บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

ศตพรรวบช้อนส้อม แล้วจิบน้ำเย็นตาม อาหารมื้อแรกของวันสินะ ตอนเช้าก็มัวแต่วุ่นวาย ตอนเที่ยงก็ยังไม่ได้รับประทานอะไร เพราะอาหารที่ทางคณะถ่ายทำจัดให้นั้น เป็นอาหารที่เธอไม่ค่อยจะถูกโรคด้วยนักอย่างผัดกะเพราปลาหมึก ศตพรแพ้ปลาหมึก และไม่ชอบกลิ่นของกะเพรา ไม่ใช่เพราะเรื่องมากทานอาหารกล่องไม่ได้แต่อย่างใด

หญิงสาวจ่ายเงิน แล้วเดินกลับขึ้นไปยังตึกใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสตูดิโอที่เธอมาทำงานในวันนี้ หญิงสาวซื้อหนังสือการ์ตูนติดมาจากร้านหนังสือ ที่อยู่ติดๆ กับร้านขายอาหารตามสั่ง ศตพรก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือ เมื่อกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นที่ต้องการ เธอไม่ได้สนใจใครว่ามีใครคนหนึ่งขึ้นลิฟต์มากับเธอ และกำลังไปที่ชั้นเดียวกัน

“ครับๆ ขอโทษนะครับพี่ดาร์ลิ่ง ผมมาถึงแล้วครับ กำลังอยู่ในลิฟต์ อย่าบ่นเลยนะครับพี่ มันมีธุระกะทันหันน่ะครับ ไม่ได้ตั้งใจเบี้ยวเลยจริงๆ”

เสียงห้าวทุ้ม ฟังแล้วเซ็กซี่อย่างไม่น่าเชื่อ ดังขึ้นข้างตัวเธอ แม้ศตพรจะยังก้มหน้ากับหนังสือในมือ แต่เธอก็หรี่ตา เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มข้างๆ เธอพูด หญิงสาวแอบชายตามองไปทางกระจกที่ติดไว้ภายในลิฟต์ เธอเห็นร่างสูงใหญ่ที่ได้สัดส่วน เสี้ยวหน้าด้านข้างคมสัน และได้รูปอย่างเหมาะเจาะ ทั้งปากคอคิ้วคาง ศตพรแอบร้องอ๋อในใจ

‘นี่อีตาขี้โอ่นั่นแน่ๆ บังเอิญจริงๆ แหะ’

“ว่าไง ไอ้เด๊ป เพื่อนรัก”

ทันทีที่วางสาย เขาก็คุยต่อทันที เสียงทุ้มๆ นั้นดังก้อง เหมือนกับอยู่คนเดียว เลยคุยเสียงดังลั่นลิฟต์แบบนี้ ศตพรคิดในใจอย่างเคืองๆ แล้วลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขาไปด้วย

“อ๋อ...ก็หายไป แหะๆ หายไปกับเบบี้ไง ได้ใจมากๆ เลยว่ะ หืม? ไม่ๆ คนอย่างฉันไม่เคยทิ้งเบอร์โทรไว้ให้ใครหรอก นายก็รู้นี่นา หึๆ คนอย่างฉันไม่เคยไปหาผู้หญิงคนไหนเป็นหนที่สองว่ะ”

ลภณพูดกับปลายสายอย่างรื่นรมย์ แล้วหลิ่วตา เมื่อพูดประโยคต่อไป

“ไม่กลัวหรอก เด๊ป คนอย่างฉันใครจับไม่อยู่หรอกน่า คนอย่างนายลีโอ หล่อขนาดนี้ แถมยัง เอ่อ...ไม่อยากจะคุยนะเพื่อน หึๆ นายก็น่าจะรู้ ว่าสาวๆ ต่างร่ำร้องอยากจะมาอยู่ในอ้อมแขนของฉันขนาดไหน ของดีๆ แบบนี้ ก็ต้องแบ่งกันไปทั่วๆ สิวะ”

