บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ทำข้อตกลง

ตอนที่ 5

“เอาละ ข้าจัดระเบียบความคิดเข้าที่เข้าทางแล้ว เรามาเปิดอกพูดคุยอะไรกันสักหน่อยดีกว่า อนาคตยังจะต้องใช้ชีวิตร่วมกันอีก”

สตรีร่างใหญ่ ที่นั่งเงียบมานาน หันใบหน้าไปสนใจคนสามคนที่อยู่บนเตียง...

“ข้าไม่มีอะไรจะพูดคุยกับเจ้า แต่อยากบอกเจ้าไว้ ถ้าทำอะไรลูก ๆ ของข้าอีก ข้าสาบานหากวันไหนข้าหายดี ข้าจะถลกหนังเจ้า เลาะกระดูกออกมาโยนให้สุนัขมันกิน”

หลังจากเผลออยู่เงียบ ๆ ตามที่สตรีใจร้ายสั่ง หม่าหย่งเหรินก็นึกขึ้นมาได้ ว่าทำไมเขาต้องเชื่อฟังนางด้วย จึงหันกลับมากล่าววาจาเชือดเฉือนนางต่อ

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลางกุ้ยตานตอนมีชีวิตอยู่หรือตอนที่มีวิญญาณของมินตราเข้ามาอาศัยร่างอยู่ ก็ไม่เคยมีความกลัวในคำขู่ของชายหนุ่มอยู่แล้ว

ร้อยตำรวจเอกมินตราเหลือกตาขึ้นมองด้านบนเบะปากลงต่ำ สภาพแบบนี้จะทำอะไรนางได้ ถึงต่อให้หายดีก็เถอะ มีหรือที่จะเล่นงานนางได้ง่าย ๆ ...หึ ฝันไปเถอะ...

“ขยันขู่เสียจริง ตอนนี้ยกแขนขึ้นให้ได้สักข้างก่อนเถอะ ค่อยคิดข่มขู่คนอื่น”

“เจ้า” ชายหนุ่มที่นอนนิ่งบนเตียง เถียงไม่ออก เพราะที่หญิงสาวพูดมา เป็นความจริงทุกอย่าง

“เอาละ ๆ ฉัน...ไม่สินะ ในยุคนี้ต้องพูดว่าข้า...ข้าไม่อยากจะหาเรื่องทะเลาะกับท่านแล้ว”

หลางกุ้ยตานขยับกายเลื่อนจากตั่งไม้ เข้ามานั่งบนเก้าอี้หัวโล้น โดยขยับให้เข้าใกล้เตียงมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้พูดคุยกับเขาได้สะดวก

“อย่าขยับเข้ามาใกล้ข้ากับลูกนะ”

แต่มีหรือที่หญิงสาวจะฟัง หนำซ้ำยังขยับเข้ามาจนชิดกับขอบเตียง ทำให้ระยะห่างจากคนทั้งสี่ไม่มากนัก

“ข้าก็ไม่อยากอยู่ใกล้ท่านนักหรอก” หญิงสาวกล่าวตามตรง

“หึ” หม่าหย่งเหรินแค่นเสียงในลำคอ ใช่นะสิยามนี้เขากลายเป็นคนพิการ นางถึงได้รังเกียจเขา หากเป็นเหมือนเมื่อก่อน ก็เห็นแต่นางที่พยายามยัดเยียดร่างกายให้เขา แต่เขานะหรือ ที่จะทนแตะต้องเนื้อตัวสตรีที่แอบปีนขึ้นเตียง เพื่อจับเขาทำสามีได้

หลางกุ้ยตานทำเป็นไม่ได้ยินน้ำเสียงกับท่าทางดูแคลนของอีกฝ่าย กวาดสายตาสำรวจสภาพของสามีและลูกเลี้ยงของเจ้าของร่าง ที่มีร่างกายซูบผอม จนหนังแทบจะติดกระดูก คงเป็นเพราะถูกสตรีร่างใหญ่แย่งกินอาหารในส่วนที่พวกเขาควรจะได้ในแต่ละมื้ออาหาร

...ช่างน่าเวทนายิ่งนัก เอาเถอะ เมื่อเรามีวาสนามาพบกัน ข้าจะช่วยเลี้ยงดูท่านกับเด็ก ๆ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นเอง...

