเกิน แสงเย็นสวยที่สุดของบ้านหลังนี้”

“ผมกำลังจดอยู่พอดี” เขาเปิดสมุดให้ดู รายการที่เขียนไว้ตรงกับสิ่งที่เธอพูดแทบทั้งหมด

“ใจตรงกันแฮะ”

“อย่าพูดแบบนี้สิคะ เดี๋ยวป้าดาวเดินผ่านมา ตลาดจะแตกจริง ๆ” เธอยิ้ม ก่อนชี้ไปที่ขอบชายคา

“ตรงนี้ซ่อมก่อนเลยนะคะ ฝนมาจะรั่ว”

“รับคำสั่งครับครู”

“ไม่ใช่คำสั่งเป็นข้อเสนอเชิงศิลปะ” ฟ้าใสยกคางนิด ๆ

“แล้วพี่ลมจะอยู่บ้านนานไหมคะ” คำถามง่าย ๆ มีแรงสะเทือนมากกว่าที่ตั้งใจ ลมหนาวเว้นวรรค พลางมองหน้าเธอ เธอเรียกเขาอย่างสนิทสนม ทำให้เขารู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น อาจเพราะเธอสนิทกับป้าดาวก็ได้ เขากับเธอจึงได้รู้จักกันบ้างแล้ว แค่ไม่ได้เจอตัวจริงก็เท่านั้นเอง

“ตอนนี้อยากอยู่ให้นานที่สุด เท่าที่หัวใจจะบอกว่าใช่”

“ภาษาสถาปนิกโรแมนติกจัง” เธอเชิดคิ้วน้อย ๆ

“งั้นดีแล้วค่ะ หมู่บ้านของเรากำลังจะมีงานวัด เดือนหน้าจะคึกคัก โรงเรียนต้องทำซุ้มภาพเด็กด้วย ครูมุกบอกว่าอยากได้คนช่วยออกแบบ ถ้าพี่ลมว่าง”

“ผมว่างครับ” ลมหนาวเผลอพูดเร็วไปนิด ทำให้เธอหัวเราะ

“โน้ตไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวครูมุกจะติดต่อไปอย่างเป็นทางการส่วนวันนี้” ฟ้าใสมองไปรอบบ้าน

“ให้ช่วยยกอะไรไหมคะ”

“ให้ครูฟ้าช่วยยิ้มก็พอครับ บ้านจะสว่างน่ามองขึ้น” เขาพูดหน้าตาเฉยแบบเจ้าเล่ห์นิด ๆ

ฟ้าใสทำท่าจะโต้ แต่หางตาเห็นเด็กชายตัวเล็กวิ่งกระหืดกระหอบมาทางฟุตปาธ

“ครูฟ้า แม่ให้มาเอาหมูปิ้ง” เด็กน้อยลิ้นห้อย

“โอ๊ย ลืมเลย!” ฟ้าใสทาบอก หันมาทางลมหนาว

“คุยเพลินขอตัวก่อนนะคะ”

“ครับครูฟ้า” เขายกมือทำท่าเคารพเหมือนนักเรียน

เธอวิ่งไปคร่อมจักรยาน

“ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะคะ อย่าทำหน้าต่างพังหมดล่ะ” ท้ายประโยคมีรอยยิ้มท้าทาย

“ครับ” ลมหนาวเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม ฟ้าใสสะดุดหัวเราะ

“ไปละค่ะ!” จักรยานคันเล็กไถลไปตามถนน ล้อหมุนส่งฝุ่นนวล ๆ ฟุ้งขึ้น ลมหนาวมองตามจนกระทั่งเธอลับโค้ง

เขาหันกลับมาที่บ้าน ยกค้อนขึ้นตอกตะปูตัวแรกลงบนไม้เสียงดัง เหมือนลงหมุดหมายในใจว่าชีวิตนี้จะกลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตัวเองให้ดี

เย็นย่ำ ลมเปลี่ยนทิศ ค่ำแรกของการกลับบ้านเงียบจนได้ยินเสียงจักจั่น ลมหนาวนั่งบนระเบียงถือถ้วยชากลิ่นมะลิ ผ้าย้อมครามที่ครูมุกฝากมาวางพาดราว เขานึกถึงคำของป้าดาว ลมที่หอบกลับมา อาจเป็นลมที่นำทางหัวใจ

ภาพในหัวคือรอยยิ้มของครูศิลปะกับตลาดเช้าที่เสียงหัวเราะของผู้คนเหมือนเสียงเพลงประกอบหนังวัยเด็ก

โทรศัพท์สั่นข้อความจากหมายเลขไม่คุ้น

ครูมุกนะคะ ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณลมหนาว ได้ข่าวว่าครูฟ้าไปตรวจบ้านแล้ว พรุ่งนี้ถ้าว่าง แวะโรงเรียนตอนบ่ายนะคะ มีเรื่องให้ช่วยคิดซุ้มเด็ก ๆ งานวัดค่ะ

ลมหนาวพิมพ์ตอบ ได้เลยครับครูมุก เจอกันพรุ่งนี้บ่ายครับ

เขาวางโทรศัพท์ สูดลมหายใจลึก ๆ ท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนจากสีครามเป็นสีส้มอมชมพู เงามะม่วงทาบยาวบนพื้นระเบียงเหมือนลายพู่กัน

คืนแรก บ้านไม่เงียบอย่างที่คิด เพราะในความเงียบเต็มไปด้วยเสียงที่ทำให้หัวใจอบอุ่น

และในสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่าน เขาหลับตาสูดดมกลิ่นธรรมชาติเข้าปอดแรง ๆ ลึก ๆ

เสียงนกเอี้ยงกับนกกระเจี๊ยบร้องแข่งกันเหนือยอดไม้ยามสาย แสงแดดส่องลอดใบมะม่วงทอดตัวเป็นสายกระทบผืนดิน

ลมหนาวสะพายกระเป๋าผ้าใบเก่า ในนั้นมีสมุด ปากกา และกล่องดินสอไม้ที่เขาเก็บไว้ตั้งแต่สมัยเรียนมหา’ลัย วันนี้ไม่ใช่วันทำงานอย่างเป็นทางการ แต่เป็นวันแรกที่เขาจะเดินเข้าสู่โรงเรียนบ้านเกิดในฐานะ คนมาช่วยงานตามคำเชิญของครูมุก

โรงเรียนเล็ก ๆ รั้วไม้ทาสีขาวบางส่วนเริ่มลอก ป้ายไม้หน้าประตูเขียนด้วยพู่กันว่า “โรงเรียนบ้านสายลม” เสียงเด็ก ๆ วิ่งเล่นดังมาจากสนาม ลมหนาวก้าวเข้าไปด้วยรอยยิ้ม รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

“พี่ลมหนาว!” เสียงใส ๆ ดังมาจากระเบียงอาคารเรียน ครูมุกยืนโบกมือ ใบหน้าอ่อนหวานเต็มไปด้วยรอยยิ้มต้อนรับ

“ยินดีต้อนรับสู่สมรภูมิเด็ก ๆ ค่า” ลมหนาวหัวเราะ

“สวัสดีครับ สมรภูมินี้น่าจะโหดกว่าไซต์งานก่อสร้างแน่ ๆ ครับ” เขากล่าวทักทายปนรอยยิ้ม ครูมุกหัวเราะเบา ๆ

“โหดค่ะ แต่สนุก เดี๋ยวจะได้เจอครูฟ้าในห้องศิลปะนะคะ วันนี้ครูมีประชุมเลยต้องฝากพี่ช่วยดูเด็ก ๆ ด้วยสักหน่อย”

“เต็มใจครับ” เขายิ้ม

ห้องศิลปะ

แสงแดดลอดหน้าต่างไม้ส่องเข้ามากระทบโต๊ะเรียนที่เต็มไปด้วยกระดาษสี กรรไกร และพู่กัน ฟ้าใสกำลังจัดแถวเด็ก ๆ ให้เตรียมระบายสีโปสเตอร์สำหรับซุ้มงานวัด

“อย่าใช้สีน้ำเยอะนะจ๊ะ เดี๋ยวเปียกกระดาษหมด อย่าลืมล้างพู่กันก่อนเปลี่ยนสีสิลูก” น้ำเสียงของเธอฟังดูเข้มงวด แต่แววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel