#สองใจ บทที่ 4 ดุนดัน
สี่ทุ่มครึ่ง
ไนท์นอนพลิกไปพลิกมาข้างแฟนหนุ่มที่หลับไปแล้ว แต่เป็นเธอเองที่นอนไม่หลับเพราะนอนกลางวันไปเสียเยอะ และด้วยความที่เวลารับประทานอาหารต่อหน้าธัญธร เธอเองก็พลอยกลืนไม่ลงเลยทำได้รับประทานไปได้นิดเดียว ทำให้ต้องหิวในเวลาสี่ทุ่มครึ่งแบบนี้
ว่าจะออกมาหาอะไรกิน แต่เธอก็ไม่อยากไปเจอหน้าพี่ชายฝาแฝดของแฟนหนุ่ม จึงพยายามข่มความหิวเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้มัน
ก็แค่ทำตัวเฉย ๆ แบบที่เขาทำกับเธอไงยัยไนท์ หญิงสาวบอกตัวเอง
สุดท้ายเธอก็ต้องจำนนให้กับความหิวแล้วเดินออกมาจากห้อง เมื่อเปิดประตูออกก็พบว่าไฟห้องรับแขกถูกปิดไว้ มีเพียงไฟจากห้องน้ำด้านนอกที่ถูกเปิดพอให้แสงสลัวราง และเธอก็เห็นร่างสูงใหญ่ที่เปลือยท่อนบนและสวมเพียงกางเกงฟุตบอลขาสั้นแต่วันนี้เป็นสีขาว กำลังวิดพื้นอยู่
แม้จะไม่ได้ตั้งใจแต่อีกฝ่ายก็อยู่ในรัศมีสายตา ทำให้เธอมีเวลาแอบเพ่งพิศอีกฝ่าย
ธีธัชกับธัญธรเป็นฝาแฝดกันก็จริง แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันไปหมดเสียทีเดียว ถึงจะตัวสูงไล่เลี่ยกันแต่ธัญธรนั้นล่ำสันกว่า หนากว้าง บ่ากว้างมีมัดกล้ามแน่นไปทั้งตัว ผิวขาวกว่า มีไรเคราครึ้มที่สองข้างแก้ม ในขณะที่ธีธัชนั้นสูงโปร่ง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูสะอาดสะอ้าน สไตล์หนุ่มเกาหลีอบอุ่น
ธัญธรพูดน้อยแถมห้วนห้าว แต่ธีธัชเป็นหนุ่มอารมณ์ดี ขี้อ้อน พูดเพราะสุภาพคะขา เป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ผู้หญิงที่ไหนได้อยู่ใกล้ก็มักจะหลงเขา โชคดีที่ธีธัชไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้
ที่ผ่านมาไนท์รู้สึกว่าธีธัชเป็นผู้ชายในสเปก อย่างกับพระเอกในซีรีส์เกาหลี แต่วันนี้กลับรู้สึกว่าผู้ชายเงียบ ๆ นิ่ง ๆ แบบธัญธรก็มีผลต่อหัวใจเหมือนกัน
โดยเฉพาะตอนนี้ที่หัวใจของเธอเต้นเร่าแทบทะลุออกมานอกอก เมื่อเห็นกล้ามเนื้อที่เครียดครัดทุกส่วนสัดของเขาอย่างชัดเจน ยามเขาเกร็งข้อมือเพื่อดันตัวขึ้นจากพื้น เธอบังคับให้ตัวเองละสายตาจากเขาไม่ได้ยังไม่พอ ตาเจ้ากรรมดันสำรวจเลยมาถึงบั้นเอวและสะโพกสอบ ก้นที่แน่นไปด้วยมัดกล้าม ยามเขาย่อตัวลงไปแล้วดันตัวขึ้นลง ภาพที่เขากระแทกเข้าใส่เธออย่างดุดันเมื่อคืนก็ปรากฎขึ้นในหัว และยามนั้นเธอเสียวจนต้องจิกเล็บลงไปบนแก้มก้นของเขา มันคงแรงจนเป็นรอยถลอก ก็เขากระแทกแรงเหลือเกิน เธอเสียวจนไม่มีที่ระบายออกนี่นา
คิดได้ดังนั้นใบหน้าสวยก็แดงก่ำ เลือดในกายเธอฉีดพล่าน กึ่งกลางลำตัวร้อนจนฉ่ำชื้น
และอย่างไม่ทันตั้งตัว ธัญธรก็หยุดจากการวิดพื้นแล้วลุกพรวดขึ้นมา เพราะเขาบังเอิญเห็นเงาสะท้อนของเธอกับตู้ที่อยู่ติดเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ และเขาหันหน้ามาทางที่เธอยืนอยู่ทันที
ไนท์สะดุ้ง ตัวชาวาบไปหมด โดนจับได้เสียแล้ว !
“ มีอะไรหรือเปล่าไนท์ ” เขาถามเธอเสียงเรียบ ไนท์กลืนน้ำลายลงคอ กระพริบตาถี่ ๆ เรียกสติ ก่อนจะตอบกลับไปเสียงสั่นเทา
“ คือ.... ไนท์หิวค่ะ ”
“ อ้อ ” เขาว่าสั้น ๆ แล้วพยักหน้า
“ ก็น่าจะหิว เห็นทานนิดเดียว ”
“ ค่ะ ” เธอตอบสั้น ๆ แล้วรีบเดินขาสั่นไปที่ครัว
“ ไนท์ขอเปิดไฟแป๊บนึงนะคะ ” เธอร้องบอกพลางหันไปเปิดไฟที่ห้องครัว ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อหมุนตัวมาชนเขา
“ อุ๊บ ! ” ปากที่กำลังจะอุทานถูกปิดไว้ด้วยมือใหญ่
“ ชู่ว อย่าเสียงดัง เดี๋ยวธีตื่น ” เขาว่าพลางจ้องมองเธอด้วยสายตาลึกล้ำ จนคนถูกมองตัวสั่น
“ ทะ... ทำไมต้องกลัวธีตื่นด้วยล่ะคะ ” ถามปากคอสั่น หรือว่าเขาจะทำกับเธอแบบคืนที่ผ่านมา !
“ ก็แค่ไม่อยากรบกวน เธอจะทำอะไรทาน ” เขาว่า เธอได้สติ รีบขยับออกห่างจากตัวเขา
“ เดี๋ยวไนท์ต้มมาม่าใส่ไข่ก็ได้ค่ะ ” ว่าพลางเปิดตู้ค้นอะไรกุกกักอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็พบว่า
“ มาม่าหมด ! ” เธอโพล่งออกมาอย่างผิดหวัง
“ ข้าวเย็นก็ยังมีอยู่ ทำข้าวผัดก็ได้ ” เขาบอก เธอยิ้มเจื่อน
“ ไนท์ทำกับข้าวไม่เป็นหรอกค่ะ ฝีมือห่วยมาก ขนาดต้มมาม่ายังไม่อร่อยเลย ” เขายิ้มมุมปากออกมา
“ เดี๋ยวทำให้ ”
“ แต่ไนท์เกรงใจค่ะ ”
“ ไม่เป็นไร ” เขาตอบกลับเท่านั้นแล้วเดินไปหยิบอะไรต่ออะไรออกมาเตรียมไว้จากตู้เย็น โดยมีไนท์ที่ยืนหัวโด่ ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรดี
เธอยืนมองมือใหญ่หั่นโน่นหั่นนี่ เตรียมของอย่างเพลิดเพลิน เขาดูคล่องแคล่วไปเสียหมด และในบางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะมองเรือนร่างครัดเครียดไปด้วยกล้ามเนื้อนั่น บางคราวก็มองผ่านกางเกงสีขาวเนื้อผ้าบางนั้นเข้าไปพบเจออะไรบางอย่างที่เป็นรูปลำ
หัวใจกระตุกวาบ เขาคงไม่ได้ใส่ชั้นใน เลยเห็นชัดขนาดนั้น
“ น้ำตาลทรายหมดแล้วเหรอ ” เขาเอ่ยถาม ทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์
“ คะ ? ”
“ น้ำตาลทรายน่ะ ในกระปุกมันไม่เหลือแล้ว ธีมันมีสต็อกหรือเปล่า ”
“ ไม่แน่ใจค่ะ เดี๋ยวไนท์ช่วยหานะคะ ” เธอว่าพลางกุลีกุจอเปิดตู้บิวต์อินชั้นล่าง ก็ไม่พบ จึงย้ายไปหาจากตู้ชั้นบนแทน
“ นี่ไงคะคุณธัญ ไนท์เจอแล้วค่ะ ” เธอหันไปบอกเขาด้วยรอยยิ้มอย่างดีใจ
“ แต่หยิบไม่ถึง ” เธอว่าต่อเมื่อพยายามเอื้อมหยิบถุงน้ำตาลทรายขัดขาวแล้ว
“ ไม่เป็นไร ” เสียงห้าวดังอยู่เหนือศีรษะ
ธัญธรขยับมาหยิบน้ำตาลทรายเอง ด้วยการยืนอยู่แนบชิดติดด้านหลังของเธอ มือหนึ่งวางบนเคาน์เตอร์ตู้ อีกมือเอื้อมไปหยิบน้ำตาลทราย
“ ได้แล้ว ” เขาบอกอยู่ข้างหู เธอไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือเขาตั้งใจกันแน่ ที่ริมฝีปากเขาแตะโดนใบหูของเธอเบา ๆ พลางพ่นลมหายใจร้อน ๆ ออกมา ที่ร้ายที่สุดคือเบื้องหน้าของเขาที่มันโด่เด่เป็นรูปลำ มันกำลังดุนดันอยู่กับกลีบก้นงอนงามของเธอเบา ๆ