“ทะ...ท่านแม่ ขะ...ข้าขอโทษ ที่แอบขโมยเงินของท่าน แต่ที่ข้าต้องทำ เป็นเพราะยาของท่านพ่อหมดแล้ว ไปขอท่านปู่ท่านย่าก็ไม่ให้ ข้าเลยไม่มีทางเลือกอื่น ๆ ข้ายอมรับโทษแล้ว แต่อย่าเฆี่ยนจนตายเลยนะขอรับ”

หม่าเหวินฝู เห็นแม่เลี้ยงใจร้าย เอาแต่จ้องมองพวกเขาตาไม่กะพริบ ก็ยิ่งหวาดกลัวหญิงสาวมากยิ่งขึ้น ลำพังเขาเจ็บตัวไม่เท่าไร แต่บิดากับน้องสาวนี้สิ จะให้มารับกรรมด้วยไม่ได้

“ตีลูกข้าไม่ได้ หากจะตีก็มาลงที่ข้าเถอะ” คนเป็นพ่อมีหรือจะยอมทนเห็นให้ลูกเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตาได้

“หยุดพูดทั้งสองพ่อลูกนั่นแหละ ข้าไม่ตีใครทั้งนั้นแหละ”

สองพ่อลูกนี้มันยังไงกันนะ นางยังไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องทำโทษเสียหน่อย พากันพูดเองเออเองไปหมด ประเดี๋ยวแม่จะลุกขึ้นแสดงบทนางมารร้ายจริง ๆ เสียหรอก

ไม่ได้ ๆ ...เอาละ ใจเย็นลงก่อน

หลางกุ้ยตานสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ สงบสติอารมณ์ ก่อนจะพูดในสิ่งที่อยากจะพูดออกมา

“อะแฮ่ม...ที่ผ่านมา ข้ารู้ตัวแล้ว ว่าตนเองเป็นคนใจยักษ์ใจมารมากขนาดไหน และทำร้ายพวกท่านพ่อลูกทั้งทางกายและทางใจ ข้าต้องขอโทษสำหรับเรื่องที่ผ่านมาด้วย”

หลางกุ้ยตานไม่ได้ลุกขึ้นยอบกายตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนในยุคนี้ แต่ยกสองมือขึ้นพนมบริเวณกลางอก แล้วโน้มใบหน้าลง ให้ปลายนิ้วจรดอยู่กึ่งกลางระหว่างคิ้ว

“ข้าขอโทษพวกท่านจากใจจริง ตอนที่ข้าเกือบจะจมน้ำตาย ถึงคิดได้ว่าที่ผ่านมาเป็นคนที่เลวมากขนาดไหน พอรอดชีวิตกลับมาได้ เลยอยากจะปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่ จะทำหน้าที่ภรรยา ดูแลปรนนิบัติสามีเช่นท่าน จะเป็นแม่เลี้ยงที่ใจดีของเสี่ยวฝูกับอิงเอ๋อร์”

“ข้าไม่เชื่อ” หม่าหย่งเหรินเอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างเหลืออด คนที่เลวมาจากสันดานอย่างนางนะหรือ จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ “เจ้าคงมีแผนร้ายอะไรอีก ใช่หรือไม่ หรือคิดจะหลอกเอาเงินทองจากข้าอีก บอกไว้ตรงนี้เลย ว่าข้าไม่มีของมีค่าอะไรติดตัวแล้ว ถ้ารู้อย่างนี้ ก็รีบ ๆ ออกจากชีวิตของข้าไปเสีย”

หลางกุ้ยตานรู้อยู่แล้ว ว่าพวกเขาไม่มีวันมองนางในทางที่ดีตั้งแต่วันนี้เลย แต่นางก็ยังอยากจะพูดอธิบายให้พวกเขาฟังทีเดียวจนจบ หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม

“ข้าไม่ได้หวัง ว่าจะให้ท่านเชื่อข้าวันนี้หรอก และไม่ได้หวังเงินทองของมีค่าจากท่านอีก ส่วนเรื่องที่ท่านเกลียดชังข้า อยากให้ออกไปจากชีวิตของท่านกับลูกนั่น ไม่ต้องห่วง เมื่อท่านหายดี เสี่ยวฝูกับอิงเอ๋อร์ มีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ข้าจะเป็นคนเดินออกจากชีวิตของท่านกับลูกเอง”

