บทที่ 1 ชีวิตแปรผัน
บทที่ 1 ชีวิตแปรผัน
"ปล่อยฉันบอกให้ปล่อย...นายไม่ได้ยินรึไงฉันเจ็บนะโว้ย!!” มีนดิ้นสะบัดออกจากการถูกลากดึงร่างเล็กของตนให้เข้ามารถหรูที่จอดอยู่ด้านหน้า ชายที่โหดเหี้ยมผู้นี้เธอยังไม่เคยพบเห็นด้วยซ้ำ วันนี้เธอได้นัดกับพี่สาวลูกพี่ลูกน้องออกมาทานข้าวที่โรงแรมหรูแห่งนี้เพราะว่าวันนี้พี่สาวของเธอเป็นคนจองและนัดเธอมา เธอก็ได้มาตามที่นัดไว้แต่แล้ว เธอกลับต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้ ชายที่ฉุดกระชากเธออยู่นั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลาหากแต่ว่าเขากลับดูบึ้งตึงตลอดเวลา เมื่อเห็นมีนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารของโรงแรมเขาก็มาลากเธอโดยที่ไม่ฟังคำถามที่เธอถามเลยสักนิด
“ถ้าเธอไม่อยากตาย ให้เธอเข้าไปนั่งอยู่บนรถนิ่ง ๆ ไม่เช่นนั้นฉันจะส่งเธอไปลงนรกเอง” เขาถลกปลายเสื้อขึ้นเผยให้เห็นปืนที่ซุกซ้อนอยู่ในเอว มีนสั่นสะท้านเธอกลัวและไม่สามารถที่จะขัดขืนได้อีกต่อไป เธอจึงได้แต่ทำตามที่เขาสั่งเมื่อเธอเข้ามานั่งในรถชายคนนั้นก็ได้พาเธอขับเคลื่อนออกจากโรงแรมแห่งนี้ โดยที่ไม่ได้ปริปากเอ่ยอะไรกันเลยสักคำ
สักครู่รถก็ถูกขับเคลื่อนมาที่บ้านหรูหลังใหญ่โตมีนได้กวาดตาสำรวจทางเข้าบ้านเพื่อหาทางหนีแต่กลับพบว่ายิ่งขับเข้ามาเท่าไหร่ก็ไม่ถึงตัวบ้านเสียที หากเปรียบล่ะก็ทางเข้าบ้านนั้นห่างจากตัวถนนราวห้ากิโลเมตร
เสียงเครื่องยนต์ดับลงมีนมองดูด้านหน้าเห็นชายวัยกลางคนรีบวิ่งมาเปิดประตูรถ
"คุณชายครับวันนี้คุณนายใหญ่ได้เข้ามาหาคุณชายด้วยนะครับ "
"แล้วคุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง ? ลุงครับไปบอกให้ป้าพรเก็บกวาดห้องฝั่งซ้ายที่อยู่ข้างห้องของผมให้ด้วยนะครับ " ชายตรงหน้ามีนได้สั่งชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าด้วยน้ำเสียงนอบน้อม แตกต่างจากที่พูดกับเธอเป็นอย่างมาก
"ได้ครับ " ชายวัยกลางคนชำเลืองตามองมาทางมีน ทำให้เธอรีบหลบสายตาทันที
"นี่เธอลงมาได้แล้ว จะนั่งอยู่ในรถนี่ตลอดเวลาเลยหรือไง "
"ไม่ฉันไม่ลง นายเป็นใครฉันยังไม่รู้จักด้วยซ้ำจะให้ฉันจะไปกับคนแบบนายได้อย่างไร " มีนนั่งกอดอกอยู่บนรถและไม่ยอมลงมา
"จะลงไม่ลงหากไม่ลงฉันจะอุ้มเธอลงจากรถเอง" มีนรีบดีดตัวลงจากรถเพราะรู้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้านั้นต้องทำอย่างที่เขาพูดจริงๆ
"เออฉันลงก็ได้"
"เธออย่าคิดจะหนีจากที่นี่เพราะที่นี่มีกล้องวงจรปิดเกือบทุกที่ บอดี้การ์ดของฉันเดินไปทั่วบ้าน เธอคงไม่โง่หนีออกมาหรอกใช่มั้ย? อีกอย่างบอดี้การ์ดของฉันมีปืนทุกคน กลางค่ำกลางคืนเธอเดินออกมานอกบ้านฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของเธอเป็นแน่ "
"นี่นายคิดจะขู่ฉันหรือไง ฉันไม่กลัวหรอก" มีนทำท่าทางไม่เกรงกลัวแต่แท้ที่จริงแล้วเธอสั่นกลัวไปหมด ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเมื่อเห็นว่ามีนดื้อรั้นเขาจึงถลกปลายเสื้อขึ้นอีกครั้ง แต่มีนรู้ดีว่าเขาคงแกล้งทำให้เธอกลัว แต่เธอคิดผิดเพราะครั้งนี้เขาได้จับปืนออกมานอกเสื้อแถมยังควงปืนต่อหน้าเธออย่างคุ้นมือ
"ฉันไม่ได้ขู่แต่ฉันเอาจริง" มีนเห็นดังนั้นจึงรีบจับแขนของเขาอย่างนอบน้อม
"แหม ๆ ฉันก็พูดไปอย่างนั้นเองนายวางปืนลงเถอะนะ ฉันก็มีสมองมากพอไม่คิดหนีออกไปไหนหรอกนะ"
"ว่านอนสอนง่ายอย่างนี้สะ ถึงจะอยู่ที่นี่ได้นาน ๆ อย่าให้เหมือนคนก่อน ๆ เธอรู้มั้ยว่าจุดจบคือการไปนอนเป็นปุ๋ยอยู่ใต้ต้นไม้หลังบ้านของฉัน" เขาไม่เพียงขู่แต่แสดงสีหน้าออกมาอย่างจริงจังก่อนจะดึงแขนมีนให้เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน
"ยังไงฉันก็หนีนายไม่ได้อยู่ดี ช่วยทำเบา ๆ กับฉันหน่อยได้มั้ย นายนี่มันเถื่อนชะมัด" มีนบ่นอุบอิบเดินตามหลังเขามาด้านใน ภายในตัวบ้านของเขาตกแต่งด้วยของหายากมากมายและแต่ละชิ้นที่ประดับอยู่ราคาไม่น่าจะน้อย ๆ มีนกำลังเดินสำรวจอยู่ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามา
"คุณชายคะตอนนี้ป้าได้จัดห้องไว้ให้แล้วว่าแต่หนูคนสวยนี่เป็นใครกันจ๊ะ ป้าไม่เคยเห็นคุณหนูพามาที่บ้านสักครั้ง"
"ป้าพรครับนี่ว่าที่ภรรยาของผมหากจะพูดกับตามตรงเธอกำลังจะมาเป็นเมียของผมนะครับ จากนี้ไปฝากป้าดูแลเธอด้วย" มีนแทบไม่อยากเชื่อที่หูเธอได้ยิน การที่เธอนัดกินข้าวกับพี่สาวทำให้เธอกลายเป็นเมียของชายโหดคนนี้ได้อย่างไร
"นี่เดี๋ยวนะ!! ใครเขาเป็นเมียนายกันขนาดชื่อฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายชื่ออะไรเป็นใครมาจากไหน หน้าตาของนายฉันก็ไม่เคยพบเจอ ฉันว่านายจำผิดคนแล้วล่ะ ป้าคะขอโทษด้วยนะคะแต่ฉันว่าคุณชายของป้าน่าจะมีปัญหาด้านสมองว่าง ๆ ป้าน่าจะพาเขาไปด้วยทีนะคะ เสียดายความหล่อความรวยฉันขอตัวกลับนะคะ เพราะยังไงฉันก็คิดว่าเขาน่าจะจำคนผิดแน่นอน" มีนสะบัดแขนออกจากการถูกจับก่อนจะยกมือไหว้เพื่อขอตัวกลับ แต่เมื่อเธอหันหลังกำลังจะเดินออกมาด้านนอกบ้านเสียงเข้มขรึมก็ได้ดังขึ้น
"น.ส.กนกพร นฤมล ชื่อเล่นมีน อายุ 21 ปี นักศึกษาปีที่ 3 วัน ๆ ไม่ค่อยทำอะไรเอาแต่เที่ยวเล่นกับเพื่อน ๆ ใช้เงินซื้อของแบรนด์เนมจนกระทั่งเงินไม่พอใช้ เธอได้มาทำเรื่องกู้ยืมเงินของบ้านฉันไปใช้ โดยในสัญญาเขียนว่าหากภายในสามเดือนเธอไม่มีเงินใช้หนี้ เธอสามารถให้ครอบครัวของฉันจัดการกับเธออะไรก็ได้ ฉันคิดดูแล้วคนอย่างเธอที่เรียนไม่จบวัน ๆ ไม่เอางานเอาการอะไรจะหาเงินไหนมาคืนฉัน สิ่งเดียวที่เธอทำได้ตอนนี้คือการเอาตัวของเธอมาใช้หนี้ฉันให้สาสมกับเงินที่ได้กู้ยืมฉันไป เมื่อฉันพอใจและคิดว่ามันคุ้มค่าเงินที่เธอยืมไปเมื่อไหร่ ฉันจะปล่อยเธอไปทันที" มีนหูอื้อ สมองขาวโพลนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรสักอย่าง เธอไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ อีกอย่างแม้เธอจะเป็นนักศึกษาเธอก็ยังมีงานทำช่วงที่ไม่ได้เรียน ของแบรนด์เนมไม่ต้องพูดถึงเธอไม่เคยที่จะซื้อมันด้วยซ้ำเธอเป็นคนที่ประหยัดเงินมาก ๆ แล้วเช่นนี้เธอจะมาติดหนี้ผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร หากเป็นพี่สาวเธอมลดาเธอจะไม่เถียงสักคำ