บทที่ 4
สรุปแล้วลุงพีร์อยากให้ฉันเรียนให้จบไฮสคูลค่ะ หลังจากที่เราคุยกันแล้ว มันก็อีกแค่สองปีเองกระมังฉันก็จะเรียนจบแล้ว ฉันหยุดเรียนเพราะไปทุ่มเทให้กับงานแสดงนั่นแหละค่ะ ถึงแม้ฉันจะไม่ชอบเลยก็ตาม แต่มันก็ทำเงินให้ฉันมหาศาล ไหนจะมรดกของพ่อ หุ้นของพ่ออีก บลา บลา บลา บลา ฉันก็กลายเป็นสาวน้อยที่รวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศไปเสียแล้ว
ไอ้ครั้นไม่อยากจะเป็นคนดัง ทีนี้ก็เริ่มจะยากแล้วสิ
มันเป็นการอยู่ที่ค่อนข้างจะลำบากนะคะ ถ้าเกิดว่าคนเค้ารู้จักเราไปทั่วบ้านทั่วเมืองเสียแล้วขนาดนี้ ขนาดครูใหญ่โรงเรียนที่ลุงพีร์พาไปสมัคร คือ...ฉันเป็นคนเลือกเองนั่นแหละค่ะ เอาให้ไกลๆ ผู้คน และบ้านนอกให้มากที่สุด เขาก็ยังรู้จักฉัน เซลฟี่กันกับฉันรัวๆ เลยตอนที่ไปสมัครเรียน แถมยังทำป้ายต้อนรับอันใหญ่มาก ป้ายสกรีนพิมพ์อย่างดีขนาดเท่าหลังคาโรงเรียน โอ...พระเจ้าช่วย ฉันจะกล้าเรียนไหมคะ?
หลังจากสมัครเรียนแล้ว ฉันและลุงพีร์ก็มองสบตากัน ลุงพีร์มีสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งจะบึ้งอย่างไรพิกล เขามักจะทำหน้าแบบนี้เวลาจะกลั้นขำน่ะค่ะ
“ตายล่ะ ลุงเพิ่งจะรู้ว่ามินนี่ดังขนาดนี้”
“รางวัลที่มินนี่ได้มามันไม่ใช่ขี้ๆ นะคะ” ฉันว่าพร้อมกับถอนใจเฮือกใหญ่
“ไหนจะข่าวการตายของพ่ออันลือลั่นนั่นอีก โอย...มินนี่ไม่อยากพูดถึงเลยจริงๆ ทำไมจะต้องโลภอะไรขนาดนั้นด้วยนะลุงพีร์ สามคน? ผู้ชายเป็นแบบนี้กันหมดไหมนะ”
“ลุงคงจะไม่ไหวนะ” เขาว่าพลางส่ายหน้า “ทีละคนดีกว่า”
หืม?
ฉันถึงกับเลิกคิ้ว ทำกรี๊ดเสียงสูงปรี๊ดในใจ นี่ลุงพีร์ก็เคยทำอะไรอย่างว่านั่นด้วยรึ? เออ...ก็ต้องเคยบ้างกระมัง ลุงพีร์เป็นผู้ชายนี่
ลมออกหูฉันเลยล่ะค่ะตอนนี้
อาการแบบนี้เรียกว่าอะไรหว่า
น่าจะเรียกว่าหึงสินะ
“ลุงพีร์ชอบทีละคน”
ฉันแกล้งถาม เขามองหน้าฉันก่อนจะหรี่ตา คงจะเห็นสีหน้าของฉันนั่นแหละค่ะ เขาอมยิ้ม แล้วเอื้อมมือมาขยี้ผมฉันเบาๆ
“แล้วไง? ใครจะบ้าเหมือนพ่อเรากัน บ้าตั้งแต่สมัยไหนแล้ว หมอนั่นน่ะ หึๆ”
“แล้วตอนนี้มีรึเปล่าคะ” ฉันเริ่มเล็งเป้า...ไปยังคำถามที่โคตรต้องการคำตอบ ลุงพีร์เลิกคิ้ว
“มีอะไร”
“ลุงพีร์แฟนรึเปล่าคะ”
นั่นไงฉันยิงแล้ว แทบจะหลับตาปี๋ฟังคำตอบ ลุงพีร์หัวเราะแล้วยักไหล่ เขาหันไปมองทางข้างหน้าแล้วล่ะตอนนี้ ทำให้ฉันได้แอบมองหน้าคมๆ ของเขาได้อย่างเพลินตา ชุ่มหัวใจ
โอย...อยากจะกระโจนหอมสักหลายๆ ทีจริงๆ
“ไม่มีหรอก เพิ่งจะอกหักไปหมาดๆ แถมตอนนี้ลุงมีลูกติดแล้วด้วย ก็มินนี่ยังไงล่ะ คงจะหาเมียยากล่ะทีนี้”
“มินนี่ไม่ใช่ลูกลุงพีร์เสียหน่อย”
ฉันทำตาโตใส่เขา ยังไงก็ไม่ยอมเป็นหรอกค่ะ ลูกอะไรนี่ ฉันอยากเป็นอย่างอื่นของลุงพีร์มากกว่า อยากเป็นมาตั้งแต่แตกเนื้อสาว
อย่ามาคิดให้ฉันเป็นลูกลุงพีร์เลยอะ
ไม่เอ๊า
“ก็แดเนียลยกให้เป็นลูกสาวลุงนี่”
“อายุลุงพีร์กับมินนี่ เป็นแฟนกันยังได้เลย จะมาเป็นลูกอะไร ลุงพีร์อยากแก่หรือยังไงกัน”
ฉันก็ต้องหัวทิ่มเมื่อลุงพีร์เบรกรถดังเอี๊ยด เขาหน้าเผือดไปเล็กน้อย ฉันหันขวับมองหน้าเขาอย่างตกใจ พลางเลิกคิ้ว
“อะไรคะมีอะไร?
