3
Chapter 3
“ตามนั้น” ฟ้าใสยักคิ้วให้เพื่อน เงินตั้งหลายพันใครไม่อยากได้ก็โง่แล้ว ตอนแรกเธอไม่รู้นี่นา จะได้ลงเล่นด้วยเช่นกัน อยากรู้นักว่าผู้ชายที่เพื่อนสาวของเธอบอกว่าหยิ่งยโสและเย็นชายังกะผีดิบตัวเป็นๆ จะเป็นยังไง
ถ้าทำก็คือสำเร็จกับไม่สำเร็จ แต่ถ้าไม่ทำก็หมายถึงไม่ประสบความสำเร็จ!
ฟ้าใสคิดเช่นนั้น ก่อนตอบให้เพื่อนรักอย่างปาริชาติกรี๊ดอย่างดีใจ แทบจะไม่เกรงใจแขกในร้าน
“เพื่อกู้แก๊งหวานเย็นของเราไง... ฮิฮิ” ฟ้าใสตอบเสียงหวานยิ้มทะเล้น
“มันต้องอย่างนี้สิฟ้า ถึงจะเป็นเพื่อนรักของเปรี้ยว เปรี้ยวน่ะติดงานมากมาย ถ้าฟ้าทำสำเร็จ อยากได้อะไรเปรี้ยวจะให้ฟ้าชิ้นนึง ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ตาม”
“จริงดิ๊” ฟ้าใสตะแคงหน้ามองเพื่อน ปาริชาติรีบพยักหน้าทันควัน
...ความสัมพันธ์ของเพื่อนจะมั่นคงยาวนานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความเข้าอกเข้าใจ เปิดอกพูดคุยกัน และรับฟังปัญหาของกันและกัน ถ้าเพื่อนจะทำในสิ่งที่ไม่ดี เราในฐานะเพื่อนก็ต้องตักเตือนห้ามปราม ไม่ใช่สนับสนุนส่งเสริมให้ยิ่งกระทำผิดมากขึ้น…
สี่สาวเพื่อนซี้
“นี่พวกแกดูนี่สิ”
ปาริชาติเรียกเพื่อนรักทั้งสองมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องเล็กที่วางอยู่บนเตียง ส่วนฟ้าใสนั้นกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำบัญชีโดยไม่คิดจะสนใจเพื่อนรักทั้งสามเลยแม้แต่น้อย
“ไรแก” ราศีส่งเสียงถามเพื่อน ส่วนเกศราเดินเงียบๆ ไปหาปาริชาติ
“ในเฟซบุ๊กน่ะแก เค้าคลั่งอีตาเทพประทานกันใหญ่ มีโหวตให้เป็นชายหนุ่มที่สาวๆ อยากขึ้นเตียงด้วยแห่งปี”
“หึ! หมั่นไส้อีตานี่” ราศีเบ้ปาก แต่ก็อดจะเหลือบสายตามองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายไม่ได้ หล่อก็หล่ออยู่หรอก แต่หน้านิ่งเย็นชาไร้ความรู้สึกสุดๆ ตั้งแต่เคยเห็นผู้ชายมา ยิ้มก็ไม่ยิ้ม สายตายังเฉยเมยเอามากๆ อีกด้วย
“แหวะ! ฉันก็หมั่นไส้” ปาริชาติรีบสนับสนุนความคิดเพื่อน ยอมรับหรอกว่าหล่อ แต่มันหมั่นไส้อีตานี่แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต หมอนี่ทำให้ความมาดมั่นในตัวเธอถูกบั่นทอน เพราะหงุดหงิดไม่อยากเข้าใกล้ แต่พนันกับแก๊งแมวเหมียวไปแล้ว ก็ต้องหาทาง ดีที่ฟ้าใสมาช่วยเธอ
“ทั้งสองคนเลย ไปว่าเขาทำไมคะ เขาก็อยู่ของเขาดีๆ” เกศราปรามเพื่อน จึงได้รับสายตาระอาจากปาริชาติ หญิงสาวจึงก้มหน้านิ่งเสีย
“ยัยฟ้าสิไม่สนใจเลย แกรับพนันแล้วนะ ทำไมเฉยเมยจริงเชียว” ปาริชาติมองเพื่อนสาวที่เกล้าผมหลวมๆ บนศีรษะกำลังนั่งจิ้มเครื่องคิดเลขเหมือนว่านั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
“ดูไปอีตานี่ก็หล่อลากไส้ รวย สะอาด เข้าตำรา” ราศีมองดูรูปหนุ่มหล่อทายาทมหาเศรษฐีพันล้านที่เพิ่งเรียนจบเดินทางกลับจากต่างประเทศแล้วเบ้หน้า
“เข้าตำราอะไรของแก”
“เกย์ชัวร์ เชื่อฉันเหอะ” ราศีมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์
“เออ... ฉันเชื่อแก พวกเดียวกันมองกันออก” ปาริชาติได้ที
“ไอ้เปรี้ยว ปากแกนี่มันน่า” ราศีมองเพื่อนตาขวางนิดๆ ปาริชาติแลบลิ้นใส่เพื่อน ดีใจที่ได้ยั่วราศี เธอรู้ว่าเพื่อนไม่ได้เป็นทอม แต่การได้ยั่วราศีมันคือการเอาคืนที่แสนวิเศษ
“ฉันว่าเขาน่ะ หน้าตาก็งั้นๆ” ปาริชาติเบ้ปาก ไม่เห็นด้วยเล็กน้อยที่บอกว่าอีกฝ่ายหล่อลากไส้ ทั้งๆ ที่หล่อนั่นแหละ แต่มันเสียหน้าสุดๆ
“โห... ไม่ค่อยเลยแก” เกศราเบ้หน้าใส่เพื่อน ไม่เชื่อในคำพูดนั้น “แกยังกลับมาพูดเลยว่าคลั่งหมอนี่”
“ก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ แกก็รู้ว่าฉันเบื่อง่าย ถ้าไม่ติดว่ากลัวยัยโบท็อกซ์มันหยามฉันต่อสาธารณชนละก็ หึ่ม! จ้างให้ฉันไม่เสียเวลาหรอก”
“ถนัดนะแก อะไรไม่ได้ก็เอาเงินฟาดหัว” ราศีรู้ทันเพื่อน
“ไม่ใช่สักหน่อย ยัยฟ้าตอบตกลงเอง ยัยฟ้าน่ะมีน้ำใจไม่เหมือนแกหรอกไอ้หยก แต่อย่างแก เข้าไปนอกจากเขาจะไม่มองอาจจะเตะออกมาก็ว่าได้”
“ยัยน้ำส้มสายชู ปากแกเหรอนั่น”
ราศีกระโดดตะครุบเพื่อนฟัดกันบนเตียง ผมเผ้ายุ่งเหยิง ได้ยินเสียงหัวเราะเป็นระยะๆ เพราะต่างคนต่างบ้าจี้ เกศราหลบไปนั่งเงียบๆ อีกมุมห้อง ฟ้าใสหันไปยิ้มให้เพื่อนรักอย่างเกศรา อีกฝ่ายยิ้มกลับมาอย่างซื่อๆ ก่อนจะหันไปส่ายหน้ากับปาริชาติและราศีที่กำลังฟัดกันอยู่บนที่นอนอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนจะเริ่มจดรายการข้าวของมากมายที่จะซื้อมาในวันพรุ่งนี้ ไม่ได้สนใจจะไปชมรูปภาพของเทพประทานที่สาวๆ ทั้งหลายต่างคลั่งไคล้ สรุปง่ายๆ ก็คือเธอไม่เคยเห็นหน้าชายหนุ่มคนนี้แม้แต่ภาพถ่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะไม่สนเลยไม่ดู เอาไว้คิดแผนได้เมื่อไหร่ ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะทำยังไงดี
“นี่ๆ ดูยัยชะนีลิลลี่สิพวกแก” ปาริชาติชี้ไปยังข้อความของรินลดาหรือลิลลี่ที่คอมเมนต์กรี๊ดกร๊าดปลาบปลื้มเทพประทานออกนอกหน้า แก๊งเจ้าหล่อนเป็นศัตรูตัวฉกาจสมัยเรียนของสี่สาว
“โห... แกเมนต์กลับไปเลย” ราศีเห็นแล้วหมั่นไส้เล็กๆ ตามประสา
