บทที่2. มันเป็นเหตุการณ์ที่ทิชาต้องจำจนตาย 2/2
แค๊กๆ
เสียงไอดังๆ กับท่าทางเหมือนกำลังทรมาน ด้วยมนุษยธรรม แม็กซิมัสเลยยื่นมือไปตบแผ่นหลังทิชาให้ เป็นการช่วยเหลือเวลาที่คนเกิดอาการติดคอ ตับๆ น้ำหนักมือของเขาคงมากเกินไปสักนิด เรือนร่างเล็กบางนั่นจึงเซถลาไปข้างหน้าเกือบล้มหน้าขมำหากมือแข็งแรงจะไม่รั้งเอาไว้
ทิชาเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย
“ขอบคุณค่ะ” เสียงพึมพำดังเบาๆ พร้อมกับร่างเล็กบางที่ขยับออกห่าง
แม็กซิมัสปล่อยมือ เขายืดกายเต็มความสูง นั่นเท่ากับข่มให้ทิชาดูเล็กจ้อยลงไปอีก
“เธอกำลังเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งเจ้านายของเธออยู่นะ!” เสียงติงกึ่งตำหนิจากชายร่างใหญ่
ใบหน้าเล็กก้มต่ำ รอบผ่อนลมหายใจแผ่วๆ ทิชารู้ว่าเธอเป็นเช่นที่แม็กซิมัสกล่าว เธอแอบอู้ เพราะท้องหิว แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่คอขาด บาดตาย เวลาเพียงเสี้ยววินาที เรียกไม่ได้ว่าเธอกำลังเบียดบังเวลาทำงาน
“ขอโทษค่ะ” ทิชาพึมพำขอโทษไปอีกครั้ง เธอไม่อยากสร้างปัญหาให้ประภาร้อนหู
“ถ้าเธอเป็นพนักงานที่ร้านฉัน...วันพรุ่งนี้เธอคงไม่มีงานทำ!”
ชายหนุ่มตำหนิต่อ เขาไม่ชอบคนงานที่เบียดบังเวลาทำงานเท่าไหร่ มันเหมือนกับว่าเจ้าหล่อนไม่เคร่งครัดกับกฏที่พนักงานทุกคนยึดถือปฏิบัติกันมา
ทิชาไม่ได้ตอบโต้ เธอผิด และเธอยอมรับความจริง ถึงแม้ผู้ชายตรงหน้าจะไม่สิทธิ์ติติงเธอ เมื่อเขาเป็นลูกค้า ไม่ใช่นายจ้าง เธอยอมเสียมารยาทด้วยการเดินหนี แต่เป็นการเดินถอยหลังที่มองไม่เห็นเส้นทาง ด้านหลังของทิชามีกล่องกระดาษขนาดใหญ่ เมื่อเจ้าตัวขยับถอยเธอจึงชนกล่องนั่นเข้าเต็มลัก!! กองกระดาษไหลร่วงเข้าหาตัวเธอ ทิชากระโจนไปข้างหน้าเพื่อหลบพายุลังกระดาษเหล่านั้นที่ถล่มลงมาเหมือนห่าฝน จังหวะเดียวกันที่แม็กซิมัสถลันเข้าหา เขาเอื้อมมือกระชากเรียวแขนของทิชา ตอนที่เธอกระโจนใส่ ผลที่ได้...
คือคนทั้งคู่ล้มกลิ้งลงไปบนพื้น...
