บทที่ 1 คู่นอน
บทที่ 1 คู่นอน
ห้องสี่เหลี่ยมตกแต่งด้วยของใช้สีชมพูทั้งห้อง บรรยากาศในห้องที่กำลังดังก้องไปด้วยเสียงเหนื่อยหอบของร่างบางกระเส่าครางออกมาอย่างเสียวซ่าน
“คุณอาขา เมเมไม่ไหวแล้ว คุณอาทำให้เมเมหายใจไม่ทันแล้ว” เสียงแหบพร่ากระเส่าบอกร่างใหญ่ที่กำลังกระแทกกระทั้นช่องรักของเมเมอย่างเร้าร้อน
“อาเองก็ไม่ไหวแล้ว เสียวเหลือเกินร่างกายของเมเมตอดรัดของอาแน่นไปหมด วันนี้ขออาแตกในตัวของเมเมได้มั้ยคะ” หนุ่มหล่อเจ้าของร่างใหญ่ก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ
“ได้สิคะ หากเป็นคุณอาจะแตกในกี่รอบเมเมก็ไม่ว่าหรอกค่ะ เมเมชอบน้ำรักของคุณอานะคะ” ร่างบางยิ้มยั่วมีหรือที่เขาจะทนใบหน้าเย้ายวนนั้นได้ เขาบีบเคล้นยอดปทุมถันจนร่างบางเกร็งตัวสั่นสะท้านเมื่อแรงโยกเอวของคุณอายิ่งรุนแรงขึ้น
“เมเมอาไม่ไหวแล้ว โอ๊ว!! อ๊าา!” เขากระแทกถี่ขึ้นจนในที่สุดน้ำรักของเขาก็ได้เข้าสู่ช่องรักของเมเมจนเต็มเอ่อล้นออกมา ร่างบางกระตุกเกร็งอีกครั้งเมื่อเขาถอดเอ็นร้อนออกจากร่างกาย ก่อนจะนอนกอดร่างเล็กที่หอบเหนื่อยอย่างน่าเอ็นดู
“ตอนที่เมเมเสร็จอาชอบดูที่สุดเลยค่ะ หน้าเซ็กซี่ของเมเมเก็บไว้ให้อาดูคนเดียวได้มั้ยคะ” เขาโอบกอดเธอก่อนจะกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา
“ได้สิคะ อย่างไรเมเมก็เป็นของคุณอาเพียงคนเดียว” ทั้งสองคนกอดกันและหลับไปด้วยความเหนื่อย
“เมเม” สาวน้อยน่ารักเป็นนักศึกษาปีที่ 3 อายุ 22 ปี ส่วนผู้ชายที่อยู่ในห้องตอนนี้คือคุณอาของกุ๊กไก่เพื่อนสนิทของเธอ ที่เธอได้มานอนอยู่ด้วยกันเช่นนี้เพราะ 6 เดือนที่แล้วกุ๊กไก่ได้ชวนเมเมไปที่บ้านของเธอและได้พบเจอกับปริณคุณอาที่มาเยี่ยมครอบครัวของกุ๊กไก่ เขาได้ถูกชะตากับเมเมจึงไม่รอช้าที่จะเข้าหาเธอเมื่อเห็นว่าเธออยู่เพียงลำพังระหว่างรอกุ๊กไก่อาบน้ำ เพราะเขาเป็นเสือผู้หญิงการจีบผู้หญิงจึงไม่ใช่เรื่องยากของเขาเลย ที่เขายังโสดอยู่จนอายุ 30 ปี เพราะรักสนุกไม่อยากที่จะผูกมัดกับใคร
เมเมสาวน้อยที่อ่อนต่อโลกเมื่อเจอวาจาที่หว่านเสน่ห์ของคุณอาทำให้เธอเองก็รู้สึกชอบเขาเช่นกัน และหลังจากนั้นทั้งสองก็ได้ออกมาพบกันโดยที่กุ๊กไก่ไม่รู้ เพราะเมเมอายเพื่อนของเธอ ปริณได้พาเมเมท่องเที่ยวราตรี และแล้วเธอก็ตกเป็นของเขา จนถึงทุกวันนี้ เขาได้เลี้ยงดูเธอเช่าคอนโดให้เธอได้อยู่และค่าใช้จ่ายเขาก็เป็นคนจ่ายให้เธอทั้งหมด เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเขานัดเจอแค่ครั้งสองครั้งแต่เมเมเขากลับไม่อยากให้เธอห่างกาย อยากเจอหน้าเธอในทุกๆ วัน
เมเมตื่นเช้าขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกแต่เมื่อลืมตาขึ้นมาข้างกายกลับว่างเปล่า ไม่พบคุณอาแล้วแต่เธอก็ไม่ได้น้อยใจหรืออะไรเพราะเธอชินชาแล้ว
“ออกไปเมื่อไหร่นะ น่าจะบอกกันก่อนสิ” เมเมบิดขี้เกียจก่อนจะลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำล้างตัวล้างคราบรักที่คุณอาทิ้งไว้
“ไม่คิดเลยว่าคุณอาจะรุนแรงอย่างนี้ หน้าอกแดงช้ำไปหมดเลย อย่างนี้คุณอาต้องชดใช้แล้วนะ” เมเมล้างตัวพร้อมสำรวจร่างกายตัวเอง เธอคิดว่าตนเองตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเด็กเสี่ยสักเท่าไหร่ มักจะได้เจอคุณอาก็ตอนเมื่อเขานัดเจอเท่านั้นเธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรเลย แต่มันก็ดีสำหรับเธอเช่นกันกุ๊กไก่ก็จะได้ไม่สงสัย เมื่อเธออาบน้ำเสร็จแล้วก็ออกมาใส่เสื้อผ้านั่งเป่าผมแต่งหน้าออกไปเรียนวันนี้เธอมีเรียนช่วงเช้า
สักพักเสียงมือถือก็ดังขึ้น
กริ้งๆ กริ้ง ๆ” เธอเดินมาหยิบมือถือที่วางอยู่บนหัวเตียงนอนก็พบว่าเป็นคุณอาที่โทรมา
“ตื่นหรือยังคะ ขอโทษที่ไม่ได้บอกนะคะเห็นเมเมกำลังหลับสบายเลยไม่อยากรบกวน คืนนี้เดี๋ยวอาพาออกไปกินข้าวนะคะ แต่งตัวสวยๆ รอเลย” ปลายสายได้บอกเธอด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“เมเมตื่นแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังจะออกไปเรียนเดี๋ยวจะแต่งตัวสวยๆ รอนะคะ อย่าให้เมเมต้องรอเก้อนะคะ”
“ได้สิ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ อาต้องไปทำงานก่อน”
“ได้ค่ะ ” เมเมกดวางก่อนจะหยิบใส่กระเป๋าเินออกจากคอนโดไปขึ้นรถเมย์เพื่อไปที่หมาลัย
“เมเม เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไปนะ รู้สึกเหมือนคนมีความรักเลย” กุ๊กไก่ที่นั่งอยู่ม้านั่งของมหาลัยเพื่อรอเพื่อนๆ เมื่อเห็นเมเมเดินเข้ามาก็รีบเดินไปหาอย่างดีใจ เธอสังเกตเห็นช่วงนี้เมเมดูมีความสุขเลยคิดว่าเธอกำลังมีแฟนแน่ๆ
“คนรักอะไรกันเล่า ว่าแต่ทำไมวันนี้เธอถึงมาเช้าได้ขนาดนี้นะ”
“เธอไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย เล่าให้ฉันฟังเลยนะว่าเป็นหนุ่มคณะไหนปีอะไร หรือว่าจะคณะเดียวกับเรา เอ๊ะ! หรือจะเป็นนายติณณ์นะ ” กุ๊กไก่ทำท่าทางครุ้นคิดจนทำให้เมเมมั่นไส้ท่าทางนี้นัก
“ไม่ใช่นายติณณ์หรอกนะ นายนั้นจะมาชอบฉันได้ยังไงเจอหน้าฉันทีไรมีแต่จะปล่อยหมาออกจากปากมากัดฉันละสิไม่ว่า”
“นั่นไง ฉันว่าแล้วถ้าไม่ใช่ติณณ์แล้วเป็นใครรีบบอกมาเดี๋ยวนี้นะ ฉันอยากรู้จนเนื้อเต้นแล้ว”
“เอาไว้ฉันพร้อมจะบอกนะ เพราะเหมือนจะเป็นฉันคนเดียวที่รักเขานะสิ ว่าแต่เธอเถอะทำไมวันนี้มาเช้าจัง”
“ก็เพราะคุณพ่อนะสิรีบเข้าบริษัทพอดีมีโปรเจ็คใหม่นะคุณอาก็ทำโปรเจ็คนี้ด้วย รู้มั้ยถ้าโปรเจ็คนี้ผ่านโปรนะคุณอาฉันจะได้ไปทำงานที่อเมริกาด้วยล่ะ” เมื่อได้ยินกุ๊กไก่พูดเธอก็เข้าใจที่เขารีบออกไปตั้งแต่เธอยังไม่ตื่น แต่แล้วเธอก็ต้องหน้าถอดสีเมื่อได้ยินว่าเขาจะไปทำงานที่ต่างประเทศ
“นี่พวกเธอทำอะไรกันอยู่ไม่รีบเข้าเรียนหรือไง เดี๋ยวอาจารย์ก็ให้ F หรอก”เสียงทุ่มได้เอ่ยขึ้นด้านหลังของทั้งสองทำให้กุ๊กไก่หันไปมองและไม่ได้เห็นสีหน้าของเพื่อนตัวเองตอนนี้ว่าเป็นเช่นไร
“นายนี่ตายยากชะมัดเมื่อกี้ฉันยังคุยกับเมเมเรื่องของนายเลย”
“ว่าแล้วเชียวฉันจามไม่หยุดเลย พวกเธอพูดอะไรลับหลังฉันบอกฉันมาเลยนะ ไม่งั้นฉันจะมาเอาของนี่คืนให้” ติณณ์หยิบมือถือของกุ๊กไก่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้จนเจ้าตัวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ทำให้กุ๊กไก่ตกใจกระโดดคว้าเอามือถือคืน
“นายนี่มันมือเร็วชะมัด เอามานะ”
“บอกมาก่อนสิว่าเธอพูดถึงฉันว่าอย่างไร”
“ก็ได้ ฉันก็แค่สงสัยเห็นเมเมดูสดใสเลยคิดว่าเธอกับนายเป็นแฟนกันแล้วนะสิ” ติณณ์ชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของกุ๊กไก่จนเธอแย่งมือถือคืนมาได้
“เฮ้อ!นายนี่ตัวสูงชะมัด” เมื่อเธอได้มือถือก็รีบเดินไปที่ห้องเรียน ส่วนเมเมก็มองทั้งคู่ก่อนจะส่ายหัวไปมาทั้งสองเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ปี 1 จนถึงทุกวันนี้
“นี่เธอ! เธอมีแฟนแล้วหรือไง” เขาเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะเอ่ยถามเรื่องที่อยากรู้
“ทำไม อยากรู้ไปทำไมอีกอย่างเรื่องที่กุ๊กไก่พูดเป็นแค่เรื่องไร้สาระเท่านั้น อย่างนายเนี้ยะนะจะชอบฉัน คิดได้ยังไงว่านายเป็นแฟนฉัน ” เมเมได้พูดออกไปอย่างที่คิด เพราะตลอดเวลาที่รู้จักกันเขาแทบไม่แสดงออกว่าชอบเธอด้วยซ้ำไม่รู้กุ๊กไก่เอาสมองส่วนไหนคิด
“แล้วถ้าฉันชอบเธอจริงๆ ล่ะจะเป็นยังไง ”
น้ำเสียงเรียบนิ่งได้พูดออกมาอย่างจริงจังทำให้เมเมตกใจตาโตเบิกโพลง