“เมนต์ไร” ปาริชาติคิดคำไม่ออก หันไปถามเพื่อนรัก ที่ตอนนี้ยุติการฟัดกันบนเตียงเพราะเหนื่อยหอบไปตามๆ กัน
“อย่าเยอะไง หมั่นไส้ยัยลิลลี่ โห... ดูเขียนข้อความสิ บอกว่ารั้วบ้านติดกัน ทำเหมือนยัยนี่จะปีนรั้วไปปล้ำอีตาเทพประทานนั่น” ปาริชาติพิมพ์ข้อความกลับไปตามคำของราศี แม้ราศีจะไม่สนใจเทพประทาน แต่ก็อดหมั่นไส้ยัยแมวเหมียวเสียไม่ได้
“จะดีหรือเปรี้ยว นี่มันหน้าบ้านเค้านะ เดี๋ยวโดนสับเละ” เกศราถามอย่างเกรงๆ ถึงเธอจะเชยๆ แต่ก็พอรู้ว่าเค้าเล่นเฟซบุ๊กกันอย่างไร เพียงแค่เธอไม่ชอบเล่นก็เท่านั้น
“ก็เมนต์ไปแล้ว ไม่สน แกอย่ากลัวไปเลยน้องหนิม” ปาริชาติหันบอกเพื่อน คนอย่างเธอลุยแหลก ตบเป็นตบ ด่าเป็นด่า ไม่เคยมีใครด่าเธอทันเลยสักคนตั้งแต่เกิดมา ถ้าใครด่า จะด่าอะไรไม่สน เธอต้องด่าให้เยอะกว่า เร็วกว่า ให้มันด่าไม่ทัน นั่นแหละเธอ ชีวิตคุณหนูอย่างเธอไม่เคยมีใครขัดใจ แต่น่าแปลกที่เธอคบเพื่อนทั้งสามที่คนละสไตล์ได้ยาวนานหลายปีตั้งแต่เรียนจนเรียนจบ อาจเพราะมีบางอย่างที่เหมือนกันคือ ความจริงใจ ซึ่งมันล้ำค่ามากมายนัก
“เฮ้ยๆๆ ยัยผีปอบเมนต์แล้วแก” ราศีรีบบอกเมื่อเห็นข้อความตอบกลับมา
ข้อความกระทู้ในเฟซบุ๊กขึ้นว่า
‘ก็คนมันมีไง อิจฉาล่ะสิ ไม่เหมือนพวกไม่มี ตาร้อนผ่าวๆ หุหุ คนมันมีทุกอย่างเยอะจนเป็นที่อิจฉา ก็งี้แหละ’
“แหวะ” สองสาวทำเสียงพร้อมกัน ฟ้าใสหัวเราะคิก ส่วนเกศราทำหน้านิ่งๆ ไม่ชอบคำพูดประเภทนี้เลย แต่ที่เธอคบกับเพื่อนทั้งสามได้ก็เพราะว่าเพื่อนทั้งสามไม่รังแก ไม่ดูถูกหรือมองเธอเป็นตัวประหลาดเหมือนคนอื่นๆ แถมยังจริงใจอีกด้วย ไม่ว่าเธอจะโดนใครรังแก เพื่อนทั้งสามก็จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ไม่ใช่ว่าเธอไม่สู้คน แต่เธอไม่ชอบมีเรื่องกับใคร มันน่ารำคาญและเธอก็ไม่ชอบ จึงเลือกที่จะเงียบไม่ต่อล้อต่อเถียงกับใคร แต่กับเพื่อนสาวทั้งสามเธอยังพอกล้าค้านๆ บ้างไม่เหมือนตอนอยู่ข้างนอก เธอไม่กล้าเพราะเห็นสีหน้ารำคาญและระอาเธอ เธอก็ไม่อยากเอ่ยปากอะไรออกมาทันที
“เห็นไหมคะ โดนด่ากลับเลย อย่าไปมีเรื่องกับเค้าเลยค่ะ” เกศราพูดเสียงอ่อย
ปาริชาติไม่สนคอมเมนต์ด่ากลับทันควัน
‘อีปลวก’
“เฮ้ย! สะใจว่ะแก” ราศีหัวเราะร่วน ป่านนี้รินลดาคงโกรธหน้าดำหน้าแดง
“ฉันรู้แล้วล่ะ ที่อีตาเทพประทานไม่เห็นความสวยของพวกเราเพราะอะไร” ปาริชาติเอ่ยขึ้นกอดอกเชิดๆ
“อะไร” ทุกคนประสานเสียงเอ่ยถาม ไม่เว้นแม้แต่ฟ้าใสที่มีสมาธิกับการคิดบัญชีรายรับรายจ่าย แต่หูก็ยังสนใจฟังเพื่อนสาวเจื้อยแจ้วสนทนากันอย่างออกรส