2
“จับปล้ำทำเมีย”
“หื่นนะครับนี่”
“ลามปามนะมึง”
“เจ้านายไม่กลัวคุณไหมไม่ให้อภัยเหรอครับ”
“คนอย่างกูเหรอวะจะกลัวเมีย”
“ผมเปล่าว่าเจ้านายกลัวเมียนะครับ”
ครามแอบคิดในใจว่าเจ้านายของเขาร้อนตัวเอาเองนะ เขายังไม่ได้พูดสักคำว่ากลัวเมีย แค่ถามว่าไม่กลัวเขาไม่ให้อภัยเหรอ แค่นั้นจริง ๆ
นี่มันเข้าตำราเกลียดมัว กลัวเมียนี่หว่า
“มึงจับดี ๆ ถามมากฉิบ กูเป็นใคร มึงไม่รู้หรือไง”
“ขนาดเจ้านายยังไม่รู้แล้วผมจะรู้ไหมครับ”
“ไอ้นี่กวนส้นตีน”
“ผมเปล่านะครับ ก็เจ้านายถามว่าเจ้านายเป็นใคร เจ้านายไม่รู้เหรอครับ โอ๊ย! เจ้านายตบกะโหลกผมทำไมอีกครับ”
“ไอ้ซื่อบื้อ ถ้ามึงยังขืนกวนตีนกูอีก กูจะตบกะโหลกมึงให้ยุบ ที่กูถาม หมายความว่ากูนี่คือใคร มาเฟียระดับตำนาน ผ่านสมรภูมิมานักต่อนักแล้ว ขนาดสองสี่เก้าเก้าอันธพาลครองเมือง มาเจอกูยังต้องจอด”
“อ้อ... ครับ ผมรู้ว่าเจ้านายเก๋ามากๆ เลยครับ ไม่มีใครกล้าหือกับเจ้านายหรอกครับ”
คนที่ไม่กล้าหือก็กูนี่ไง ครามทำตาปริบ ๆ
“มึงรู้ก็เงียบปากได้แล้ว กับนักเลง พวกมันเห็นกูยังวิ่งป่าราบ แต่นี่แค่เมีย กูแค่กระดิกนิ้วมึงคิดว่าเมียกูจะยอมกลับไปกับกูไหม”
“ไม่กลับครับ”
“มึงว่าอะไรนะ”
“กลับก็กลับครับ” ครามเสียงอ่อย
“ถ้าไม่เพราะคุณย่าจะแกล้งกู กักเมียกูเอาไว้ ป่านนี้คงวิ่งหนีตามกูกลับบ้านไปแล้ว นี่กูจะปีนขึ้นไปช่วยเมียกูลงมาจากหอคอยงาช้าง ป่านนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งคิดถึงกูจนทนไม่ไหวแล้วมั้ง”
“ก็คงอย่างนั้นแหละครับ” คุยกันอยู่ตั้งนาน ครามก็ได้แต่ถอนใจ สรุปว่าเจ้านายของเขาหลงตัวเองเหมือนเดิม
ใครจะรู้บ้างว่ามาเฟียใหญ่สุดโหดอย่างเจ้านายของเขาจะต้องมาปีนห้องเมียแบบนี้
รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั่น
“แกจับดี ๆ ฉันจะปีนแล้ว”
“ครับ”
“ทำอะไรน่ะ”
“เฮ้ย ๆ ๆ” ยังไม่ทันได้ปีนไปถึงไหน เสียงเข้มของหญิงชราก็ทำให้นักรบสะดุ้งตกใจ แทบตกลงมาจากบันได
“ไอ้ครามมึงจับดี ๆ ไม่งั้นกูกระทืบมึงแน่”
“ผมก็จับดีอยู่นี่แหละครับ” ครามรีบพูดเพราะกลัวโดนกระทืบ
มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลอย่างนักรบ ประชาธิปไตย รีบปีนลงมาจากบันไดด้วยสีหน้าขึงขัง
“ทำอะไรเหมือนเด็ก ปีนขึ้นไปทำไม” หงส์หยกถามเสียงเข้มเอากับหลานชาย
“คุณย่าครับ เราไปคุยกันในบ้านดีกว่าครับ นี่ต่อหน้าลูกน้องผมเลยนะครับ เดี๋ยวเสียการปกครองหมด” นักรบเอ่ยกับผู้เป็นย่าเสียงเบาในท้ายประโยค เหมือนเป็นการกระซิบกระซาบ
“ตามมา” หงส์หยกพูดเสียงเข้มกับหลานชาย
“ครับย่า แกรออยู่นี่ก่อนไอ้คราม” รับปากผู้เป็นย่าแล้วหันไปสั่งลูกน้องที่ยืนสงบเสงี่ยมรออยู่อีกด้าน
“ครับ” ถูกสั่งให้รอก็ต้องรอ ครามคิดว่าจะเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนี้แหละ
“โอ๊ย! คุณย่าดึงหูผมทำไมครับ” ที่ไม่อยากให้ลูกน้องเข้ามาเพราะรู้ดีว่าจะมีสภาพเป็นยังไง
ถ้าครามและลูกน้องคนอื่นมาเห็นว่าเขาโดนผู้เป็นย่าดึงหู รับรองได้เลยว่าเสียการปกครอง
“ยังจะมาพูดอีก เราก็โตแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ ปีนขึ้นไปแบบนั้น ถ้าตกลงมาแข้งขาหักจะทำยังไง”
“ย่าเป็นห่วงผมเหรอครับ”
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ย่ามีเราเป็นหลานชายเพียงคนเดียว ไม่ให้เป็นห่วงเราแล้วจะให้เป็นห่วงใคร”
“งั้นคุณย่าก็คืนเมียให้ผมสิครับ”
“ไม่ได้”
“โหย... คุณย่า” นักรบโอครวญ
“ย่าเป็นหนี้บุญคุณเมียเราอยู่ เคยลั่นวาจาไปแล้วว่าจะช่วยเขาทุกอย่างที่เขาขอ เขาอยากมาพักอยู่ที่นี่และไม่อยากเจอเรา ย่าก็ต้องช่วยเขา”
“แอบช่วยก็ได้ครับคุณย่า ผมไม่บอกหลานสะใภ้คุณย่าหรอก”
“ก็ถ้าเราไม่ทำตัวเหลวไหล เมียจะหนีเรารึ”
“ผมไม่มีอะไรกับนีรนุชทั้งนั้นเลยครับคุณย่า แค่ผลประโยชน์และเรื่องของธุรกิจล้วน ๆ”
“แล้วทำไมไม่อธิบายให้เมียเราเขาเข้าใจ ปล่อยให้หอบลูกในท้องหนีมาแบบนี้”
“ม่านไหมท้องเหรอครับย่า”
“ก็ใช่น่ะสิ เพราะเรามันไม่เอาไหนไง ทำให้เหลนในท้องของย่าเกือบเป็นกำพร้าพ่อแล้ว นี่แน่ะ!” คุณนายหงส์หยกดึงหูของหลานชายอีกรอบ นักรบก็โอดครวญร้องเสียงหลง
“ผมเจ็บครับย่า”
“ที่ไม่อธิบายเพราะคิดว่าหล่อเลือกได้ว่างั้น คิดว่าเขาเป็นของตาย เขาไม่หนีไปจากตัวเองแน่นอน”
“โธ่... ย่าก็”
“อย่ามั่นหน้ามั่นโหนกให้มากนัก ผู้หญิงน่ะถ้าเขาไม่เอาขึ้นมา เขาก็พร้อมหายไปจากชีวิตของเราไม่หวนคืนนะ ย่าจะบอกให้”
“ทำไมย่าพูดจาน่ากลัวจังเลยครับ”
“ย่าพูดจริง ๆ เราเคยเห็นว่าย่าพูดเล่นรึไง”
“ไม่เคยครับ”
“เอาละ เขาโกรธก็ค่อยไปง้อ แต่ไม่ใช่ไปปีนตึกแบบนั้น พอกันเลยทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง ถ้าตกลงมาแข้งขาหักจะทำยังไง เห้อ...” หญิงชราที่ร่างกายยังแข็งแรงเพราะรำไท่เก๊กทุกวันถอนใจเฮือกใหญ่
ท่านเป็นหญิงสูงวัยที่แข็งแรงมากๆ ออกกำลังกายทุกวัน กินอาหารที่มีประโยชน์ โดยการปลูกผักกินเอง
ท่านอยู่บนเขาแห่งนี้ก็เลี้ยงสัตว์ปลูกผัก เลี้ยงปลา ชีวิตที่นี่เงียบสงบ ทุกเดือนเขาจะมาเยี่ยมท่านหนึ่งครั้ง แต่หลัง ๆ งานยุ่งเลยไม่ค่อยได้มา