บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 มักน้อยอย่างยิ่ง

ดั่งพุทธสุภาษิตที่ว่า

อสสฺสตํ วิปฺปริณามธมฺมํ ชีวิตนี้แปรผัน ไม่แน่นอน

การแข่งขันที่เห็นผลแพ้ชนะอยู่ตำตากลับไม่อาจตัดสินได้และยืดเยื้อออกไปเพราะมีคำว่า ‘อำนาจ’ และ ‘อิทธิพล’ เข้ามาโยงใย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์ผู้เปี่ยมด้วยศักดิ์และศรีทั้งสองแต่เป็นเจ้าเมืองวัยกลางคนที่เตะถ่วงอย่างน่าเกลียด

“เฮ้อ..” ตงหยางพรูลมหายใจปลดปลงราวกับคนแก่พลางปลอกเปลือกไข่เค็มที่ต้มจนสุกพักรอไว้จนกระทั่งหายร้อนไปพลาง

มนุษย์เราก็เท่านี้ หลงอยู่ในรูป หลงอยู่ในความโลภ กิเลส และตัณหา

ไม่ต้องยกตัวอย่างที่ไหนไกล ไม่จำเป็นต้องว่าแต่ผู้อื่น ตัวเขาเองที่ถูกเลี้ยงดูมาในวัดตั้งแต่อ้อนแต่ออกก็ยังไม่สามารถตัดอารมณ์จากโลกได้ ต่อให้รู้ดีเท่าไหร่แต่ก็ยังยึดติด ไม่เช่นนั้นคงไม่มานั่งอารมณ์บูดจนหงุดหงิดตัวเองที่คาดหวังชัยชนะแล้วไม่ได้ดั่งหวังอยู่อย่างนี้

สวดชินบัญชรจบเป็นสิบรอบแล้วก็ยังอดเสียดายอยู่ลึก ๆ ไม่ได้

หนทางการหลุดพ้นยังอีกไกลนัก

“อาหยาง ไม่สบายใจสิ่งใดหรือ” ซินซินที่มักสังเกตนายน้อยของตนเองอยู่ตลอดเวลาเปล่งน้ำเสียงเจือด้วยความเป็นห่วงไถ่ถาม แม้จะชินกับคำเรียกขานปลอม ๆ นี้แล้วแต่กิริยายังเต็มไปด้วยการให้เกียรติของบ่าว

ตงหยางยิ้มอ่อน “ข้าแค่คิดถึงเรื่องเมื่อวานขอรับ”

“เรื่องนั้น-”

อดีตสาวใช้เรือนคหบดีหน้าเจื่อน

ชัดเจนว่าซาลาเปาสกุลตงไม่ได้แพ้ แต่อีกนัยหนึ่งก็ไม่ชนะ

ผลการตัดสินการแข่งขันทำซาลาเปาประจำปีของเมืองเหวินโจวเมื่อวานอาจจะสามารถกล่าวได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นที่น่ากังขาและค้านสายตาของทุกฝ่ายอย่างน่าอับอายที่สุดในประวัติศาสตร์เมืองท่า

เจ้าเมืองนามสือชวนมีใบหน้าที่หนาอย่างไม่น่าเชื่อ

แม้กรรมการกิตติมาศักดิ์ทั้งสองประองค์จะดำริพ้องต้องกันว่าซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็มของร้านซาลาเปาสกุลตงเป็นซาลาเปาที่ดีที่สุดเหมาะสมที่จะเป็นผู้ชนะแต่เจ้าตัวก็ยังบ่ายเบี่ยงเลี่ยงบาลีให้มีการแข่งขันรอบที่สองระหว่างครอบครัวตงและเหลาอาหารซินเทียนตี้เจ้าของสูตรซาลาเปาไส้เม็ดบัวสวรรค์ในอีกสองวัน

ที่น่าตลกคือในมือของชายอ้วนยังมีซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็มที่ยังกินไม่หมดครอบครองอยู่

ก็แน่ล่ะ

ในเมื่อมีนอกมีในไม่สามารถคายเงินที่รับเป็นสินบนมาแล้วออกจากปากได้ แต่ก็ไม่สามารถทำตัวไร้ยางอายจนเกินจะรับไหวจึงได้แต่ปรับเปลี่ยนกติกาเอาที่หน้างาน

จะว่าขายผ้าเอาหน้ารอดก็ไม่ผิด

เพื่อที่จะไว้หน้างูดินเจ้าที่ สองพยัคฆ์ร้ายพ่อลูกจึงได้แต่ทำหลับตาข้างหนึ่งปล่อยให้เป็นไป

สำหรับตงโปและตงป๋ายซึ่งมาได้ไกลเกินกว่าที่ตนเองไฝ่ฝันไม่เพียงแต่ไม่กรุ่นโกรธยังคลี่รอยยิ้มประดับประดาเต็มใบหน้า โดยเฉพาะตอนนี้ร้านซาลาเปาสกุลตงเป็นที่กล่าวถึงของคนเมืองท่าอย่างแพร่หลาย กระแสตอบรับดีอย่างน่าตกใจ

ต่อให้การแข่งขันในวันพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไรพวกเขาไม่ได้คาดหวัง เพียงแต่ได้มีชื่อได้รับการยอมรับก็นับเป็นสิ่งที่ดีมากแล้ว

มักน้อยอย่างยิ่ง

ทว่าความคิดนี้กลับไม่ส่งไปถึงผู้ที่ต้องการชัยชนะอย่างหน้ามืดตามัว

เด็กชายเหลือบมองดวงอาทิตย์ซึ่งคล้อยลงต่ำทุกที “ซินซิน ตะวันจะตกแล้วไม่ใช่ว่าท่านพ่อกับท่านปู่กลับช้าเกินไปหรือ”

“จริงสิ” สตรีงามขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาคู่สวยมองออกไปทางเดียวกับคุณชายน้อย ในใจมีลางสังหรณ์ไม่ดีแต่ไม่ได้เอ่ยออกไป “พรุ่งนี้มีการแข่งขันรอบที่สองคงตื่นเต้นซื้อข้าวของกันจนเพลิน ข้- เอ่อ พี่สาวจะออกไปตามสักประเดี๋ยว หากผู้ใดมาเรียกหาอย่าเปิดประตูรู้หรือไม่”

“ขอรับ”

น่าเสียดายที่เรื่องนี้ไม่เรียบง่ายอย่างที่ซินซินต้องการ

ก่อนวันแข่งขันตงโปและตงป๋ายซึ่งกำลังกลับจากการขายซาลาเปาที่ตลาดประจำวันพร้อมด้วยวัตถุดิบซึ่งซื้อหามาจากตลาดทั้งสำหรับซาลาเปาและสำหรับมื้ออาหารเฉลิมฉลองถูกดักหน้าหลังรายล้อมไปด้วยอันธพาลหัวไม้ท่าทางไม่เป็นมิตรบนถนนเส้นเดิมที่เดินสัญจรเป็นประจำ

ตงป๋ายก้าวขึ้นไปข้างหน้า ใช้ร่างกายใหญ่โตปกป้องบิดาไว้ข้างหลัง “เราไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง พวกท่านต้องการสิ่งใด”

“ถุ้ย! เมื่อก่อนไม่เคยมีแต่ตอนนี้มี!!” ผู้ถูกถามถ่มน้ำลายลงบนพื้นอย่างหยาบคาย เดาะลิ้นดันกระพุ้งแก้มพร้อมพรั่งด้วยใบหน้ายียวนไร้คุณสมบัติผู้ดีในกลมสันดาน

“บังเอิญว่าข้ามีความหลังไม่ดีกับคนขายซาลาเปา พอเห็นหน้าคนขายซาลาเปาทีไรแล้วมันโคตรขัดหูขัดตา จะโทษใครก็โทษตัวเองที่เลือกทำอาชีพนี้แล้วกัน!!”

พลั่ก! “อาป๋าย!!!”

“นายน้อย!”

ประตูบ้านถูกเปิดออกอย่างเร่งร้อนตามแรงและอารมณ์ของหญิงสาวที่วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาถึง ซินซินที่กำลังตกใจจนขวัญหายลืมบทบาทของตนเองไปชั่วขณะ ใบหน้าหวานใสซีดเผือด หัวคิ้วเชิดขึ้น นัยน์ตาฉ่ำวาวจวนเจียนจะร้องไห้เต็มที

ตงหยางคล้ายจะเดาเหตุการณ์ได้อยู่บ้าง ไม่เพียงแต่ไม่เร่งร้อนใจยังช่วยลูบหลังลูบไหล่ปลอบ “ซินซินใจเย็นก่อน ค่อย ๆ พูด ไม่ต้องร้อนใจไป”

“อึก นายน้อย เรื่องนี้ไม่ร้อนใจไม่ได้..”

ตั้งสติควบคุมอารมณ์ให้คงที่ซินซินค่อย ๆ เล่าเรื่องที่นางออกไปสืบหาจนได้ความมาจากเพื่อนบ้านอย่างยากลำบากเพราะไม่มีใครต้องการเอาคอของตนเองเข้าไปพาดเขียงเพื่อผู้อื่น ที่ยอมเล่าออกมาอ้อม ๆ แอ้ม ๆ ก็เพราะเห็นใจที่สตรีงามอาจจะเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว

เนื้อหาโดยย่อคือสองพ่อลูกถูกอันธพาลทุบตีและรวบใส่กระสอบไปอย่างอุกอาจ

ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ล้วนไม่กล้าปริปากแจ้งแก่ทางการเพราะรู้ดีว่าเป็นเจ้าเมืองเองที่มีนอกมีในกับเหลาอาหารซินเทียนตี้อย่างแน่นแฟ้น

เรื่องมาถึงขั้นนี้ตัวตนของอันธพาลเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องคาดเดา

ระหว่างเล่าซินซินกระวนกระวายนั่งไม่ติดที่ เรื่องราวแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นมีให้เห็นอยู่มากมาย แต่ก่อนเมื่อไม่ใช่เรื่องของตนเองทุกสิ่งต่างดูเล็กน้อยไม่อยู่ในสายตา แต่เมื่อต้องมาผจญต่อหน้าหัวใจดวงเท่ากำปั้นกลับไม่อาจสงบได้

“นายน้อยจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ” หากไม่มีพ่อลูกสกุลตงชัยชนะของเหลาอาหารซินเทียนตี้ก็ประหนึ่งว่าถูกจัดวางใส่พานไว้ให้อย่างเป็นทางการแล้ว

นางไม่ได้ห่วงผลการแข่งขัน แต่เกรงว่าคนชั่วช้าจะให้วิธีหักดิบสังหารให้สิ้นไป

ตงหยางหลุบดวงตาครุ่นคิด

“ซินซินไม่ต้องกังวล เราเพียงแค่ต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel