15.มั่นใจ
เมื่อทุกตระกูลได้ข้อสรุปกันแล้ว เราต่างก็แยกย้ายกันเดินทางกลับ ท่านหญิงไดอาน่ามองหน้าของลูกชายที่ดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นัก
วันนี้เอสเตบันไม่พูดคำใดออกมาแม้แต่ครึ่งคำ เธอเอื้อมมือไปแตะลงบนหน้าผากของเอสเตบันช้าๆ
“เอส..ลูกเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหนอย่างนั้นหรือ ที่วิหารมีอะไรที่ไม่สะดวกสบาย..”
“ไม่ใช่แบบนั้นครับท่านแม่ ที่วิหารสะดวกสบายดีทีเดียว เพียงแต่ข้ารู้สึกเวียนหัวมากจนไม่อยากจะนั่งรถม้าเลยครับ มัน..เหมือนกับรถม้านี่กำลังหมุนและข้าอยากจะอาเจียนออกมาอย่างบอกไม่ถูก..”
ไดอาน่ามองลูกชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“เช่นนั้นพอถึงวีไซร์แล้วแม่จะรีบให้กอนตามหมอมาดูเจ้าหน่อยนะ..”
เพราะเธอมีลูกเพียงคนเดียวเท่านั้น เป็นลูกชายที่ถึงแม้ว่าเขาจะดื้อไปสักหน่อย แต่ทว่าเขาก็เป็นลูกชายที่แสนน่ารักในสายตาของเธออยู่ดี
และเมื่อถึงคฤหาสน์ เธอก็รีบประคองเอสเตบันขึ้นไปพักที่ห้องนอน รอไม่นานหมอที่เก่งกาจที่สุดในจักรวรรดิก็เดินทางเข้ามาเพื่อมาดูแลอาการป่วยของท่านดยุค
“อาการป่วยของท่านดยุคเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ”
หมอถามออกมาพร้อมกับจับชีพจร
“ท่านดยุคปกติดีทุกอย่างจนถึงตอนที่ท่านนั่งรถม้าเพื่อเดินทางกลับมาจากวิหาร ท่านมีอาการอาเจียนออกมาและไม่แตะต้องอาหารหรือแม้กระทั่งน้ำชาที่ท่านชอบดื่มเป็นประจำ แล้วก็..ดูเหมือนท่านจะเวียนหัวมากครับ”
หมอพยักหน้าพร้อมกับจดอาการพวกนั้นที่คนรับใช้คนสนิทบอกกล่าวลงไปในกระดาษ
“นี่ท่านดยุคถูกพิษรึเปล่า..”
ไดอาน่ากล่าวถามด้วยความร้อนใจ
“ไม่มีร่องรอยของการถูกพิษตรงไหนเลยครับ ร่างกายของท่านปกติดีทุกอย่าง ไม่มีไข้ ไม่ได้รับพิษ และไม่บาดเจ็บตรงไหนด้วย”
ไดอาน่าขมวดคิ้วในทันที นี่คือหมอที่เก่งกาจที่สุดในจักรวรรดิจริงๆ อย่างนั้นหรือ
“แล้วอาการที่ลูกของข้าเป็นอยู่นี้มันคืออะไรกัน หากว่าเขาสบายดีทุกอย่าง..”
เมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่เริ่มตึงเครียดของท่านหญิงบรรยากาศในห้องก็กดดันขึ้นมาในทันที
“อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยครับ อาการของท่านดยุคนั้นบอกได้ยากเย็นยิ่งนักว่าท่านป่วยเป็นอะไร แต่หากว่าอาการพวกนี้เกิดขึ้นในสตรี..อาจจะเรียกได้ว่านี่คืออาการตั้งครรภ์หรืออาการแพ้ท้อง ในบุรุษจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อบุรุษผู้นั้นมีอาการแพ้ท้องแทนภรรยา..แต่นี่ท่านดยุคยังไม่มี..ภรรยา...”
ไดอาน่ายกมือขึ้นมาปิดปากในทันที เธอมองหน้าลูกชายที่กำลังอยู่ในอาการตกใจไม่แพ้กับเธอ
“ข้าต้องการพูดคุยกับลูกชายตามลำพัง ทุกคนช่วยออกไปก่อน”
กอนจัดการพาท่านหมอออกไปด้านนอกห้องทันทีที่ท่านหญิงเอ่ยเสียงแข็ง
ไดอาน่านั่งลงข้างเตียงนอนของเอสเตบัน
“มันยังไงกันเอส ทำไมเรื่องราวทั้งหมดมันชี้มาที่เจ้าว่าเจ้าคือพ่อของเด็กในครรภ์ของแมเดอลีน!!”
เขาเองก็อยากจะถามแบบนั้นเหมือนกันว่าทำไมกัน
“เมื่อเดือนก่อนข้าไปที่ร้านสุรามา และที่นั่นมีกฎว่าทุกคนที่เข้าร่วมจะต้องสวมสร้อยคอที่ทำจากเวทมนตร์เพื่อลบความทรงจำ ..และข้าได้หลับนอนกับสตรีผู้หนึ่ง..”
ท่านหญิงไดอาน่าถอนหายใจออกมาด้วยความวิตกกังวล
“เช่นนั้นที่ลูกไปที่นั่นก็เพื่อนอนกับสตรีไปเรื่อยๆ อย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอนท่านแม่ ลูกแค่..ลูกลืมสตรีผู้นั้นไม่ลงเพราะแบบนั้นลูกจึงไปที่นั่นเพื่อไปตามหานาง..ลูกไปที่นั่นตลอดสัปดาห์ก็จริงแต่ลูกไม่ได้นอนกับใครเลย ลูกไปเพื่อตามหานาง”
นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกันนะ!!
“แล้ว..เหตุผลที่ลูกลืมสตรีผู้นั้นไม่ลง มันคืออะไรกัน”
เอสเตบันหลับตาลงช้าๆ
“เรื่องนั้นลูกเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจจะเพราะว่าลูกเป็นคนพรากเอาความบริสุทธิ์ของนางมาก็เป็นได้..”
“เช่นนั้นแม่ถามคำเดียวว่าเจ้าพร้อมที่จะรับผิดชอบการกระทำของตัวเองไหม?”
เอสเตบันพยักหน้า
“แต่อย่างที่เจ้าและแม่ได้ยิน ท่านบารอนไม่ต้องการให้แมเดอลีนแต่งงานเพียงเพราะว่าอีกฝ่ายต้องการรับผิดชอบ เจ้าต้องรักนาง..”
พอมาถึงตอนนี้เอสเตบันค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าสตรีในค่ำคืนนั้นคือแมเดอลีนอย่างแน่นอน กลิ่นกายที่แสนหอมหวาน จุมพิตที่คุ้นอยู่ในใจ และ..นางตั้งครรภ์ส่วนเขามีอาการเหมือนสตรีที่กำลังแพ้ท้อง
เขาคือพ่อของเด็กท้องนางไม่ผิดแน่ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่นางไม่รู้ว่าบุรุษในคืนนั้นเป็นเขา และบารอนโอทีสพ่อของนางไม่ยินยอมให้เขาแต่งงานกับนางง่ายอย่างแน่นอน
ท่านแม่บอกให้เขารักนาง แต่คือคนเรามันไม่ได้รักกันได้ง่ายดายเช่นนั้น จริงอยู่ที่เขาหวั่นไหวเพราะนางแต่เรื่องความรักเราต่างก็ต้องใช้เวลา..
แต่หากถามหาความรับผิดชอบเขายินดีที่จะรับผิดชอบทุกการกระทำของตัวเองจริงๆ
“ไม่รู้ล่ะเอส ก่อนที่แมเดอลีนจะคลอดเด็กคนนั้นออกมา เจ้าจะต้องหาทางแต่งงานกับนางให้ได้ รีบยอมรับก่อนที่เด็กที่คลอดออกมาจะเปิดเผยความจริงแทนเจ้า”
เอสเตบันหลับตาลงอีกครั้งหนึ่ง เขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองในตอนนี้รู้สึกดีใจหรือว่าเสียใจกันแน่ที่เขาตามหาสตรีที่เขาต้องการพบเจอ..
เมื่อท่านแม่ของเขาเดินออกไปจากห้องนอน เอสเตบันก็สั่งให้กอนไปนำเครื่องมือเวทมนตร์มาให้เขา
“นายท่านครับ..”
“ออกไปซะ หากข้าไม่เรียกก็ไม่ต้องเข้ามา”
เขากำลังหาทางแก้ปัญหาอยู่ ทำให้นางรักอาจจะไม่ยากอย่างที่คิดก็ได้ การจะทำให้พ่อของนางยอมรับเขา ขั้นแรกต้องทำให้นางยินยอมรับเขาก่อนต่างหาก
และการที่คนเราจะสามารถรักกันได้นั้น จะต้องเข้าไปใกล้ชิดนางก่อน..
แมเดอลีนยกยิ้มขึ้นมาด้วยความสุข วันนี้เธอพูดคุยกับเดมเลล่าไปมากพอสมควร นางเอกของเรื่องนี้มีมุมที่ทั้งน่ารักและตลกในแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนดาเนียเองก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของเธอเสมอมา เธอยกมือขึ้นแล้วลูบลงไปบนท้องเบาๆ
แมเดอลีนมั่นใจว่าเด็กคนนี้จะเกิดมาโดยไม่รู้สึกขาดหายถึงแม้ว่าลูกของเธอจะไม่มีพ่อก็ตามที แต่เขาจะถูกรักด้วยแม่ และท่านตาท่านยาย ท่านน้าดาเนีย
ขอบคุณนะที่ลูกเลือกที่จะมาอยู่กับแม่..
ในขณะที่แมดเอลีนกำลังนั่งอยู่บนเตียงนอน เสียงลมก็ลอยปะทะเข้ามาทางหน้าต่างพร้อมกับเงาร่างของบุรุษผู้หนึ่งที่กำลังเดินเข้ามา
เธอหันไปมองหน้าเขาแล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แมเดอลีนกำลังจะอ้าปากกรีดร้องเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ทว่าเขากลับยื่นมือมาปิดปากของเธอเอาไว้ในทันที
“ไม่เป็นไร..ข้าไม่ได้มาทำร้ายเจ้าอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวไปที่รัก”
เสียงนี้ทำไมมันคุ้นมากเหลือเกิน