เรียวปากสีเข้มกระแทกอัดนวลแก้ม เขาเบิกตาโตมองผิวเนียนใสในระยะประชิด ก่อนจะเผลอตัวสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยออกมาจากร่างเล็กบาง ทิชาตกใจแทบสิ้นสติ เธอถูกร่างหนาหนักคร่อมทับไว้ทั้งตัว! แถมซ้ำ ปลายจมูกโด่งแหลมของผู้ชายนัยน์คมเหมือนเหยี่ยวยังประทับอยู่ที่ข้างแก้มของตนเองเสียอีก
เป็นช่วงเวลาแสนสั้น แต่ในความทรงจำของแม็กซิมัสและทิชามันยาวนานจนชายหนุ่มสามารถสำรวจคนใต้ร่างได้แบบละเอียดยิบ จากที่เคยค่อนว่า ทิชาคือผู้หญิงไร้เสน่ห์ ตัวเล็กเหมือนคนแคระ หล่อนไม่มีอะไรในตัวสักอย่างที่ดึงดูดเพศตรงข้าม สิ่งเดียวที่แม็กซิมัสยอมรับในตัวหล่อนคือเส้นผมสีดำ แต่เมื่อได้อยู่ในระยะที่ร่างทั้งร่างแนบสนิทกันทุกส่วน กลิ่นของหล่อนเป็นอีกอย่างที่เขาสัมผัสได้ กลิ่นหอมอ่อนๆ นั่นคุ้นจมูก เหมือนเคยได้กลิ่นนั้นมาจากที่ไหนสักที่ เขาพยายามนึก แต่ยังนึกไม่ได้ในทันที อย่างที่สองตามมาในเวลาติดๆ กัน ผิวของทิชาเนียนใส เรียบเนียนจนมองไม่เห็นแม้แต่รูขุมขน เท่าที่สัมผัสด้วยตนเอง มันนุ่มเนียนจนอยากดอมดมไม่ห่าง ชายหนุ่มโหย่งตัวขึ้น เขาฟุ้งซ่านเกินไป คงเป็นเพราะความตกใจ ทำให้ดวงตาเขามองอะไรผิดเพี้ยน ทิชาขยับตัวตาม เธอพยายามถอยห่างเขา แววตาของเธอเต้นระริก มีความหวาดหวั่นอยู่เต็มหน่วยตา
ช่วงเวลาเร่งรีบตอนที่เธอพยายามมุดลอดวงแขนแข็งแรงของแม็กซิมัสออกมานั้น ยางรัดผมสีดำที่มัดพวงผมทั้งหมดของเธอไว้ ดันไปเกี่ยวเข้ากับเข็มกลัดเนคไท ยางเส้นนั้นหลุดออกจากพวงผมสลวย ห้อยคาอยู่ที่เข็มกลัดเนคไทเส้นนั้นนั่นเอง
ผมเส้นเล็กสีดำมันระยับทิ้งตัวลงแผ่กระจายเต็มแผ่นหลัง ล้อมกรอบหน้าเล็กๆ จนทำให้ดวงตากลมโตดูงามซึ้งจนหัวใจในอกของชายหนุ่มเต้นโครมคราม แม็กซิมัสผงะถอยหลัง มีอาการตะลึงค้าง เขายกมือตะปบอกข้างซ้าย จังหวะเดียวกับที่ทิชาหมุนตัว ปลายเส้นผมสะบัดผ่านใบหน้าเขา ทิ้งไว้แค่กลิ่นชมพูสระผมกลิ่นดอกไม้จางๆ ชายหนุ่มกะพริบเปลือกตาถี่ๆ มองตามหลังหล่อนไปจนทิชาหายลับไปจากสายตา
มือแข็งแรงยกขึ้นตบหน้าผาก! กลอกตามองฟ้า พร้อมกับบ่นพึม “เป็นอะไรของมึงไอ้แม็ก!”
เสียงหัวใจในช่องอกเต้นรัวเร็ว มันมีอาการแปลกๆ ตั้งแต่สบตากับทิชาในระยะประชิดเมื่อสักครู่
ใบหน้าคมเข้มสะบัดแรงๆ เหมือนต้องการขับไล่บางสิ่งที่ติดค้างอยู่ในความทรงจำ แม็กซิมัสเดินตัวลอยกลับมาที่เดิม เขาทิ้งตัวนั่งแต่ก็ยังอยู่ในภวังค์ ภาพที่มองเห็นวูบไปวูบวาบมา หากมีภาพขึ้นโชว์ให้คนอื่นร่วมรับรู้ด้วย คนเหล่านั้นก็จะเห็นภาพเดียวกับเขา คือภาพของ...ทิชา
ผู้หญิงแคระที่เขาค่อนว่าในใจตั้งแต่ตอนที่พบเจอกันครั้งแรก
ผู้หญิงคนเดียวกันนี่แหละที่แม็กซิมัสเพิ่งเห็นว่าหล่อน...สวย...