นัยน์ตาเล็ก จับจ้องผสานสายตากับคนบนเตียงอย่างแน่วแน่ เพราะทุกคำพูด นางพูดออกมาจากใจ ไม่ได้คิดหลอกลวง ตามที่สามีกับลูกของเจ้าของร่างเข้าใจ

“เจ้าบอกว่าเจ้าจะออกจากชีวิตของข้าไป ข้าหูฝาดไปหรือไม่”

หม่าหย่งเหรินไม่อยากจะเชื่อหูของตนเอง เพราะก่อนเกิดเรื่อง นางยังบอก ว่าจะคอยเป็นเจ้ากรรมนายเวรตามติดเขาไปจนตายจากกัน แล้วทำไมอยู่ ๆ นางถึงคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้...หรือว่า

“หึ ๆ ทำเป็นมาพูดดี ว่าจะยอมไปจากข้า คงไม่ใช่เพราะไปถูกใจชายหนุ่มคนใดอีก เลยอยากจะไปจับเขามาทำผัวหรอกนะ เอาสิ ไม่ต้องรอให้ข้าหายหรอก เจ้าเป็นคนเขียนหนังสือหย่า แล้วออกไปจากชีวิตข้า ไปอยู่กับชายที่เจ้าพึงพอใจได้เลย แต่ระวังจะถูกหลอกอย่างคนที่แล้วเล่า”

หลางกุ้ยตานใช้สองมือ รวบคอเสื้อของชายหนุ่ม ก่อนจะดึงร่างของเขาขึ้นมา จนใบหน้าอยู่ห่างจากกันไม่มาก ก่อนจะแค่นเสียงออกมา

“ข้าไม่อยากจะสนใจคำพูดของคนใจแคบเช่นเจ้านัก แต่ก็อดไม่ได้ ข้าอยากย้ำให้ท่านเข้าใจ ว่าข้าเป็นหลางกุ้ยตานคนใหม่ ที่ไม่สนใจจะสวมเขาให้สามีหรอก แม้สามีจะเป็นคนพิการนอนเป็นผักเป็นปลาอยู่แต่เตียงนอนก็ตาม ขืนยังใช้น้ำเสียงดูถูกข้าอีก ข้าอาจจะโมโหจนสังหารท่านก็เป็นไปได้ แล้วลูกน้อยทั้งสองก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้าพ่อ”

กล่าวจบหญิงสาวก็ปล่อยร่างลง ทำให้แผ่นหลังกระแทกกับเตียงนอนอย่างแรง แต่นางก็ไม่สนใจสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวของเขา

หม่าหย่งเหรินเจ็บทั้งใจ เจ็บทั้งกาย จากการที่ถูกสตรีร่างใหญ่ยกขึ้น แล้วปล่อยลงแผ่นหลังกระแทกกับเตียงไม้ ที่มีเพียงผ้าผืนบางปูรองเอาไว้เท่านั้น

แม้ปากอยากจะก่นด่าสตรีตรงหน้าอีกให้หนำใจ แต่พอเห็นไอสังหาร ที่เปล่งออกมาจากตัวของหญิงสาว แบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ก็จำต้องหุบปากเอาไว้ ขืนเขาเป็นอะไรไป ลูกน้อยทั้งสองอาจจะไร้สิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจ

“ดี เข้าใจแล้วใช่หรือไม่ ว่าท่านทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ ต่อไปอย่าได้คิดหาเรื่องให้ข้ารำคาญใจอีก บางทีจิตสังหารของข้า อาจจะพุ่งเป้าไปที่ลูกของท่านก็ได้” ไม่พูดเปล่าสายตาดุดันยังเลื่อนจากใบหน้าซีดเซียวของชายหนุ่ม ไปยังร่างเล็ก ที่รีบโผเข้าสวมกอดกัน ร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัว

“อย่า...อย่าทำอะไรลูกข้า ต่อไปข้าจะพยายามสงบปากสงบคำ”

หม่าหย่งเหรินกล่าวอย่างจำนน แต่ภายในใจกลับคิดแค่ว่า เขาจะอดทนแค่เพียงตอนนี้เท่านั้น หากมีปาฏิหาริย์ให้เขาหายดี เขาจะจัดการคิดบัญชีกับสตรีใจร้ายนางนี้ แบบทบต้นทบดอกเลยทีเดียว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel