บทที่ 5 ความสัมพันธ์ที่ไม่ตั้งใจ 1.1
ฝ่ามือแกร่งละจากทรวงอกมาจับอยู่ตรงชายกระโปรงชุด เดรส ถลกขึ้นสูงจนไปกองอยู่ที่เอวคอดกิ่ว เขาวางมือลงบนเนินสวรรค์อูมใหญ่ทันที ลูบอย่างแผ่วเบาภายนอกชั้นในตัวจิ๋ว ปลายนิ้วสะกิดเม็ดเกสรผ่านเนื้อผ้าบางๆ ที่ปกปิดอยู่ เท่านั้นเองกอแก้วหายใจติดขัด ร่างกายรุ่มร้อน เพลิงสวาทเผาผลาญใจ ความปรารถนาที่ไม่เคยได้สัมผัสจากใครมาก่อน วิ่งซ่านไปทั่วทั้งร่าง
ไม่ได้...เธอจะให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ วัชริศเป็นเพื่อนสนิทของเธอจะให้ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจเช่นนี้เกิดขึ้นไม่ได้ หากเกิดขึ้นความเป็นเพื่อน คงยุติลงอย่างแน่นอน เขาไม่มีสติ ไม่มีความนึกคิด ถูกครอบงำด้วยพิษสุรา กอแก้วจะต้องทำให้เขารู้สึกตัวให้ได้ แต่จะทำอย่างไรนี่สิคือปัญหา เพราะเวลานี้หญิงสาวคิดอะไรไม่ออก รู้เพียงแต่ว่าร่างกายของตัวเองนั้นถูกไฟสวาทครอบงำจนหมดสิ้น
ความปรารถนาของวัชริศท่วมท้นกาย หัวใจเต้นเร่ากระหายสวาทเต็มพิกัด ความหอมจากเรือนกายสาวที่เขาดอมดม ปลายถันรสอร่อยที่ได้ลิ้มลอง มันเย้ายั่วอารมณ์ของเขาได้ดีนักแล กายแกร่งร้อนผ่าวอยู่ภายใต้กางเกงยีนส์ราคาแพง อยากจะบุกเข้าถ้ำสวาทเต็มทน
“ชาย ลืมตาดูฉัน ชาย ฉันไม่ใช่ครีม ฉันไม่ใช่ชาย ฉันคือ กอแก้ว” เสียงบอกกล่าวของกอแก้วดังขึ้น เธอหวังจะให้ชายหนุ่มได้ยิน ไม่เลย เขาไม่รับรู้ใดๆ ทั้งสิ้น ยังคงดูดกลืนสร้างความซ่านสยิวให้กับเธอ อย่างต่อเนื่อง นิ้วมือของเขาก็เช่นกัน สะกิดรัวไม่หยุดตรงจุดอ่อนไหวของสตรี
“อือ...อา” ปากบางขยับคราง มือเล็กที่ผลักไสถูกรวบไว้ด้วยมือใหญ่ที่เริ่มรำคาญ ก่อนจะเลื่อนใบหน้าขึ้นสูงมาจูบปากอิ่มของกอแก้ว แทรกซอนลิ้นใหญ่หาความหวานละมุนในโพรงปากของเธอทันที กระดก ลิ้นรัวเร็วกับลิ้นนุ่ม แลกรัดไซ้ซอนไปทั่วช่องปาก เสกคาถาให้เธออ่อนแรง ไร้การต่อต้านด้วยจูบและความกระสันจากนิ้วมือที่บดบี้ตรงเม็ดเกสร
“ครีม ฉันรักเธอนะครีม”
เขาพูดเบาๆ เมื่อถอนจุมพิตเร่าร้อนออกห่าง กล่าวคำรักจบก็แนบ ริมฝีปากบดเคล้าปากบวมเจ่อนั่นอีกครั้ง รสชาติความหวาน ความหอม ความละมุนจากช่องปากและผิวกายของเธอ เป็นอะไรที่เย้ายวนอารมณ์ ของเขาได้ดีเหลือเกิน วัชริศไม่ผิดหวังเลยที่ได้สัมผัสรสชาตินั้นๆ
มือแกร่งที่รวบข้อมือเล็กไว้ปล่อยออก ก่อนจะเลื่อนต่ำมายังขอบกางเกงชั้นในตัวเล็กที่ปกปิดความอวบอูมเอาไว้ ถูกร่นลงไปกองยังปลาย เท้า ก่อนจะถูกเขี่ยออกไปด้วยปลายเท้าของชายหนุ่ม ฝ่ามือใหญ่ทำงานทันที วางแนบลงบนเนินเนื้อสาวไร้สิ่งกีดกั้น ส่งปลายนิ้วเข้าไปในความอุ่น ร้อนกระชับแน่น
“อุ้ย...อือ” กอแก้วตกใจเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างชำแรกเข้าไปในร่างกาย ของตัวเอง ตรงจุดหวงแหนของสตรี สะโพกงามงอนขยับหนีโดยอัตโนมัติที่ถูกรุกราน ไม่ได้ผล ปลายนิ้วที่แทรกลึกเข้าไปในร่างของเธอนั้นไม่หลุดออกไปดั่งใจคาดคิด มันกลับขยับเขยื้อนอย่างเป็นจังหวะ เข้าและออก ด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอ
“อา...อา” เธอร้องครางออกมา หลังจากปากได้รับอิสระจากปากหนา ที่ลงไปชิมรสหวานของปทุมถัน
“ชะ...ชาย มอง...มองหน้าฉัน ชาย ฉันไม่ใช่ ไม่ใช่...ครีม”
หญิงสาวพยายามร้องบอกอีกครั้ง นิ้วมือเล็กๆ หยิกไปที่ท่อนแขน กำยำ ตามร่างกายของเขาแทนการทุบตี ปลายเล็บข่วนไปบนผิวเนื้อจนเป็นทางยาว เพราะหวังว่าความเจ็บปวดที่เพื่อนสนิทได้รับ อาจจะทำให้เขาหยุดการกระทำครั้งนี้ได้ เหมือนวัชริศจะรู้สึกถึงความเจ็บปวด เขาสะดุ้งและโยกแขนหนี นิ้วมือเล็กที่หยิกบนแขน ความเจ็บปวดที่ได้รับน้อยกว่าความ ต้องการทางเพศที่ตกอยู่ในภาวะรุนแรง
วัชริศใช้มือปลดเข็มขัดและตะขอกางเกง รูดซิปลงไปสุดทาง แล้วจึงดึงขอบกางเกงทั้งด้านในและด้านนอกลงไปกองอยู่ตรงหัวเข่า โดยใช้ลำตัวกดทับร่างนุ่มนิ่มเอาไว้ไม่ให้หนีหาย เธออาศัยจังหวะที่เขากำลังง่วนอยู่กับ การปลดกางเกง ทั้งผลัก ใช้ขาอีกข้างที่ได้รับอิสระเหวี่ยงไปกระทบกับสีข้างของเขา ไม่พอ ยังพูดให้เขาหยุดการกระทำก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกิน ไป
“ชาย...ฉันไม่ใช่ครีม มองหน้าฉัน ชาย” เธอบอกเขาอีกครั้ง หลังจากที่ชายหนุ่มนั่งคร่อมร่างสาว กอแก้วตกใจสุดขีดเมื่อเห็นความยิ่งใหญ่ผงาดเต็มสองตา หญิงสาวขยับตัวหนี ทว่ากลับถูกมือใหญ่จับสะโพกของเธอเอาไว้แน่น
“ครีม ฉันรักเธอ เป็นของฉันนะ”
ภาพใบหน้าของพิมวดีซ้อนทับใบหน้าของกอแก้วอยู่อย่างนั้น คำพูดของกอแก้วจึงไม่เข้าไปในหูของเขา ในจิตสำนึกของวัชริศขณะนี้ หญิงสาวใต้ร่างคือพิมวดี
“ไม่...อย่า”
กอแก้วร้องออกมาเสียงดัง หลังจากที่ลำขาสาวถูกแยกออก เธอพยายามหุบมันและใช้ปลายเท้าถีบหน้าท้องแข็งแรง เปล่าประโยชน์ ขาทั้งสองข้างของเธอถูกแยกออกกว้าง ก่อนที่เขาจะสอดแทรกเรือนกายใหญ่โตเข้าไปในกลีบดอกไม้
“ม...ไม่ กรี๊ดดด”
เสียงกรีดร้องแสดงความเจ็บปวดของกอแก้วดังออกมาดังลั่น พร้อมกับฝ่ามือเล็กที่บีบลำแขนของเขาแน่น ปลายเล็บที่ค่อนข้างยาวจิกบน ผิวเนื้อจนเขาทั้งเจ็บทั้งแสบ ความคับแน่นที่เขาได้รับนั้นมากมายมากจนสติเริ่มกลับมาอยู่กับตัว ราวกับว่าโดนน้ำเย็นสาด
“แก้ว...” สติของวัชริศกลับคืนมาในบัดดล หลังจากได้ยินเสียง กรีดร้อง และได้รับความแสบร้อนจากคมเล็บที่จิกลงบนผิวเนื้อ ภาพใบหน้าของกอแก้วเด่นชัดเต็มสองตา อาการตึงจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ กลับคืนมาทันที
“ฉันไม่ใช่ครีม ฉันไม่ใช่ครีม” กอแก้วพูดทั้งน้ำตา รับรู้ถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตสาว มองใบหน้าของเพื่อนสนิทด้วยความ เจ็บปวดหัวใจ
“แก้ว...แก้ว ฉันหยุดไม่ได้”
แม้จะรู้ว่าสาวใต้ร่างไม่ใช่พิมวดี แต่เขามาไกลเกินกว่าจะหยุด ความแข็งแกร่งที่ฝังลึกขยับเขยื้อนเข้าออกตามแรงอารมณ์ของชายหนุ่ม เน้นหนัก ระรัวเร็วจนร่างสาวสั่นคลอน ความเจ็บปวดทุเลาลง ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านระคนหฤหรรษ์จากการซอยเร่งจังหวะของเขา
“ฮือ...อา” เสียงครางปะปนกับเสียงสะอื้นดังออกมาตลอดเวลาที่เขาถาโถมร่างกายเข้าใส่ ใบหน้าคมเข้มโน้มต่ำจนกระทั่งครอบครองปทุมถันสีสวย เขาสลับดูดดื่มทั้งสองข้างเต้าอย่างเมามัน ผสานการทำงานของเอว สอบที่กระโจนจ้วงไม่หยุด ความมันเหนือคำบรรยายจึงเกิดขึ้น
ปากหนาละจากปลายถันเปียกชุ่ม เพื่อปลดปล่อยเสียงคราง ก้มลง ดูดกลืนใหม่อีกหน
“ชาย...พะ...พอ” เธอรู้ว่าไม่อาจหยุดยั้งการกระทำของเขาได้ แต่เธอก็หวังว่าเขาจะหยุด ตามที่ร้องขอ
ไม่...เขาไม่ได้ทำตามที่กอแก้วบอก ยังคงโถมความยิ่งใหญ่เข้าไปใน กลีบดอกไม้สาวอย่างต่อเนื่อง เพิ่มอัตราความเร็วมากขึ้น แรงขึ้น ราวกับว่ากำลังจะทะยานเข้าสู่เส้นชัย
แรงจังหวะถาโถมของชายหนุ่มหน่วงหนักและเร็ว บางจังหวะเขา จงใจให้เนินเนื้อชายเสียดสีกับเม็ดเกสรสีแดงเรื่อ ความเสียวสะท้านสุดหัวใจจึงเกิดขึ้นกับกอแก้ว ร่างกายของเธอตอนนี้เหมือนเรือลำน้อยที่ลอยอยู่กลางทะเล ที่มีคลื่นลมแรง คลื่นลมแห่งความซ่านเสียวที่โหมกระหน่ำ เข้าหากายสาวอย่างต่อเนื่อง
“อา...กรี๊ดดด”
ในที่สุดร่างสาวก็ถูกดีดขึ้นไปบนท้องนภา ก่อนจะตกลงมากระทบกับผืนน้ำทะเลอีกครั้ง ความสุขที่ไม่เคยได้พบพานกระจายไปรอบๆ ลำตัว เธอกอดร่างใหญ่เอาไว้แน่น ร่างกายเกร็งกระตุกสองสามครั้ง กลีบดอกไม้สาวเต้นเร่ารัดรึงกายใหญ่ที่ขยับไม่พัก
“โอว...โอว แก้ว อา”
เขาไม่อาจทานทนกับความตอดขมิบที่รุนแรงนี้ได้ กระแทกกายเข้าใส่ร่างสาวสามสี่ครั้ง หยุดแช่นิ่งในครั้งสุดท้าย ปล่อยสายน้ำอุ่นร้อนเข้าไปใน กายสาวทุกหยาดหยดจบสิ้นเกมสวาทแสนยาวนาน
“ออกไป” กอแก้วผลักวัชริศที่ตัวสั่นเทิ้มให้ออกห่าง จนร่างของเขาที่ ไม่ทันได้ตั้งตัวล้มหงายลงบนที่นอน ก่อนที่หญิงสาวจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง ติดตะขอเสื้อใน ก่อนจะดึงชุดเกาะอกขึ้นมาในสภาพเดิม เอื้อมมือไปรูดซิป ทางด้านหลัง ดึงชายกระโปรงให้อยู่ในสภาพเดิม ก้าวลงจากเตียงอย่าง รวดเร็วก้าวเท้าวิ่งไปที่ประตูห้องนอนทันที
“กอแก้วเดี๋ยวก่อน แก้ว”
ชายหนุ่มร้องเรียกและวิ่งตามร่างสาวออกไป ทว่าสภาพกึ่งเปลือยของ เขาไม่เอื้ออำนวย จำต้องจัดระเบียบให้เรียบร้อย ทำให้เขาเสียเวลาไปเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งตามร่างเล็กที่กำลังก้าวเข้าไปในลิฟต์
“แก้ว เปิดประตู เปิดประตูก่อน แก้ว โธ่โว้ย!!” เขาสบถออกมาคำโต เมื่อเห็นตัวเลขที่กำกับบอกว่าลิฟต์อยู่ที่ชั้นใด ตัวเลขดังกล่าวถดถอย ลงไปทีละชั้น
วัชริศพยายามคิดว่าจะทำสิ่งใดต่อไปดี ความผิดในครั้งนี้มันมากเกินกว่าที่เขาจะทำใจยอมรับได้ กอแก้วเป็นเพื่อนสนิทที่คบกันมานานสี่ปี รู้อุปนิสัยใจคอ คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้เขาไม่กล้าสู้หน้าเธอ ตกอยู่ในสภาวะเข้าหน้ากันไม่ติด จะเอ่ยคำขอโทษก็ไม่กล้า จะไม่ขอโทษก็ไม่ได้ สมองของเขาตึงไปหมด คิดอะไรไม่ออกแล้ว
ชายหนุ่มเดินกลับไปที่ห้องเหมือนคนเลื่อนลอย ทรุดกายลงนั่งบน โซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน กำปั้นใหญ่ทุบลงไปบนโซฟาหลายครั้ง พร้อมกับ พูดคำว่า ‘ไอ้บ้าเอ๊ย...ทำไมถึงเป็นแบบนี้วะ’ ตลอดเวลา ก่นด่าตัวเองต่างๆ นานา ให้สมกับความผิดมหันต์ที่เขาได้ทำลงไป
พรุ่งนี้วัชริศจะไปขอโทษกอแก้วที่บ้าน...นี่คือความคิดของเขา ณ ตอนนี้
..............
พิมวดีกำลังเดินออกมาจากคณะหลังจากที่ทำเรื่องจบกับอาจารย์เรียบร้อยแล้ว พอเดินออกมาจากอาคารเรียนก็พบกับวัชริศที่เดินแกมวิ่ง มาหาเธอ
“ครีม แล้วแก้วล่ะ”
เพื่อนชายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติเพราะไม่อยากให้คนที่เขาแอบรักรู้พฤติกรรมน่าละอาย เมื่อเช้านี้เขาไปหากอแก้วที่บ้านแต่ต้องพบกับ ความผิดหวัง มารดาของกอแก้วบอกเขาว่า เมื่อคืนนี้กอแก้วไม่ได้กลับบ้าน โทรศัพท์มาบอกว่าจะไปนอนค้างบ้าน พิมวดี ทำให้เขาไม่กล้าไปหากอแก้วที่นั่น เขาจึงเดินทางมาที่มหาวิทยาลัย เพราะถึงยังไงกอแก้วก็ต้องมาที่นี่
“แก้วกลับบ้านไปแล้ว มีอะไรหรือเปล่า เมื่อคืนแก้วมาหา
ครีมที่บ้าน ดูไม่ดีเลย ถามก็บอกว่าทะเลาะกับพี่มา”
“อ๋อ!...ไม่มีอะไรหรอก ถามดูเท่านั้นเองก็แก้วบอกว่าจะมาที่นี่ พอไม่เห็นก็เลยถามไง” วัชริศรีบแก้ตัว
“สงสัยทะเลาะกับพี่ภาพหนัก ร้องไห้เกือบทั้งคืนเลย ครีม
ไม่เคยเห้นแก้วร้องไห้หนักแบบนี้มาก่อน เห็นแล้วก็สงสาร”