“แม็กๆ แม็กคะ!!” เสียงใครบางคนร้องเรียก
หัวไหล่หนาไหวน้อยๆ ก่อนดวงตาคมดุจะเหลียวมองหาต้นกำเนิดเสียง
มือเรียวบางยกโบกไปมาห่างจากใบหน้าเขาแค่คืบ แม็กซิมัสแอนตัวหนี “มีอะไรหรือลอร่า?” เขาย้อนถามเสียงแหบ
“เปล่าค่ะ ลอร่าเห็นคุณตาลอยๆ” สาวไฮโซยิ้มตอบ
“งั้นรึ! ผมคงคิดอะไรติดพันอยู่ล่ะสิ” เขาตอบแบบขอไปที ชำเรืองมองแม่สาวตัวป่วนด้วยหางตา เห็นทิชาเดินโฉบไปโฉบมาไม่ได้อยู่นิ่งกับที่สักนาที ใบหน้าหล่อนเปื้อนยิ้มตลอดเวลา แม็กซิมัสขมวดคิ้ว เขาเหล่มองไปด้านข้าง มีลูกค้านั่งอยู่หลายโต๊ะส่วนมากเป็นผู้ชาย! และคนส่วนใหญ่มองมาที่เขา
อาหารจานแรกทยอยยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะ มีเสียงจิปากเบาๆ เมื่อสาวเสิร์ฟที่เป็นคนยกมาไม่ใช่แม่สาวแคระที่เขากำลังจับตามอง หล่อนสาละวนอยู่กับลูกค้ารายอื่น
แอนนาพยายามทิ้งหางตาให้มหาเศรษฐีหนุ่มรูปงาม แต่ดวงตาหลังแพขนตาหนาๆ นั้น กลับชำเรืองมองไปที่จุดอื่น เธอเลยยอมถอยมาแบบเสียดายหน่อยๆ แต่เมื่อมองตามสิ่งที่ชายหนุ่มสนใจ เธอก็ถึงกับอึ้ง!
ทิชากำลังเทคแคร์ลูกค้าอีกโต๊ะ มีเด็กเล็ก2คนที่กำลังอยู่ในวัยซนจัด
หนุ่มน้อยหยอกล้อกันจนอาหารเปรอะเลอะเทอะทั้งตัวเด็กน้อยและที่โต๊ะอาหาร ร้อนถึงบิดาที่ดูท่าว่าจะมาคนเดียว ไร้มารดาของเด็กๆ ต้องลุกขึ้นมากำหลาบ แต่เด็กทั้งสองนั่นก็ไม่ได้เกรงกลัว ยังคงตักอาหารหล่นเกลื่อน ทิชาเลยยื่นมือเข้าไปช่วย เธออิบายให้เด็กชายทั้งสองคนฟัง มีรอยยิ้มตลอดการสนทนา และดูเหมือนว่า...เด็กสองคนนั่น จะหลงเสน่ห์รอยยิ้มของทิชาเข้า เขาทั้งสองสงบลง คนเป็นพ่อเลยพลอยโล่งใจไปด้วย
แต่ที่แอนนาแปลกใจคือ ไม่ว่าจะแอบมองกี่ครั้ง เธอมักจะเห็นแม็กซิมัสมองตามทิชาไปตลอด ด้วยสายตาขวางๆ เหมือนไม่พอใจที่เพื่อนของเธอ แจกยิ้มให้หนุ่มคนอื่นมากเกินไป
“ไหนคุณว่ามีงานเร่งไงคะแม็ก?” ลอร่ากระซิบถาม หลังผ่านช่วงเวลาที่แม็กซิมัสกำหนดไปหลายนาที แต่เขาไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัว
ชายหนุ่มยกแก้วน้ำขึ้นจิบ “ไม่แล้ว...งานไม่สำคัญเท่ากับเวลาที่มีคุณอยู่หรอกลอร่า” แม็กซิมัสแกล้งหยอด และดูเหมือนว่าจะได้ผล ลอร่าหมดความสนใจเรื่องที่เขาเปลี่ยนใจ เพราะหากเป็นทุกครั้ง แม็กซิมัสให้ความสำคัญกับงาน มากกว่าเธออยู่แล้ว
สาวไฮโซอายม้วน เธอเสยกแก้วน้ำขึ้นจิบแก้เขิน แต่ก็เกือบพ่นน้ำสีเขียวคล้ำๆ ที่ผ่านปากทิ้ง ทั้งรส ทั้งกลิ่นแปลกลิ้นจนอยากจะคาย
“น้ำอะไรคะนี่ รสชาติแปลกๆ” นี่เป็นการลิ้มรสอาหารไทยครั้งแรกของลอร่า เธอไม่ใคร่ชอบอาหารมันๆ รสแปร่งๆ นั่นเลย ยิ่งน้ำสีคล้ำที่เพิ่งได้ทดลองชิมครั้งแรก รสชาติไม่ถูกใจสักนิด แต่ไม่กล้าแผลงฤทธิ์เมื่อแม็กซิมัสดูชื่นชอบ เขาเติมข้าวสวยร้อนๆ ถึงสองครั้ง เอร็ดอร่อยกับอาหารที่แกล้มด้วยการมองตามสาวแคระตัวหอมที่ตนเองติดใจ
“ผมก็ไม่แน่ใจนะ แต่มันดีต่อสุขภาพน่ะ”
แม็กซิมัสเป็นเจ้าของภัตตาคารหรู เขารู้จักอาหารเกือบทั่วโลก เขาลิ้มลองมาเกือบทุกอย่าง และฟันธงให้อาหารไทยเป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพที่ควรได้ลิ้มรส อาหารแต่ละชนิดประกอบไปด้วยสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มความหน้าสนใจและเป็นประโยชน์กับร่างกาย
ลอร่าแอบเบ้ปาก เธอไม่ชินกับอาหารพื้นๆ แบบนี้ การที่เธอมาเหยียบร้านระดับกลางก็สาเหตุเดียว อยากกดคู่ปรับให้ต่ำลง ด้วยการควงผู้ชายที่คนทั้งอเมริการู้จักดี
แต่ดูเหมือนว่าทิชาจะไม่สนใจ
หล่อนทำงานอย่างแข็งขัน ไม่มีร่องรอยริษยาในแววตาของหล่อนเลย
แม็กซิมัสทำท่าเหมือนต้องการเรียกพนักงานเสิร์ฟ แอนนารีบเสนอหน้าเข้าไปใกล้ เธอชะงักหัวเกือบทิ่ม เมื่อลูกค้าหนุ่มชักสีหน้าใส่ สีหน้ากระด้างของชายหนุ่มทำให้แอนนาทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าคนที่ยิ้มแย้มผ่านสื่อ จะมีสีหน้าดุดันจนน่ากลัวแบบนี้
ชายหนุ่มเกือบตวาด! เขาต้องการสาวเสิร์ฟอีกคน แต่หล่อนเหมือนนกรู้
หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน?
ดูเหมือนว่าทิชาจะพยายามหลบหน้าเขา ทุกครั้งที่สายตาเวียนมาเจอกัน เป็นหล่อนทุกครั้งที่เบือนหน้าหลบ แม็กซิมัสได้แต่ฮึดฮัด! เขาไม่เคยโดนผู้หญิงเมินใส่ หล่อนเป็นคนแรกที่ทำท่ารังเกียจการแตะต้องจากเขา
“มีอะไรให้แอนนารับใช้ไหมคะ?” แอนนาถามเสียงสำรวม เธอก้มหน้าหลบแทบไม่ทัน ตอนที่สายตาขุ่นขวางตวัดผ่านมา
“ไม่...เช็คบิลได้เลย...”
ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงห้วน เขายกผ้าเช็ดปากขึ้นซับรอยเปื้อนที่มุมปาก ทอดสายตาคมดุมองไปยังจุดที่ทิชายืนหลบอยู่
คาร์ลรีบเข้ามาจัดการเรื่องค่าอาหาร
แม็กซิมัสดันตัวลุกขึ้นยืน เขาก้าวออกจากโต๊ะ มีลอร่าสอดมือคล้องแขนเขาและเดินเคียงกันออกไปด้านนอก
ทิชาหันหลังให้ เธอเผลอตัวยกมือขึ้นปาดข้างแก้ม รู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนเหตุการณ์บ้าๆ นั่นเพิ่งเกิดขึ้นเลย
ชายหนุ่มคาดโทษแม่สาวเสิร์ฟร่างแคระในใจ...ในอนาคตไม่ไกลจากนี้แหละ เขาจะเปลี่ยนท่าทางรังเกียจของหล่อนให้จงได้