“เอ่อ...” ดูเหมือนเขาจะได้สติแล้วตอนนี้ เขายักไหล่ แล้วเคลื่อนรถไปต่อ พลางพูดอุบอิบว่า
“ลุงเห็นแมวตัดหน้ารถน่ะ กลางวันนี้กินแม็คโดนัลกันนะ”
เขาเลี้ยวรถเข้าไปยังร้านแล้วล่ะค่ะ แล้วจะมาถามทำไมอะ?
เอ...แล้วลุงพีร์คิดยังไงนะ กับการที่ฉันพูดไปเมื่อกี้
ไอ้แมวนั่นไม่น่าตัดหน้ารถเลยจริงๆ ดูสิ...ไอ้ที่อ่อยไป จะรู้เรื่องหรือเปล่านั่น
ฉันคิดอย่างแก่แดดแก่ลม
....................................................................................................................................................................................................
ลุงพีร์มาดูแลฉันอย่างเต็มตัว ก่อนที่ฉันจบไฮสคูล เขาเลยลงทุนมาอยู่กับฉันที่นี่ เราเลือกอยู่ที่เวอร์จิเนีย ถิ่นเก่าของลุงพีร์ แน่นอนค่ะว่าโรงเรียนที่ไปสมัครหนแรก เราเปลี่ยน...โอย...ไม่ไหวหรอกค่ะ ไปเรียนแล้วอาจจะต้องถูกจับจ้องทุกฝีก้าวขนาดนั้นอะ ลุงพีร์พาฉันไปสมัครเรียนที่โรงเรียนเดิมของลุงพีร์กับพ่อ บอกฉันว่าครูใหญ่เป็นคนที่เจ๋งสุดๆ และก็ยังทำงานอยู่ด้วยสิคะ เขายิ้มส่งให้ฉัน พร้อมกับยกมือให้ฉันจับ แล้วก็พูดต้อนรับฉันว่า
“มีคนเจ๋งๆ เข้ามาอีกแล้วสินะ ยินดีที่มาอยู่กับเราอีหนูสายซิ่ง”
เอ่อ...
อีหนูสายซิ่ง
โอ้โห...
เขาเรียกฉันแบบนั้นเพราะผลงานภาพยนตร์เรื่องหนึ่งของฉันนั่นแหละค่ะ มันเป็นหนังที่เรียกได้ว่า...จังไร...แหะๆ ตลกแบบจังไรที่สุดเลยก็ว่าได้ บทไม่มีอะไร มีแต่ตลกร้ายๆ อุบาทว์ๆ เป็นหนังที่โดนด่ามากที่สุด ฉันรับบทเป็นลูกสาวนางเอก เด็กระยำ...เอ่อ...ก็บทมันเป็นแบบนั้นจริงๆ นะคะ เด็กร้ายกาจที่เผาโรงเรียน พาคนไปรุมกระทืบคนที่มามองขาอ่อนแม่ด้วยการสร้างเรื่องว่าจะโดนข่มขืน ขโมยของ บลา บลา บลา บลา ใครเขียนบทกันนะ? อ้อ...พ่อฉันเองนั่นแหละค่ะ แหะๆ แถมยังวินาศสันตะโรด้วยการดึงเรื่องซอมบี้มาโป๊ะกับหนังรักคอมมาดี้ได้อย่างวอดวายสุดๆ เว็บมะเขือเน่าถึงกับออกมาด่าว่าหนังห่าอะไร แล้วไงใครแคร์? ก็พ่อเป็นคนออกเงินสร้างเองกับมือ ช่วงนั้นพ่อจิตหลุดๆ ไปหน่อยนั่นแหละค่ะ เลยเพี้ยนจัดคิดทำอะไรแบบนี้ขึ้นมา
มีคนดูหนังบ้านี่ด้วยหรือนั่น
เขาขยิบตาให้กับฉัน ทำให้ฉันยิ้มกว้างส่งให้เขา ครูใหญ่ที่นี่เจ๋งดีไม่หยอกจริงๆ อ้อ...เขาแนะนำว่า เขาจะไม่บอกกล่าวถึงวีรกรรมความดีใดๆ ถ้วยใดๆ ที่ฉันเคยได้มาเมื่อก่อน ถ้าฉันอยากเด่นที่นี่ มันจะต้องไม่ใช่ความเด่นดังที่ติดตัวมา ต้องสร้างเอง และขอให้สร้างในทางดีๆ ด้วยล่ะ
เป็นครูใหญ่ที่เจ๋งดีจริงๆ
เขายังแนะนำว่าถ้ามีใครมาถามว่าฉันคือ มารีอา กมลกานต์ วอชิงตันไหม ให้บอกไปเลยว่า แค่หน้าคล้ายก็ได้นะ ฉันจะได้ชิวๆ สบายๆ ไม่ต้องหลบคนบ้าคนดัง
ฉันมีชื่อไทยค่ะคือกมลกานต์ ลุงพีร์เป็นคนตั้งให้อีกตามเคย เพราะไหมคะ แปลว่าอะไรหนอก็ไม่รู้ล่ะค่ะ แต่ว่าเวลาฟังชื่อตัวเองที่คนอื่นเรียก มันก็โอเคดีนะคะ
อ้อ...ฉันพูดไทยได้ด้วยล่ะค่ะ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่ฉันไม่เคยลืม และหาเพื่อนพูดเสมอๆ นั่นก็เพราะมันเป็นที่ระลึกของความรักแบบลูกหมาของฉันยังไงล่ะคะ
เราได้บ้านที่นี่อยู่ในเขตใกล้โรงเรียน ลุงพีร์ตัดสินใจทิ้งงานเพื่อมาอยู่ดูแลฉันเป็นเวลาสองปีที่เขาจะอยู่กับฉัน โอ...เขายอมทิ้งงานมาดูแลเด็กคนหนึ่ง มันทำให้ฉันยิ่งรักเขามากขึ้นไปอีก ลุงพีร์เป็นคนชอบทำงานมาก เรียกว่าอย่างนั้นก็ได้ เพราะตั้งแต่ฉันรู้จักเขามา ภาพของผู้ชายคนนี้ คือผู้ชายที่ยืนกลางแดด มีความสุขกับงานในฟาร์ม เขายิ้มกว้างเสมอ ยิ้มให้ทุกสิ่งแม้กระทั่งแม่วัวหรือเสารั้ว ลุงพีร์เล่าว่าที่เมืองไทยลุงพีร์ก็ทำฟาร์มเหมือนกัน แต่ตอนนี้อยู่ตัวแล้ว ก็ทิ้งให้แม่ของเขาดูแลไปก่อน เพื่อมาดูแลฉัน แม่ของเขายังจำฉันได้ ป้าของเขาด้วย ฉันชอบทั้งสองคนมากเลยล่ะค่ะ พวกท่านน่ารักและใจดีมาก
ปิดเทอมเขาจะพาฉันไปเที่ยวเมืองไทยด้วยล่ะค่ะ ว้าว...มันจะต้องสนุกแน่ๆ เลย
ความที่เป็นคนอยู่ว่างไม่ได้ แล้วตอนที่ฉันไปโรงเรียน ลุงพีร์จะทำอะไรล่ะนั่น? ฉันนึกภาพเขานอนดูทีวีอยู่บ้าน ดูเคเบิ้ล ดูซีรีส์ ทำกับข้าวรอฉันกลับมา...เอ่อ...ก่อนนอนก็อ่านนิทานให้ฉันฟัง ทำงานบ้าน ลั้นลาแบบแม่บ้าน...ไม่สิ...จะบ้ารึไง รึลุงพีร์จะทำแบบพ่อ คือสนุกกับวันหยุดให้เต็มที่ ปาร์ตี้ ผู้หญิง ปาร์ตี้ ผู้หญิง พ่อทำอะไรบ้างนะนอกจาก งาน ปาร์ตี้ ผู้หญิง ก็ไม่นะ? เท่าที่ฉันจำเรื่องเกี่ยวกับเขาได้ แต่ฉันก็ยังรักเขาอยู่ดีนั่นแหละ อ้อ...พ่อก็พาฉันไปปาร์ตี้ด้วยนี่นา เหอๆ เอาล่ะ อย่างน้อยๆ เขาก็ไม่ทิ้งฉันเสียทีเดียวล่ะ