พิมวดีเปรยกับเพื่อนสนิท วัชริศร้อนรุ่มในอกทันที รู้เต็มอกว่าสาเหตุที่กอแก้วร้องไห้นั้นหาใช่เรื่องทะเลาะกับวีรภาพพี่ชายของกอแก้ว แต่เป็นเพราะเขาต่างหาก ความมึนเมาคือจุดกำเนิดของเรื่องทั้งหมด
“แก้วกลับไปนานหรือยัง”
“ประมาณสิบนาทีนะ พอทำเรื่องจบเสร็จก็กลับเลย บอกว่าจะไปธุระ”
“น่าจะรอกันก่อน อยากคุยอะไรด้วยนิดหน่อย”
“คุยเรื่องอะไรเหรอ” เพื่อนสาวเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากขอบใจที่หิ้วปีกชายขึ้นไปพักบนห้องน่ะ” เป็นอีกครั้งที่เขาพูดแก้ตัว
“โทรไปก็ได้ ไม่เห็นยากเลย”
พิมวดีแนะนำ เพื่อนชายฝืนยิ้ม โทรศัพท์ไปหาอย่างนั้นหรือ เขาโทรไปหากอแก้วจนมือถลอก ปลายสายก็ไม่รับเลยสักครั้ง
“ครีมจะไปสนามบินกี่โมงล่ะ ชายไปส่งนะ” เขาเปลี่ยนเรื่องสนทนา
“จะกลับไปเอากระเป๋าก่อนแล้วค่อยไปสนามบิน ชายไม่ต้องไปส่งครีมหรอก พี่ต้นกับพี่พิมจะเป็นคนไปส่งครีมเอง ชายไปหาแก้วที่บ้านเถอะ ฝากนี่ให้แก้วด้วยนะ แก้วลืมถุงยาไว้น่ะ”
พิมวดียื่นถุงเล็กๆ ที่บรรจุซองยาส่งให้วัชริศ คนที่รับเปิดถุงออกดู ก่อนจะเงยหน้าถามเพื่อนสาวด้วยความสงสัย
“ยาอะไรน่ะครีม”
“ยาแก้ปวดท้อง ตอนที่ขับรถมามหา’ ลัย แก้วบอกให้ครีมแวะร้าน ยาก่อน บอกว่ารู้สึกปวดท้อง ครีมก็แวะตามที่แก้วบอก”
พิมวดีบอกไปตามความเป็นจริง วัชริศไม่คิดเหมือนเพื่อนสาว มองยังไง ซองยาที่เขาเห็นมันก็ไม่ใช่ยาแก้ปวดท้อง เพราะแผงหนึ่งมีแค่สองเม็ด ถ้าจำไม่ผิดมันคือยาคุมฉุกเฉิน เนื่องจากครั้งหนึ่งเขาเคยซื้อให้คู่ขาที่มีความสัมพันธ์ด้วยกันทาน ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ป้องกัน เพียงแต่ว่าคู่ขาคนนี้จ้องจะจับเขา เธอคนนั้นแอบใช้เข็มเจาะถุงยางอนามัย เขารู้ทันจึงสวมถุงยางอนามัยถึงสองครั้ง เพื่อความมั่นใจเขาจึงไปซื้อยาคุมฉุกเฉินให้ทาน
“เดี๋ยวชายเอาไปให้แก้วเองนะ ครีมไม่ต้องเป็นห่วง ถึงกระบี่แล้ว โทร.มาบอกชายด้วยนะ ชายจะได้ไม่เป็นห่วง”
“จ้า แล้วครีมจะโทร.หานะ ครีมไปก่อนนะ แล้วอย่าลืมขึ้นไปทำเรื่องจบด้วยล่ะ”
“ไม่ลืมหรอก บาย” วัชริศโบกมือให้เพื่อนสาว อีกฝ่ายโบกมือตอบก่อนจะเดินไปยังรถยนต์ของตนเองที่จอดอยู่ไม่ไกล วัชริศมองถุงยาที่ถือไว้อย่างใช้ความคิด กอแก้วกลัวว่าตัวเองจะตั้งท้องจึงรีบไปซื้อยาคุมชนิดนี้มากิน
‘ท้อง’
ถ้าเกิดกอแก้วท้องขึ้นมาจริงๆ ความเลวที่เขาทำไว้ก็จะปรากฏ พิมวดีก็จะต้องรู้เรื่องและเธออาจจะเกลียดเขาไปตลอดชีวิต
ไม่ได้ เขาทนรับความรู้สึกนั้นไม่ได้ วันนี้เขาต้องเจอกอแก้วให้ได้ พูดกับเธอให้รู้เรื่องก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะสายเกินแก้