14.เจตนา
เอสเตบันกำลังนั่งอยู่บนรถม้า เขายกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองเอาไว้ด้วยฝ่ามือที่สั่นเทาเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรกันแน่ รู้เพียงแต่ว่าเขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิดเดียว
กอนมองเห็นเจ้านายของเขาที่มีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก เขาส่งแก้วน้ำชาสงบใจที่จัดเตรียมมาไว้ให้ท่านดยุคของเขาดื่ม
“อย่ากังวลไปเลยครับท่านดยุค เรื่องที่เลดี้เรเซเดนตั้งครรภ์มันไม่เกี่ยวข้องกับนายท่านหรอกครับ..”
ถ้ามันไม่เกี่ยวกับเขา แล้วมันเกี่ยวกับใครล่ะ? เอสเตบันยื่นมือไปรับแก้วน้ำชาสงบใจของกอน ทหารคนสนิทมาดื่มเพื่อดับกระหาย เขากำลังภาวนาในใจขอให้ทุกอย่างมันเป็นไปด้วยดี หากว่าเลดี้เซเรเดนเป็นสตรีในคืนนั้นที่เขาใช้เวลาด้วยจริงๆ จะอย่างไรเขาก็จะต้องแต่งงานกับนางเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เขาจะปัดความรับผิดชอบนี้ไปให้คนอื่นไม่ได้ ส่วนเรื่องของเลล่าและลุควิค เขาคงจะต้องยอมลามือและยินยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้เอาไว้อย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
“...พะ..พรวด!!”
ทันทีที่เอสเตบันยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขาก็พ่นมันออกมาในทันทีพร้อมกับมองหน้าของกอนด้วยความโมโห
“นี่มัน..น้ำชาอะไรของเจ้า!!”
กอนรีบส่งผ้าเช็ดหน้าให้ท่านดยุค
“นี่คือชาสงบใจที่ท่านดยุคทานเป็นประจำนะครับ ข้าไม่ได้เติมอะไรเข้าไปเลยสักนิดเดียว”
“แล้วกลิ่นที่มันไม่ชอบมาพากลพวกนั้นมันมาจากไหนกัน!”
กอนรินน้ำชาออกมาจากกาแล้วยกขึ้นมาดื่ม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อรสชาติและกลิ่นน้ำชานี่ก็เหมือนเดิมทุกประการ แล้วเหตุใดนายท่านของเขาถึงได้คิดว่ากลิ่นและรสชาติของชาสงบใจนี่เปลี่ยนไป
“ไม่ต้องเอาน้ำชา รินสุราใส่แก้วมา”
เขาต้องการให้ฤทธิ์ร้อนแรงของสุราทำให้เขามีความกล้าอีกหน่อยเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่กำลังจะตีแสกหน้าลงมา
กอนรินสุราใส่แก้วแล้วส่งให้นายท่าน ของเขาอีกครั้ง
“อย่าดื่มมากนะครับ ท่านหญิงคงจะไม่พอใจหากเห็นท่านดยุคเมา..”
เอสเตบันถอนหายใจ เขายกแก้วสุราขึ้นมาดื่ม แต่ทว่าในทันทีที่เขากำลังจะกลืนสุราที่อยู่ในปากเขากลับกลืนมันไม่ลง ร่างกายรู้สึกปั่นป่วนอย่างไม่ทราบถึงสาเหตุ เอสเตบันบ้วนสุราในปากออกมาพร้อมกับอาเจียนออกมาในทันที
กอนรีบลูบหลังของท่านดยุคพร้อมกับส่งให้รถม้าหยุดวิ่ง
“ข้าคิดว่าข้าควรจะพาท่านดยุคไปหาหมอก่อนดีหรือไม่..”
เอสเตบันส่ายหน้า
“ข้าไม่อยากให้ท่านแม่โกรธ..ไปที่เรเซเดนเร็วๆ เถอะ ข้าไม่เป็นไร..อะ..อ้วกกก!!”
กอนมองท่านดยุคด้วยความเห็นใจ เราเดินทางมาถึงคฤหาสน์เรเซเดนแทบจะเป็นตระกูลสุดท้าย มีรถม้าจากตระกูลแบล็ค กรีน และเกโลทีสจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์ เอสเตบันลงรถม้าด้วยสภาพที่สีหน้าที่สู้ดีเท่าไหร่นัก เขาเวียนหัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ และการก้าวเดินไปข้างหน้าทำได้ยากเย็นมาพอสมควร
“มาแล้วอย่างนั้นหรือเอส..”
ในห้องรับรองของคฤหาสน์เรเซเดนเต็มไปด้วยแขกจากตระกูลต่างๆ มากมาย เขานั่งลงข้างๆ ท่านแม่ที่กำลังยิ้มแย้มด้วยความอารมณ์ดี
“ในเมื่อมากันครบถ้วนแล้ว เช่นนั้นข้าจะกล่าว..อย่างตรงไปและตรงมาเพื่อไม่ให้ทุกท่านเสียเวลา”
ท่านบารอนโอทีสกล่าวออกมาเสียงเข้มพร้อมกับกางเอกสารที่มีตราประทับขององค์จักรพรรดิ
“ข้าไม่คิดเหมือนกันว่าพวกท่านจะเดินทางมาที่นี่กันครบทุกตระกูลเช่นนี้ นับเป็นเกียรติของเรเซเดนยิ่งแล้วครับ”
พวกผู้ใหญ่อยู่อีกห้องหนึ่ง ส่วนห้องข้างๆ มีแมเดอลีน ดาเนียและเลลานี่นั่งอยู่ด้วยกัน
“อาการของเลดี้ดีขึ้นแล้วใช่ไหมคะ”
แมเดอลีนพยักหน้า
“ขอบคุณเดมมากนะคะที่มาเยี่ยม ข้าทำให้ท่านลำบากแล้ว”
เลล่านี่ส่งยิ้มให้กับแมเดอลีนด้วยรอยยิ้มแสนอ่อนโยน
“ไม่ลำบากอะไรเลยค่ะ ข้าต้องขอบคุณเลดี้ซะอีกที่ทำให้ข้าไม่ต้องอยู่ที่วิหารนั่นอีกแล้ว เมื่อข่าวการตั้งครรภ์ของเลดี้ถูกประกาศออกไป ท่านพ่อของข้าก็รีบพาข้ามาที่นี่ในทันที..”
ดวงตาของเลล่านี่เศร้าหมองเล็กน้อย ที่เธอมาที่นี่เพราะเจตนาของท่านพ่อคือการย้ำเตือนกับตระกูลสายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือว่ายังมีสตรีอีกคนที่พร้อมจะแต่งงานกับพวกเขา และเพื่อมาดูให้แจ้งแก่ใจว่าบุรุษผู้ไหนกันที่ทำเรื่องน่าอับอายกับเลดี้เรเซเดนเช่นนี้
“ข้าขอประกาศอย่างเป็นทางการว่าข้าไม่ต้องการลูกเขยครับ หลานของข้าที่กำลังจะลืมตาขึ้นมานั้นข้าจะไม่มีวันยกเขาให้กับตระกูลไหนทั้งนั้น เขาจะใช้ชื่อของเรเซเดนเป็นชื่อตระกูลไม่ว่าเขาจะเกิดมามีเส้นผมสีอะไรก็ตามที”
เสียงของบารอนโอทีสที่ประกาศออกมานั้นมันทั้งหนักแน่นและมั่นคงมากๆ เลล่านี่ยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเธอมองเห็นความรักของพ่อที่กำลังกางแขนออกเพื่อปกป้องบุตรีอันเป็นที่รัก
พ่อของเธอคงจะไม่มีวันทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน
“เรื่องนั้นข้าไม่เห็นด้วยนะคะท่านบารอน อันที่จริงข้าอยากพบเจอและพูดคุยกับเลดี้ เรเซเดนเป็นการส่วนตัวว่าพ่อของหลานท่านคือผู้ใดกัน”
ท่านหญิงไดอาน่ากล่าวพร้อมกับมองหน้าของบารอนโอทีสอย่างไม่คิดเกรงกลัว
“มันจะมีประโยชน์อันใดกันครับท่านหญิง หากงานแต่งของบุตรีสุดที่รักของข้ามันไม่ได้เกิดมาจากความรัก แต่มันกลับเป็นความรับผิดชอบ..ข้าไม่ต้องการให้ชีวิตที่เหลือของแมดดี้จะต้องมาจมอยู่กับบุรุษที่ไม่ได้รักนาง แบบนั้นสู้ให้นางอยู่ในอ้อมกอดของข้าผู้เป็นบิดาเสียยังดีกว่า ข้าจะปกป้องลูกสาวและหลานของข้าเองครับ”
ความตั้งใจของบารอนนั้นหนักแน่นมากทีเดียว ซึ่งในส่วนนั้นท่านหญิงไดอาน่าก็ต้องยอมรับในใจถึงความรักที่บารอนมีต่อลูกสาว
“ข้าเห็นด้วยกับท่านบารอนนะครับ เลดี้แมเดอลีนควรจะพบเจอบุรุษที่รักนางอย่างแท้จริง สิ่งที่เกิดขึ้นมาแก้ไขสิ่งใดมิได้ เพราะแบบนั้นการกระทำเช่นนี้นับว่าถูกต้องยิ่งแล้วครับ”
เซอร์อดัมกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มเพื่อสรรเสริญแก่ความตัดสินใจของท่านบารอน
“ข้าเห็นด้วยค่ะ ขอแสดงความยินดีกับท่านบารอนที่จะมีหลานคนแรกเอาไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ เรื่องที่เซอร์กรีนกล่าวออกมานั้นถูกต้องยิ่งนัก ข้าไม่ต้องการให้การก้าวเท้าที่ผิดพลาดของเลดี้แมเดอลีนทำให้นางพลาดโอกาสอันดีที่นางจะพบเจอบุรุษที่นางรัก”
มารดาของลุควิคกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
โอทีสกำมือแน่น เจ้าคนพวกนี้มองลูกสาวของเขาเป็นแม่วัวที่รอการผสมพันธุ์รึไงกัน ไม่มีใครเป็นห่วงจิตใจที่บอบช้ำของลูกสาวเขาเลย มีแต่คนที่ต้องการให้นางเปิดใจกับความรักครั้งใหม่โดยที่นางยังไม่ทันได้คลอดลูกออกมาเลยด้วยซ้ำ!!
แล้วแบบนี้จะให้เขายินยอมปล่อยทั้งลูกและหลานของเขาให้คาดสายตาได้อย่างไรกัน!