ยิ่งฟังศตพรก็ยิ่งหงุดหงิด จนอยากจะหันไปตวาดคนพูดนัก เขาพูดจาแบบดูถูกเพศหญิงแถมหลงตัวเองจนน่าหมั่นไส้ เธอหน้าบึ้งลงเรื่อยๆ พลางวางปิดหนังสือที่เอาบังหน้าออก สายตามองไฟแดงที่วิ่งอยู่ เมื่อไหร่จะถึงชั้นที่ต้องการเสียทีนะ ยิ่งอยู่กับผู้ชายที่มั่นใจในตัวเองมากๆ แบบนี้ ดูถูกผู้หญิงเห็นว่าเป็นของเล่นแบบนี้มากสักเท่าไหร่ เธอก็อยากจะหันไปด่าให้ลืมความมั่นใจบ้าๆ บอๆ นี่ไปเสียเลย

ชายหนุ่มกดวางสาย เมื่อปลายสายเริ่มบ่นเขาว่าด้วยเรื่องเดิมๆ นั่นก็คือ เขาควรจะหัดให้เกียรติเพศแม่บ้าง เขาควรจะหัดจริงจังกับชีวิตเสียบ้าง เขาควรเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องป้องกันตัวเองเนื่องจากเขามีชื่อเสียงแล้วตอนนี้ ไม่ควรมั่วไปเรื่อย บลาๆๆ สารพันที่เพื่อนรักบ่นว่า โดยเฉพาะกับสาวไฟแรงสูงรายล่าสุด บูรณี ว่าเธอเป็นสาวอันตรายคนหนึ่งเลยทีเดียว แต่เขาก็วางหูไปเสียก่อนจะทันฟัง ว่าบูรณีอันตายเรื่องอะไร เขารับรู้อยู่อย่างเดียวว่า หญิงสาวเป็นคนที่น่าจะยกเว้นกฏของตัวเอง และทำการสานสัมพันธ์กับเธอต่อ เพราะเธอช่างร้อนแรง และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเขาเหลือเกิน เธอทำให้เขาไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน ลภณคิดกระหยิ่มในใจ เมื่อนึกถึงสาวเซ็กซี่ลีลาร้อนแรงที่เพิ่งจะจากมา

“เฮ้อ...”

เสียงถอนหายใจข้างๆ ทำให้เขาหันไปดูโดยอัตโนมัติ แล้วลภณก็ต้องหรี่ตา สายตาคมกริบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของสาวร่างเพรียว ที่ยืนอยู่ข้างเขาทันที อย่างสำรวจตรวจตรา

ใบหน้ารูปไข่ ดูสวยคมและมีเสน่ห์ เจ้าตัวตัดผมสั้น ดูทะมัดทะแมง รูปร่างสูงเพรียวสมส่วน ซ่อนไว้ในเสื้อเชิ้ตสีเข้ม ที่ขับผิวขาวอมชมพูเรื่อของเจ้าตัวให้ลออตายิ่งนัก เธอสวมกางเกงยีนกระชับตัว ยิ่งทำให้เน้นรูปร่างงดงามนั่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เพียงเวลาแค่ไม่กี่เสี้ยววินาที ลภณก็กวาดสายตาเก็บรายละเอียดคนข้างๆ ได้ราวกับคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพเยี่ยม แน่นอนว่าเขาเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว กับเรื่องของเพศตรงกันข้าม ที่เป็นสิ่งที่เขาสนใจจริงจังที่สุดในโลก และเขาก็มองออกว่าสาวข้างๆ นี้ น่าจะสานความสัมพันธ์เป็นที่สุด เพราะทั้งรูปร่างหน้าตา ดูแล้วช่างยวนใจ ให้คะแนนไปเลย 80 คะแนน ลภณคิดในใจก่อนจะกระแอมเบาๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจของเธอ

“อะแฮ่ม!”

ศตพรทำหน้าเชิด เมื่อเห็นคนข้างตัวเธอปรายตามอง และทำเสียงเหมือนจะเรียกร้องความสนใจ เออแนะ...หญิงสาวคิดในใจอย่างเคืองๆ ท่าทางจะเป็นเอามาก ว่างไม่ได้ต้องทำตัวให้น่าสนใจ

‘นึกว่าหล่อนักหรือไง’

“อะแฮ่ม!”

เขากระแอมอีกรอบแล้วหรี่ตา หรือว่าสาวเจ้าจะหูหนวกกันนะ ถึงไม่หันมามองเขาเลยสักนิด ชายหนุ่มคิดในใจ เธอทำคอแข็งใส่เขาอีกต่างหาก จนลภณเริ่มจะเคืองเอาบ้าง ตามประสาชายหนุ่มที่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ว่าใครต่อใครต้องสนใจและหลงใหลในเสน่ห์ของเขา

“เอ่อ...คุณพิงค์หรือเปล่าครับ”

เมื่อแผนเรียกร้องให้หันมามองไม่ได้ผล ลภณก็ทักเอาเสียดื้อๆ ศตพรเงยหน้ามองเขา สายตาเย็นชาปรายตามองผ่านหน้าเขาไปราวกับว่า ลภณเป็นสิ่งของอะไรสักอย่างที่ไม่น่ามองที่สุดในชีวิต เธอส่ายหน้า แล้วหันขวับหนีเขาทันที ทำเอาชายหนุ่มถึงกับย่นคิ้ว นี่เธอไม่รู้จักเขาหรือยังไงกันนะ เขาน่ะ นายแบบสุดหล่อที่สุดในตอนนี้ จะมาเมินกันง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน

กริ๊ง!

เสียงสัญญาณในลิฟต์บอกว่ามาถึงชั้นที่ต้องการแล้ว ศตพรรีบเดินมารอประตูลิฟต์เปิดทันที ไม่ยอมมองไปทางคนที่อยู่ในลิฟต์กับเธอ เพราะเธอไม่อยากอยู่ใกล้ผู้ชายแบบลภณอีกแม้สักนาทีเดียว วันนี้ต้องทนทำงานด้วยกันเสียด้วย คิดมาถึงตรงนี้เธอก็ขนลุกด้วยความหมั่นไส้ปนรังเกียจ ผู้ชายที่มั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองอย่างล้นเหลือ ศตพรหรี่ตาลง

ประเดี๋ยวเถอะน่า คงจะต้องสั่งสอนอะไรกันบ้าง ว่าผู้หญิงบางคน ก็ไม่ได้สนใจกับหน้าตาที่หล่อเหลา หรือว่าชื่อเสียงโด่งดัง เสน่ห์ทางเพศอันร้อนแรง มหาศาลของเขา เหอะศตพรคิดในใจอย่างเจ้าเล่ห์ ว่าเธอจะทำให้อีตาบ้า มั่นใจเกินร้อยคนนี้ หมดความมั่นใจให้ได้เลย คอยดูสิ

“ผู้หญิงอะไรวะ หรือว่าจะเป็นทอม”

ลภณเกาศีรษะแกรกๆ พลางมองตามหลังคนที่เดินหนีเขาไปฉับๆ เธอเดินหายเข้าไปใน สตูดิโอ วาย เฮ้าส์ ที่เขามาถ่ายแบบวันนี้อีกด้วย ชายหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ แล้วบ่นพึมพำ ก่อนจะเดินตามเธอเข้าไปติดๆ

“ถ้าเป็นทอมไปล่ะก็เสียดายแย่เลยแม่คุณ แต่มาทำเมินเราแบบนี้ เสียเหลี่ยมชะมัดเลยแหะ”

ลภณหรี่ตาลงอย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อยิ้มต้อนรับผู้จัดการสาวประเภทสอง เดินแกมวิ่งมาหาเขาทันทีที่เห็นเขา พร้อมกับรีบจูงไม้จูงมือเขาเข้าไปในห้องแต่งตัว

‘คอยดูเถอะน่า แม่สาวเย็นชา ถ้าเจอกันอีกรอบล่ะก็ คุณจะต้องตะลึงเมื่อรู้ว่าเมื่อกี้นี่เมินใคร แล้วคุณจะไม่ทำแบบนั้นกับผมอีกแน่ๆ’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel